xs
xsm
sm
md
lg

แบ่งงานรองนายกฯ ตั้งบิ๊กขรก.ล๊อตใหญ่ “สมชัย”นั่งปลัดคลัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัรน - "บิ๊กตู่" สั่ง ครม.ชุดใหม่ ต้องขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้ชัดเจนภายในปี 59 แบ่งงานรองนายกฯ ไม่ชะลอสี่จี สั่ง“วิษณุ”หาช่องลบภาพเคลือบแคลงขรก.นั่งรมต.ผลประโยชน์ทับซ้อน ครม.ตั้งบิ๊ก ขรก.ล๊อตใหญ่ ดัน “สมชัย” ปลัดคลัง เด้ง “ชวลิต” พ้นปลัดเกษตรฯ เหตุเอี่ยวทุจริตจำนำลำไย "อภิสิทธิ์" เตือนให้สินเชื่อประชาชน ต้องมีมาตรการเหมาะสม-ไม่ประชานิยม

เวลา 12.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม.ว่า วันนี้เป็นการประชุมของ ครม.ชุดใหม่ครั้งแรก ก็ได้มอบนโยบายในการทำงานเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องจากการปรับ ครม.ครั้งที่ 1และ 2 ที่ผ่านมา ครั้งนี้ถือเป็นการแต่งตั้งครั้งที่ 3 แต่ความจริงน่าจะเรียกว่า ครม. ชุด 2 มากกว่า เพราะในการปรับก่อนหน้านี้มีเพียงการเพิ่มตำแหน่ง รมช. เข้ามาเท่านั้น ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจและตนก็อยากให้มีเพียงชุดที่ 2 เท่านั้นถือว่าเต็มที่แล้ว

ทั้งนี้ตนได้มอบนโยบายไปหลายอย่าง ทั้งในส่วนการขับเคลื่อนการทำงานต่างๆ ให้มีผลเกิดเป็นรูปธรรม ซึ่งถือเป็นเหตุผลความจำเป็นในการปรับ ครม. เพราะ ครม.ในชุดที่ 1 ได้มีการคิดและทำมามากพอสมควร ทั้งในเรื่องหลักการและกฎหมาย โครงสร้างทางเศรษฐกิจ วันนี้จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการในการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ทุกอย่างจะต้องได้ข้อยุติที่ชัดเจนภายในปี 2559 ให้ได้ ตามโรดแมปที่วางไว้

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ต้องการเน้นย้ำโดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจที่จะต้องเดินหน้าต่อ ระยะที่ 2 คือการต้องสร้างความชัดเจนให้ได้ ให้เกิดการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรม

***ประยุทธ์แจงแบ่งงานรองนายกฯ

ทั้งนี้ได้แบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีในครม.แล้ว โดยแบ่งเป็นกระทรวง และให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ดูแลกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกระทรวงแรงงาน ส่วนฝ่ายเศรษฐกิจของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเอากระทรวงที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจทั้งหมดไปรวมจะได้บูรณาการกันทั้งหมด และจะแยกออกมาให้รองนายกรัฐมนตรีท่านอื่นดูแล พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงวัฒนธรรม

ส่วนกระทรวงการต่างประเทศก็ให้ฝ่ายเศรษฐกิจดูแลเพราะจะเดินหน้าเศรษฐกิจกับการต่างประเทศไปด้วยกัน แต่พล.อ.ธนะศักดิ์สามารถให้คำปรึกษาต่างๆ ได้ คือต้องช่วยกัน

เรื่องของกระทรวงคมนาคม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ก็สามารถให้คำปรึกษาได้ เพราะทั้งหมดตนต้องสั่งการอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า การพิจารณาเปิดสัมปทานปิโตรเลียมเป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังพิจารณาของเดิมอยู่ เพราะเป็นกฎหมาย และได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไปดูเรื่องนี้ให้ชัดเจนแล้ว การที่เอาทหารมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานนั้นเพราะเขาทำหน้าที่ตรงนี้มาอยู่แล้ว

