นพ.หทัย ชิตานนท์ ประธานสถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย และประธานรัฐภาคีกฎหมายบุหรี่โลก ขององค์การอนามัยโลก (2550-2551) กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการทวงถามความคืบหน้าในการดำเนินคดี บริษัทฟิลลิป มอร์ริส ต่ออัยการสูงสุด ซึ่งเป็นผู้ดูแลคดีดังกล่าว โดยระหว่างการสอบสวนคดี 2 ปีที่ผ่านมา ได้ทวงถามไป 2-3 ครั้ง แต่มีจดหมายตอบกลับเพียงว่า กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี ทำให้ไม่ทราบว่าการดำเนินคดีเป็นไปอย่างไร และมีความคืบหน้าอย่างไร สาเหตุที่เรื่องดังกล่าวยังค้างอยู่ที่อัยการสูงสุดมาแล้วถึง 2 ปี เกิดจากสาเหตุอะไรนั้น จะมีการรวบรวมเอกสารและหลักฐานทั้งหมดเสนอต่อ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ซึ่งถือเป็นความหวังเดียว เพราะที่ผ่านมาวิธีปกติตามกระบวนการราชการไม่สามารถแก้ปัญหาได้ โดยที่ผ่านมา คสช.สามารถแก้ปัญหาที่หมักหมมมานานอย่าง การบิน การประมง โดยวิธีพิเศษมาแล้ว เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้เช่นเดียวกัน
นพ.หทัย กล่าวถึงกรณีที่บริษัท ฟิลลิปมอร์ริส อ้างว่าองค์การการค้าโลก ได้มีคำตัดสินว่าบริษัทไม่ผิด และประเทศไทยผิดต่อบริษัทนั้น ว่า เรื่องดังกล่าวบริษัทแก้ตัว และพูดไม่หมด ซึ่งเรื่องเกิดจากภายหลังจากที่ประเทศไทย มองเห็นความผิดปกติในการสำแดงราคาของบริษัทฟิลลิปมอร์ริส ทางบริษัทมีการบังคับให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ ฟ้องประเทศไทย ที่องค์การการค้าโลก ซึ่งทางประเทศฟิลิปปินส์ ถือเป็นตัวแทนของ บริษัทฟิลลิปมอร์ริส เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีอิทธิพลต่อประเทศฟิลิปปินส์อย่างมาก โดยองค์การการค้าโลก ได้พิจารณาในหลายประเด็น และระบุว่า ประเทศไทยทำไม่ถูกในหลายข้อโดยเฉพาะประเด็นระหว่างประเทศ เช่น กรณีที่รัฐบาลอุ้มบริษัทยาสูบของประเทศไทย โดยมีข้าราชการระดับสูงในสัดส่วนคณะกรรมการโรงงานยาสูบ ถือเป็นการทำไม่ถูกกฎขององค์การการค้าโลก เพราะทำให้เกิดการได้เปรียบบริษัทผู้ค้าต่างประเทศ ที่เข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทย เป็นต้น
“หากไปเปิดคำพิจารณาขององค์การการค้าโลก ในกรณีดังกล่าว จะเห็นได้ว่า ไม่มีข้อไหนที่กล่าวถึงประเด็นเรื่องการสำแดงราคา หรือ ระบุว่าการสำแดงราคาของบริษัทนั้นถูกต้องแล้ว เพราะองค์การการค้าโลก ไม่ได้พิจารณาเรื่องราคาต้องสำแดง เนื่องจากเป็นวิธี ระเบียบปฏิบัติการค้าภายในประเทศ จะไม่มีการควบคุมวิธีการซื้อขายภายในประเทศ และสิ่งที่เป็นระเบียบของประเทศไทย ระเบียบเกี่ยวกับภาษี ก็ไม่ใช่เรื่องที่ให้คนอื่นมาชี้ว่าให้ทำอย่างไร จึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ที่บริษัทจะอ้างกรณีการตัดสินขององค์การการค้าโลก และขอท้าให้เปิดหลักฐานในกรณีดังกล่าว” นพ.หทัย กล่าว
นพ.หทัย กล่าวถึงกรณีที่บริษัท ฟิลลิปมอร์ริส อ้างว่าองค์การการค้าโลก ได้มีคำตัดสินว่าบริษัทไม่ผิด และประเทศไทยผิดต่อบริษัทนั้น ว่า เรื่องดังกล่าวบริษัทแก้ตัว และพูดไม่หมด ซึ่งเรื่องเกิดจากภายหลังจากที่ประเทศไทย มองเห็นความผิดปกติในการสำแดงราคาของบริษัทฟิลลิปมอร์ริส ทางบริษัทมีการบังคับให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ ฟ้องประเทศไทย ที่องค์การการค้าโลก ซึ่งทางประเทศฟิลิปปินส์ ถือเป็นตัวแทนของ บริษัทฟิลลิปมอร์ริส เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีอิทธิพลต่อประเทศฟิลิปปินส์อย่างมาก โดยองค์การการค้าโลก ได้พิจารณาในหลายประเด็น และระบุว่า ประเทศไทยทำไม่ถูกในหลายข้อโดยเฉพาะประเด็นระหว่างประเทศ เช่น กรณีที่รัฐบาลอุ้มบริษัทยาสูบของประเทศไทย โดยมีข้าราชการระดับสูงในสัดส่วนคณะกรรมการโรงงานยาสูบ ถือเป็นการทำไม่ถูกกฎขององค์การการค้าโลก เพราะทำให้เกิดการได้เปรียบบริษัทผู้ค้าต่างประเทศ ที่เข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทย เป็นต้น
“หากไปเปิดคำพิจารณาขององค์การการค้าโลก ในกรณีดังกล่าว จะเห็นได้ว่า ไม่มีข้อไหนที่กล่าวถึงประเด็นเรื่องการสำแดงราคา หรือ ระบุว่าการสำแดงราคาของบริษัทนั้นถูกต้องแล้ว เพราะองค์การการค้าโลก ไม่ได้พิจารณาเรื่องราคาต้องสำแดง เนื่องจากเป็นวิธี ระเบียบปฏิบัติการค้าภายในประเทศ จะไม่มีการควบคุมวิธีการซื้อขายภายในประเทศ และสิ่งที่เป็นระเบียบของประเทศไทย ระเบียบเกี่ยวกับภาษี ก็ไม่ใช่เรื่องที่ให้คนอื่นมาชี้ว่าให้ทำอย่างไร จึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ที่บริษัทจะอ้างกรณีการตัดสินขององค์การการค้าโลก และขอท้าให้เปิดหลักฐานในกรณีดังกล่าว” นพ.หทัย กล่าว