ย้ายทหารคู่ขนานปรับครม.!?

เกาะกระแส

00 นาทีนี้ไม่ว่าเรื่องการ "ถอดยศ" ทักษิณ ชินวัตร ที่ตามกระบวนการแล้วต้องกลับไปยังต้นสังกัดเดิมคือ สตช.พิจารณาตามขั้นตอน ซึ่งก็คือต้องเริ่มต้นที่ ผบ.ตร. คนปัจจุบัน ที่ชื่อพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อยู่ดี แต่ถึงแม้ว่าจะ "ยื้อ" ให้ตัวเองเกษียณฯ หลังวันที่ 30 ก.ย.หรือไม่ก็ตาม อาจจะไม่มีความหมายในสายตาของชาวบ้าน แต่ความเสียหาย และความ "เสื่อมเกียรติ" จะเกิดขึ้นกับเขามากกว่า เพราะหลังจากที่คณะกรรมการพิจารณาชุดที่มี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เป็นประธานไปพลิกระเบียบข้อกฎหมาย รวมทั้งคำตอบจากที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาลอย่างกฤษฎีกา ที่เคยมีหนังสือคำตอบไปให้ สตช. ถึงสองรอบว่า "ถอดยศได้" ทุกอย่างก็ "แดง" ออกมาว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นี่แหละที่ "ส่อจงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ"

00 ส่วนจะมี "วาระซ่อนเร้น" ช่วยเหลือเกื้อกูลใคร หรือ"รับงาน" มาจากใคร หรือตอบแทนใคร รวมไปถึงเตรียมรับบำเหน็จรางวัลจากใครในอนาคตหรือไม่หากยื้อ หรือไม่ยอมถอดยศ ทักษิณ ชินวัตร ไปได้จนจบอายุขัยของตัวเอง แต่นั่นไม่มีความหมายแล้ว เพราะทุกอย่าง "แจ่มแจ้งแดงแจ๋" แล้ว ดังนั้นนับจากนี้ คนที่ไม่ไม่ดำเนินการ "ตามกฎหมาย" ต่างหากที่จะต้องโดน ไม่ว่าจะเป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่ว่าจะชื่ออะไรก็ตาม !!

00 เชื่อเถอะว่า ความวุ่นวายในบ้านเมืองมันไม่มีทางเกิดขึ้นเป็นอันขาด หากมีความชัดเจน ไม่อึมครึม และใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ทำให้บางคน "มีอภิสิทธิ์" ทุกอย่างมันก็เรียบร้อย ที่ผ่านมาเป็นเพราะบางคนมีอำนาจ มีเงิน คิดว่าให้คุณให้โทษกับตำแหน่งแห่งที่ได้ บางครั้งเลวร้ายถึงขนาดมีตำรวจเคารพนับถือโจรก็มี ซึ่งนี่คือวัฒนธรรมล้าหลัง ที่ขัดขวางความก้าวหน้าของบ้านเมืองมานาน และหากยังแก้ไขนิสัยแบบนี้ไม่ได้ และคนไทยยังตื่นรู้ไม่มากพอ ก็จะเกิดเรื่องทำนองนี้ไม่จบสิ้น !!

00 จากเรื่อง "กระจอก" ที่สร้าง"ความรำคาญใจ" มานาน ก็มาถึงเรื่องอื่นกันบ้าง ก็เรื่อง "ปรับครม." จากคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ที่บอกว่าได้จัดทำรายชื่อครม.ชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ และเตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า โผ ครม.ในยุคทหารนั้น มันหาข่าวได้ยาก และที่สำคัญอำนาจชี้ขาดเบ็ดเสร็จมีเพียงแค่คนสองคนเท่านั้น แต่ถ้าให้เดาตามความรู้สึกก็น่าจะ "ปรับใหญ่" ไม่น่าจะเปลี่ยนแค่คนสองคน เพราะเมื่อพิจารณาจากผลงานของรมต. แต่ละคนที่ผ่านมาต้องบอกว่า "น่าผิดหวัง" ไม่ใช่เฉพาะทีมเศรษฐกิจเท่านั้น แต่แทบทั้งครม. ถือว่า "ห่วยแตก" ต่ำกว่ามาตรฐานทั้งสิ้น !!

00 ดังนั้น เชื่อว่าคราวนี้เมื่อได้จังหวะที่รัฐบาลมีอายุครบหนึ่งปี ก็สมควรที่จะมีการปรับใหญ่ ให้หมุนเวียนกันเข้ามา คนที่ปรับออกก็คง "ไม่เสียหน้า" เพราะถือว่าได้ทำงานมาพอสมควรแล้ว นอกจากทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ที่เชื่อว่าน่าจะเปลี่ยน เพราะถ้าไม่เปลี่ยนก็ถือว่า "เกินไป" ยังมี "ทีมฝ่ายความมั่นคง" ซึ่งไม่แน่ว่าอาจจะมีการ "ขยับกันใหม่" เพื่อรองรับระดับบิ๊กที่เกษียณฯออกมาจากกองทัพ เท่าที่น่าจับตาก็คือ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร หลังจากพ้นจากเก้าอี้ ผบ.ทบ. แล้วจะต้องนั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม เต็มก้นหรือไม่ รวมไปถึงข่าวที่บอกว่า จะให้ "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงเต็มตัว คุมด้านนโยบายข้างบนอย่างเดียว หรือไม่ น่าจับตานัก !!

00 อย่างที่บอกว่า การปรับครม.เที่ยวนี้ น่าจะมีความเชื่อมโยงกับการโยกย้ายในกองทัพ โดยเฉพาะในกองทัพบก ที่มีส่วนสำคัญต่อดุลอำนาจ และเสถียรภาพความมั่นคงของรัฐบาลและคสช.ในอนาคตด้วย ตามข่าววงในบอกว่า มีการ "ชิงดำ" เก้าอี้ ผบ.ทบ. ระหว่าง พล.อ.ธีรชัย นาควานิช และ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แว่วมาอีกว่า พล.อ.ปรีชา อาจจะเข้าวิน ส่วนอีกคนก็ต้องข้ามห้วยไปนั่งปลัดกลาโหม ดังนั้น งานนี้ถ้าผลออกมาในแบบดังกล่าว มันก็ช่วยไม่ได้ว่า ต้องมองว่ามีรายการ "ต่อรองแลกเปลี่ยน" โดยเฉพาะต้องดูผลจากการปรับครม.ชุดใหม่ ว่ามีใคร "ขยับใหญ่" หรือใครมีบทบาทในการกำหนดตัวรมต.ในตำแหน่งสำคัญ หรือไม่ เพราะมันน่าจะเชื่อมโยงกัน !!