***นายกยันเดินหน้าศก.ดิจิทัลต่อ ไม่ชะลอสี่จี

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล ว่า จะมีการทำต่อให้รวดเร็ว ตอนครม.ชุดแรกนั้นเหนื่อยตรงที่มีการทำโครงสร้างใหม่ ทำกฎหมายใหม่ วันนี้ต้องนำสิ่งเหล่านั้นมาดู เช่น การประมูลคลื่นความถี่สี่จี และทำดาต้าเซนเตอร์ เขาคิดไว้หมดแล้ว แต่ตนต้องการให้มันเกิดขึ้นให้ได้

เมื่อถามว่า จะนำกระทรวงมหาดไทยมาช่วยขับเคลื่อนด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทำอยู่แล้ว ว่ากระทรวงมหาดไทยดูแลประชาชนทั้งหมด เขาจะดูแลเรื่องตลาดทั้งหมด มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดูแล บางทีก็ต้องให้งบ 2 ทาง อะไรร่วมกันได้ก็ร่วม อันไหนไม่ทับซ้อนกันก็แบ่งกันไป เมื่อถามว่ายังมีการประมูลคลื่นความถี่สี่จีอยู่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เหมือนเดิม ยังทำอยู่ บอกแล้วว่าระยะที่ 2 นั้นจะมาเร่งเดินหน้า

****"บิ๊กตู่"ระบุครม.ใหม่ ไม่มีช่วงฮันนีมูน ลุยสางงานเก่าต่อเนื่อง

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังประชุมครม.ว่า ในที่ประชุมครม.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ได้กล่าวว่า คาดหวังครม.ชุดใหม่ ตั้งใจร่วมกันขับเคลื่อนประเทศ เพราะช่วงเวลาฮันนีมูลคงไม่มีแล้ว และต้องให้ความสำคัญกับรัฐบาลที่จะมีเวลาทำงานจากปลายปีนี้ คาบไปปีหน้าและอาจเลยไปปี 60 เล็กน้อย โดยเป้าหมายแรกสุด ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเดือนก.ย.59 มีอะไรต้องเสร็จแล้วบ้าง แต่ละเดือน และ 3 เดือนจะทำอะไร ก้าวหน้าแค่ไหน

นอกจากนี้ สิ่งที่ห่วงคือเรื่องราวเหล่านี้จะจบเมื่อรัฐบาลนี้หมดภารกิจไป ทำอย่างไรถึงให้รัฐบาลวันข้างหน้าให้ความสำคัญกับการบูรณาการ ต้องมีการกำหนดเป็นกฎหมายไว้หรือไม่ เพราะต่อไปเมื่อมีการแบ่งกระทรวงในลักษณะพรรคการเมือง เมื่อแบ่งก็จะบูรณาการการทำงานได้ยากบูรณา อยากให้ไปดูตรงนี้

*****สั่ง“วิษณุ”หาช่องลบภาพเคลือบแคลง

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวในที่ประชุม ครม. ว่า ภายในสิ้นเดือน ก.ย.2558 ครม.ชุดใหม่จะไม่มีบุคคลหนึ่ง บุคคลใด ไปข้าราชการประจำอยู่อีกสถานภาพหนึ่ง จะมีแต่สถานภาพการเป็นข้าราชการการเมืองเพียงอย่างเดียว จะด้วยเหตุของการเกษียณอายุราชการ หรือจะเป็นการพิจารณาลาออกเอง โดยได้มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีไปดูในรายละเอียด ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้รู้สึกเคลือบแคลงสงสัยในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ครม.ชุดนี้มีรัฐมนตรีถึง 4 คน ที่มีสถานภาพเป็นข้าราชการประจำอยู่ด้วย คือ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และดำรงตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐนตรี พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน และปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งทั้ง 2 คน ไม่มีปัญหา และได้แจ้งที่ประชุมครม.ว่าจะเกษียณอายุราชการ วันที่ 1 ต.ค.แล้ว ขณะที่นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม แจ้งว่าจะลาออกจากปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมสิ้นเดือนส.ค.นี้ ที่มีปัญหาคือนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ซึ่งยังมีอายุราชการในตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติอีก 1 ปี นายกฯจึงมอบหมายนายวิษณุ ไปดูกระแสสังคมภาพการเป็นข้าราชการมาเป็นรัฐมนตรี ดูความเหมาะสม


***ครม.ตั้งบิ๊ก ขรก.ล๊อตใหญ่

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงในหลายกระทรวง ได้แก่ 1.นายสมชัย สัจจพงษ์ จากอธิบดีกรมศุลกากร เป็นปลัดกระทรวงการคลัง 2.นายกุลิศ สมบัติศิริ จากผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เป็นอธิบดีกรมศุลกากร 3.นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นผู้อำนวยการ สคร.

