ASTVผู้จัดการรายวัน - สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ท่าน ผู้ช่วยราชเลขานุการในสมเด็จฯ เป็นตัวแทนพระองค์ เข้าเยี่ยมและพระราชทานอาหารเครื่องดื่มให้แก่ญาติเหยือ่บึ้ม สลดหนุ่มใหญ่ชาวมาเลย์สูญเสียหนัก 4 ศพ “รัชตะ” เผยรัฐบาลพร้อมออกค่าใช้จ่ายดูแลผู้บาดเจ็บเหตุระเบิดทั้งหมด “สธ.” ยันตายแล้ว 20 ศพ กรมคุ้มครองสิทธิฯ เผยบาดเจ็บได้รับค่ารักษา ฟื้นฟู ค่าห้อง ค่าอาหาร หากเสียชีวิตทายาทได้รับค่าตอบแทนรวม 100,000 บาท
วานนี้ (18 ส.ค.) เวลา 17.52 น.สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ท่านผู้หญิงรวิจิตร์ สุวรรณบุปผา ผู้ช่วยราชเลขานุการในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เป็นตัวแทนพระองค์ เข้าเยี่ยมและพระราชทานอาหารเครื่องดื่มให้แก่ญาติ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อคืนนี้ ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
รวมทั้งยังมีตัวแทนจากชมรมรวมใจชาวจีนทั่วโลกเป็น 1 เดียวเข้ามาสอบถามและเยี่ยมเยียนชาวจีน พร้อมแสดงความเจตจำนงที่จะดูแล ญาติพี่น้องที่มาจากประเทศจีนโดยจะมีการออกทุน พร้อมสนับสนุนค่ารถรับส่ง ในการมาเยี่ยมผู้ประสบเหตุฟรี ทุกคน
ขณะที่ เว็บไซต์สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฮ่องกงแจ้งเมื่อเช้าวันนี้ ว่า มีสตรีฮ่องกง 2 คน เสียชีวิตในเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ เมื่อค่ำวานนี้ โดยสตรีฮ่องกงที่เสียชีวิตอายุ 19 ปี และ 24 ปี นอกจากนี้ ยังมีชาวฮ่องกงบาดเจ็บ 6 คน
ที่สถาบันติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ MR.NEOH HOCK GUAN อายุ 53 ปี สัญชาติมาเลเซีย พร้อมเจ้าหน้าที่สถานทูตมาเลเซีย เดินทางมารับศพญาติ 4 ราย ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์ คือ 1. MR.LEE TZE SIANG อายุ 33 ปี 2. MRS.LIM SAW GEK อายุ 49 ปี 3. Mr.NEOH JAI JUN อายุ 19 ปี และ 4. MS.LIM SOO SEE อายุ 52 ปี
MR.NEOH กล่าวผ่านล่ามว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมกับครอบครัว รวม 7 คน ไปสักการะท้าวมหาพรหมซึ่งมีนักท่องเที่ยวและประชาชนมาไหว้เป็นจำนวนมาก โดยขณะตนกำลังจะปักธูปลงในกระถาง เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว พอได้สติก็เห็นแสงเพลิงภายในรั้วของศาลด้านถนนเพลินจิต ใกล้แยกราชประสงค์ เห็นร่างของ MR.LEE TZE SIANG ลูกเขย กระเด็นจากแรงของระเบิดมาถูกตนล้มลง มีเลือดออกจากศีรษะจำนวนมาก ตนพยายามเรียกแต่ลูกเขยไม่รู้สึกตัวแล้ว และพยายามมองหาญาติคนอื่น ๆ พบ Mr.NEOH JAI JUN ลูกชายสภาพถูกไฟคลอก มีรอยไหม้เกรียมตามลำตัว และมองหาลูกสาวอีกคน MS.NEOH EE LING อายุ 32 ปี ตั้งครรภ์ 5 เดือน ส่วนญาติไม่พบ ก่อนที่ตนและลูกสาวจะถูกนำส่งไปรักษาตัว ที่ รพ.รามาธิบดี ทราบว่าอาการปลอดภัยแล้ว
วันนี้จึงเดินทางมาที่นิติเวช รพ.ตำรวจ เนื่องจากมั่นใจว่า ลูกชายและลูกเขยเสียชีวิต และนำหลักฐานยืนยันตัวบุคคลมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอตรวจสอบ ทำให้ทราบว่า MRS.LIM SAW GEK ภรรยา และ MS.LIM SOO SEE เป็นพี่สาวภรรยาเสียชีวิตด้วย ส่วนสมาชิกครอบครัวอีกคน คือ ด.ญ. LEE JIN YUAN อายุ 4 ขวบ หลานสาว ทราบว่า เสียชีวิตเช่นกัน ศพอยู่ที่แผนกนิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์
