รอยเตอร์ – ออสเตรเลียจะเพิ่มข้อบังคับติดฉลากประเทศผู้ผลิตสินค้าอาหารตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นไป นายกรัฐมนตรี โทนี แอ๊บบอตต์ เผยในวันนี้ (21) ความเคลื่อนไหวซึ่งได้รับแรงกระตุ้นมาจากการแพร่ระบาดของโรคตับอักเสบเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งถูกชี้ว่ามีสาเหตุมาจากเบอร์รีปนเปื้อนจากจีน
แอ๊บบอตต์ บอกกับผู้สื่อข่าวในกรุงแคนเบอร์ราว่า ภายใต้กฎหมายใหม่ฉบับนี้ ฉลากอาหารจะแสดงให้ผู้บริโภคเห็นว่าผลิตภัณฑ์ผลิตขึ้น , ปลูกขึ้น หรือถูกบรรจุหีบห่อจากที่ไหน
อาหารที่ผลิตภายในประเทศจะมีโลโก้จิงโจ้สีเขียวและสีทอง และข้างใต้จะมีแถบแสดงสัดส่วนของส่วนผสมที่มาจากออสเตรเลีย
บาร์นาบี จอยส์ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร ปฏิเสธเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามันเป็นความหวาดกลัวชาวต่างชาติ โดยยืนกรานว่ากฎหมายใหม่ฉบับนี้เป็นเพียงการปิดช่องโหว่ในกฎหมายเท่านั้น
แอ๊บบอตต์ กล่าวว่า บริษัทต่างๆจะถูกกระตุ้นให้ยกระดับมาตรฐานของพวกเขาและระบุแหล่งที่มาของส่วนประกอบหลัก
ตอนที่ข้อบังคับติดฉลากระบุประเทศผู้ผลิตดังกล่าวถูกเสนอในเดือนกุมภาพันธ์ นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า กฎหมายนี้อาจขัดต่อกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก (WTO)
WTO เคยตัดสินค้านการติดฉลากลักษณะเดียวกันในผลิตภัณฑ์เนื้อวัวในสหรัฐฯ ด้วยเหตุผลที่ว่ามันการเอื้อประโยชน์กับปศุสัตว์ภายในประเทศ
แอ๊บบอตต์กล่าวว่า เขามั่นใจว่ากฎหมายใหม่นี้จะสอดคล้องกฎของ WTO และ จอยส์ ยืนยันว่า กรณีของสหรัฐฯเทียบกันไม่ได้
บรรดาผู้ผลิตกำลังให้ความสำคัญกับสิ่งรับรองความเป็นออสเตรเลียของพวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ โพลรอยมอร์แกนในปี 2013 แสดงให้เห็นว่า กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของชาวออสเตรเลียบางครั้งก็เลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพราะว่ามันผลิตในออสเตรเลีย แม้ว่ามันจะมีราคาแพงกว่าสินค้านำเข้าก็ตาม
การแพร่ระบาดของโรคตับอักเสบในเดือนกุมภาพันธ์มีความเกี่ยวโยงกับเบอรรีที่ปลูกในจีนและถูกบรรจุหีบห่อในโรงงานแห่งหนึ่งที่นั่น ซึ่งสุขอนามัยที่ย่ำแย่และน้ำที่ปนเปื้อนอาจเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพดังกล่าว