ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
ไม่ว่ากลุ่มใดอยู่เบื้องหลัง ปฏิบัติการวางระเบิดกลางสี่แยกราชประสงค์ แต่เป้าหมายในการสังหารหมู่ชีวิตผู้คนได้บรรลุแล้ว พร้อมกับการทำลายภาพพจน์และระบบเศรษฐกิจของประเทศ
ผลกระทบจากระเบิดกลางแยกราชประสงค์เกิดขึ้นเต็มๆ กับตลาดหุ้น โดยดัชนีถล่มทลายทันที นักลงทุนเทขายในลักษณะหนีตาย เพราะความตื่นตระหนก
ระบบเศรษฐกิจโดนเข้าไปเต็มเปา เพียงแต่ยังประเมินไม่ได้ว่า จะรุนแรงขนาดไหน และต้องใช้เวลานานเท่าไหร่จึงเรียกความเชื่อมั่นกลับมา
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกระอักแน่ เพราะต่างชาติเกิดความตื่นตระหนก และหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้ามาประเทศไทย โดยหลายประเทศได้ออกคำเตือนแล้ว
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประมาณการว่า ปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยประมาณ 28 ล้านคน จากปี2557มีจำนวน 24 ล้านคน และจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท
7 เดือนแรกธุรกิจการท่องเที่ยวกำลังไปได้สวย ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นไปตามเป้า แต่หลังระเบิดที่ราชประสงค์ และระเบิดซ้ำที่ย่านถนนสาธร ซึ่งไม่สามารถประเมินได้ว่า จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างไร
จำนวนนักท่องเที่ยวจะลดฮวบหรือไม่ รายได้จากการท่องเที่ยวจะวูบลงขนาดไหน
การท่องเที่ยว เป็นช่องทางเดียวที่เหลืออยู่ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เพราะเครื่องยนต์อื่นๆดับหมด ไม่ว่าการส่งออก ซึ่งถูกปรับลดประมาณการลง จากเดิมที่คาดว่าจะโตประมาณ 4% ล่าสุดลดเป้าเหลือโต 0%
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) จากที่คาดว่าจะโตถึง 4.5% ล่าสุดถูกปรับลดเหลือ 3% และไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่
การลงทุนภาคเอกชนม้วนเสื่อชั่วคราว ขณะที่กำลังซื้อในประเทศทรุดฮวบ รายได้จากการท่องเที่ยวจึงเป็นความหวังเดียวที่จะประคับประคองระบบเศรษฐกิจ
แต่ระเบิดสองลูกติดต่อกลางใจเมือง ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสั่นคลอนง หุ้นธุรกิจโรงแรม สายการบิน หุ้นสนามบิน หรือแม้แต่หุ้นโรงพยาบาลที่ต่างชาตินิยมเดินทางเข้ามารับการรักษา ต้องหล่นวูบยกแผงทันที
ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนากัน ขอให้จับตัวคนร้ายได้ ขออย่าได้มีระเบิดลูกใหม่ตามมาอีก เพราะถ้าเกิดเหตุร้ายซ้ำเติม อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีหวัง กลับ บ้านเก่า และจะฉุดให้เศรษฐกิจทรุดเกินเยียวยา ซึ่งปัจจุบันก็ย่ำแย่อยู่แล้ว จนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า
ระเบิดครั้งรุนแรงที่สุดกลางกรุงเทพมหานครฯ ไม่ว่าจะเกิดจากกลุ่มการเมืองหรือการก่อการร้าย ผลกระทบที่สร้างไว้คงไม่แตกต่างกันเท่าใด เพราะได้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปแล้ว ทำลายการท่องเที่ยว และทำร้ายระบบเศรษฐกิจ
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เจองานยากเสียแล้ว เพราะไม่ง่ายที่จะงัดเศรษฐกิจให้ฟื้น และความหวังที่จะเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวก็ทำท่าจะริบหรี่ลง
อนาคตของระบบเศรษฐกิจดูมืดมนจริงๆ อุตส่าห์ลงทุนปรับครม.เศรษฐกิจยกชุด หวังเรียกความเชื่อมั่นกลับ แต่เกิดเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ขึ้นมาเสียอีก ทำให้ต่างชาติขวัญกระเจิง กระทบการท่องเที่ยวหนัก และไม่รู้จะหาแนวทางใดมากระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว
ทุกฝ่ายทำใจไว้แล้ว จีดีพีโตปีนี้ได้3%ก็เก่ง ส่งออกโตได้0%ถือว่าสุดยอด กำลังซื้อถ้าไม่หดลงอีกก็พอใจ การลงทุนภาคเอกชนไม่ขยายตัวไม่เป็นไร แต่อย่าให้ธุรกิจเอกชนล้มครืนกันเป็นลูกโซ่ถือว่าใช้ได้
ไม่มีความคาดหวังทางเศรษฐกิจปี 2558 เหลืออยู่แล้ว 6 เดือนแรกซบเซาอย่างไร 6 เดือนหลังก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่ จนยอมรับกันแล้วว่า เศรษฐกิจหงอยตลอดทั้งปี และอาจสถานการณ์ความซบเซาอาจยืดเยื้อถึงปีหน้า
จุดต่ำสุดของระบบเศรษฐกิจไทย ไม่มีใครฟันธงว่า ผ่านพ้นไปหรือยัง แม้ปีนี้จะทรุดหนัก แต่อาจยังไม่ใช่สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หรือตกต่ำสุดขีดแล้วก็ได้
ปีนี้แม้จะน่ากลัว แต่ปีหน้าอาจน่ากลัวกว่า เพราะเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะหัวทิ่มต่อไป รากหญ้าจะอยู่กันอย่างไร ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจะทนกับผลกระทบไหวหรือไม่
ระเบิดลูกใหญ่กลางสี่แยกราชประสงค์สร้างโจทก์ใหม่ให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์อีกมากมาย การตามล่ามือระเบิดหรือกลุ่มคนผู้อยู่เบื้องหลัง ก็เป็นงานหนักแล้ว แต่ยังต้องตามเก็บกวาดผลกระทบที่ตามมาหลังเสียงระเบิดอีก โดยเฉพาะผลกระทบจากการท่องเที่ยว ซึ่งจะซ้ำเติมระบบเศรษฐกิจจนป่นปี้
คนที่อยู่เบื้องหลังการวางระเบิดสี่แยกราชประสงค์ อาจสะใจที่เห็นประเทศต้องวุ่นวาย แต่คนทั้งประเทศต้องร่วมรับชะตากรรม จากระบบเศรษฐกิจที่เดินเข้าสู่วาระสุดท้าย ถูกตอกฝาโลงก่อนเผาจริง
ปฏิบัติการระเบิดกลางสี่แยกราชประสงค์ เป็นฝีมือของจอมอำมหิตจริงๆ เพราะไม่เพียงทำลายล้างผู้บริสุทธิ์หลายสิบชีวิตเท่านั้น แต่กำลังทำร้ายคนทั้งประเทศที่ต้องเผชิญกับภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจ
ยกเครื่องครม.เศรษฐกิจแล้ว ประเทศพ้นวิกฤตหรือไม่ ไม่เกินสิ้นปีน่าจะมีคำตอบ