“รู้สึกสูญเสียกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงลูกสาว และหลานที่อยู่ในครรภ์ของลูกสาว ซึ่งไม่รู้ว่ารับการกระทบกระเทือนหรือไม่” MR.NEOH กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า รัฐบาลจะออกค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้บาดเจ็บทั้งหมด ตั้งศูนย์ข้อมูลเพื่อรายงานสถานการณ์และอาการเจ็บของผู้ป่วยทั้งหมด โดยญาติและชาวต่างชาติสามารถโทรศัพท์เข้ามาสอบข้อมูล เพื่อติดตามหาผู้บาดเจ็บและสูญหายได้ ผ่านเบอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) 0-2207-6156 และสายด่วนศูนย์เอราวัณ 1646
นพ.อนุรักษ์ อมรเพชรสถาพร ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขฉุกเฉิน (สธฉ.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการร่วมกับศูนย์เอราวัณ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีจำนวน 20 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 12 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 8 ราย อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์จำนวนผู้เสียชีวิตจากอวัยวะที่เสียหายอีกบางส่วน ทำให้ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด
ส่วนยอดผู้บาดเจ็บมี 108 ราย เป็นชาวต่างชาติ 55 ราย คนไทย 53 ราย ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 67 ราย กระจายอยู่ใน 13 โรงพยาบาล จำนวนนี้เป็นผู้ป่วยหนักอยู่ในไอ.ซี.ยู. 11 คน ทั้งนี้ ส่วนจำนวนผู้บาดเจ็บที่ส่งมารักษาที่ รพ.ราชวิถีทั้งหมด 9 คน กลับบ้านได้แล้ว 4 คนเป็นคนจีนทั้งหมด อีก 5 คนยังรักษาตัวอยู่ใน รพ. ซึ่งเป็นคนไทย 2 คน คนจีน 3 คน ในจำนวนนี้คนจีน 2 คนยังอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก 2 คน ยังไม่พ้นขีดอันตราย 1 ราย
ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) รายงานสรุปจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ข้อมูลเมื่อเวลา 10.00 น. มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 108 ราย เสียชีวิต 8 ราย แบ่งเป็น 1.รพ.จุฬาลงกรณ์ 27 ราย 2.รพ.ตำรวจ 13 ราย 3.รพ.ราชวิถี 9 ราย 4.รพ.รามาธิบดี 6 ราย 5.รพ.กลาง 7 ราย 6.รพ.หัวเฉียว 14 ราย 7.รพ.เลิดสิน 7 ราย 8.รพ.พระมงกุฏเกล้า 10 ราย 9.รพ.พญาไท 1 จำนวน 6 ราย 10.รพ.กรุงเทพคริสเตียน 5 ราย 11.รพ.เซ็นต์หลุยส์ 1 ราย 12.รพ.กล้วยน้ำไท 1 จำนวน 2 ราน 13.รพ.พระราม 9 จำนวน 1 ราย 14.รพ.บำรุงราษฎร์ 1 ราย 15.รพ.มเหสักข์ 1 ราย 16.รพ.ปิยะเวท 1 ราย 17.รพ.บางปะกอก1 จำนวน 3 ราย 18.สถานบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) 1 ราย และ 19.รพ.บีเอ็นเอช 1 ราย
ส่วนผู้เสียชีวิตจำนวน 8 รายนั้น กระจายอยู่ที่ รพ.จุฬาฯ 3 ราย รพ.ตำรวจ 4 ราย และ รพ.กลาง 1 ราย
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์ ว่า หลักเกณฑ์ผู้เสียหายที่มีสิทธิได้รับการเยียวยาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ คือ 1.ได้รับความเสียหายถึงแก่ชีวิต หรือร่างกาย หรือจิตใจ 2.เนื่องจากการกระทำผิดทางอาญาของผู้อื่น ซึ่งความผิดที่กระทำต่อผู้เสียหายต้องเป็นไปตามความผิดเกี่ยวกับเพศ ชีวิต และร่างกาย ความผิดฐานทำให้แท้งลูก ทอดทิ้งเด็ก คนป่วย เจ็บ หรือคนชรา และ 3.