4.นางสุวณา สุวรรณจูฑะ จากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม5.นายอาทิตย์ วุฒิคะโร จากอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม 6.นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี จากรองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นปลัดกระทรวงคมนาคม 7.ม.ล.ปุณฑริก สมิติ จากอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นปลัดกระทรวงแรงงาน

8.น.ส.อาภรณ์ แก่นวงศ์ จากรองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (ก.ก.อ.) เป็นเลขาธิการ ก.ก.อ. 9.นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ จากที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ เป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และ 10.นายวิสูตร ประสิทธิ์ศิริวงศ์ จากรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เป็นเลขาธิการ ก.พ. ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติให้ นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตามข้อ 1 วรรคสาม ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 16/2558 ลงวันที่ 15 พ.ค. 2558 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ส่วนตำแหน่งปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะมีการพิจารณาแต่งตั้งต่อไป

สำหรับตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นั้น พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ยังไม่มีวาระดังกล่าวเสนอเข้ามาใน ครม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่มีการโยกย้ายนายชวลิตในครั้งนี้ เนื่องจากนายชวลิตได้ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทุจริตรับจำนำลำไย ปี 2547 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด (อสส.) กับ ป.ป.ช.ในการสรุปส่งฟ้อง ครม.จึงให้ออกจากตำแหน่งไว้ก่อน ขณะที่นายชวลิตกำลังอยู่ระหว่างการเดินทางไปดูแลการร่วมแสดงนวัตกรรมภาคเกษตรของไทยในงาน “เอ็กซ์โปมิลาโน่ 2015” ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี และมีกำหนดเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 26 ส.ค.นี้

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ขณะนี้นายชวลิตได้รับทราบมติ ครม.ดังกล่าวแล้ว และเห็นว่าการโยกย้ายเป็นปกติ ไม่มีอะไรพิเศษ

***"สมชัย" ขึ้นปลัดคลัง

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติแต่งตั้งนายสมชัย สัจจพงษ์ เป็นปลัดกระทรวงการคลัง แต่งตั้งนายกุลิศ สมบัติศิริ จากผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เป็นอธิบดีกรมศุลกากร และแต่งตั้งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)

*** “มาร์ค” วิจารณ์ครม.ศก

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการปรับครม."ประยุทธ์ 3" ว่า เป็นการเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจที่มีลักษณะอนุรักษ์นิยมน้อยลง เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องกำลังซื้อมากขึ้น

นายอภิสิทธิ์ ยังเตือนว่า การมุ่งให้สินเชื่อกับประชาชนเพื่อเพิ่มกำลังซื้อ มีข้อควรระวัง เพราะหนี้ครัวเรือนขณะนี้สูงอยู่แล้ว จึงต้องรอดูว่ารูปแบบที่รัฐจะดำเนินการ เป็นอย่างไร แต่การยอมรับว่ากำลังซื้อในชนบทเป็นตัวถ่วงเศรษฐกิจ ถือว่ายอมรับความจริงที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาถูกตรงจุดมากขึ้น แต่ต้องมีมาตรการที่เหมาะสมด้วย โดยระวังว่าอย่าให้กลับไปสูงลักษณะประชานิยม ที่ไม่ยั่งยืน เพราะเศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง และล่าสุด เกิดผลกระทบกับตลาดทุน ส่วนกรณีที่รายได้รัฐจัดเก็บได้ลดลงกว่าสองแสนล้านบาทนั้น รัฐบาลก็ต้องจัดสมดุลอยู่บนความพอดี

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันโครงการขนาดใหญ่ก็ต้องพิจารณาในความจำเป็นในเชิงยุทธศาสตร์และความคุ้มค่า ต้องดำเนินการในรูปแบบที่เหมาะสมด้วย เช่น กรณีโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ควรเป็นการร่วมทุน ไม่ใช่กู้จากจีนร้อยเปอร์เซ็นต์
กำลังโหลดความคิดเห็น