ผู้เสียหายไม่มีความเกี่ยวข้อง สำหรับค่าตอบแทนผู้เสียหายที่จะได้รับคือ หากเป็นกรณีบาดเจ็บ จะได้ค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท ค่าฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหากินได้วันละ 200 บาท ไม่เกิน 1 ปี ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ไม่เกิน 30,000 บาท ค่าห้อง ค่าอาหาร ไม่เกินวันละ 600 บาท สำหรับกรณีเสียชีวิต ทายาทจะเป็นผู้ได้รับค่าตอบแทนการเสียชีวิต 50,000 บาท ค่าจัดการศพ 20,000 บาท และค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 30,000 บาท รวมจำนวน 100,000 บาท
"สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ยังได้รับสิทธิในการช่วยเหลือเยียวยาจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา คือ 1.กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ จ่ายไม่เกิน 300,000 บาท 2.ค่ารักษาพยาบาล จ่ายตามจริงไม่เกิน 100,000 บาท 3.ค่าฟื้นฟูเยียวยาด้านจิตใจกรณีถูกข่มขืนไม่เกิน 20,000 บาท 4.ความเสียหายจากการหยุดชะงักการเดินทาง 2,000 บาทต่อคนต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท และ 5.ค่าเยียวยากรณีนักท่องเที่ยวตกทุกข์ได้ยาก วันละ 2,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท
นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ส่งตัวเข้ามารักษาที่ รพ.รามาฯ จำนวน 6 ราย ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 17 ส.ค. ขณะนี้กลับบ้านแล้ว 4 ราย ยังเหลืออีก 2 รายเป็นชาวสิงคโปร์ อาการสาหัสทั้งสองคน โดยรายแรกเป็นชาย ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ข้อพับเข่าขวาและตามร่างกาย แพทย์ให้การผ่าตัด แต่ยังอยู่ระหว่างการพักฟื้น ซึ่งขณะนี้ทราบว่าภรรยาของชายรายดังกล่าวได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุด้วย สำหรับอีกรายเป็นผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่สมอง ช่องอก ช่องท้อง และขาซ้าย แพทย์ได้ทำการผ่าตัดไปแล้ว 1 ครั้ง ขณะนี้กำลังรอการผ่าตัดกระดูกที่ขาซ้ำอีกครั้ง อาการยังน่าเป็นห่วง ล่าสุด ผู้แทนจากสถานทูตสิงคโปร์ได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ป่วยทั้งสองรายแล้ว โดยรพ.รามาฯ ไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า คปภ. ได้ประสานไปยังสมาคมประกันวินาศภัยไทย และสมาคมประกันชีวิตไทยให้พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านการประกันภัย กับผู้ประสบภัยเหตุระเบิดที่ราชประสงค์อย่างเร่งด่วน
สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจประเภท 1 คุ้มครองตัวรถ การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล การประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR) รวมถึงกรมธรรม์ประกันภัย 200 เป็นต้น
“สำหรับผู้ประสบภัยที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีการซื้อการประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทางจากต่างประเทศ สำนักงาน คปภ. และสมาคมประกันวินาศภัยไทย พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในการติดต่อบริษัทประกันภัยในต่างประเทศ ขอให้แจ้งสำนักงาน คปภ. หรือสมาคมประกันวินาศภัยไทยเพื่อดำเนินการประสานต่อไป” เลขาธิการ คปภ. กล่าว
อนึ่งประกันสำหรับนักท่องเที่ยวนั้นจะให้ความคุ้มครองทันทีเมื่อเครื่องลงสู่พื้นที่ประเทศไทย ผ่านการจ่ายเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 650บาท สินไหมคุ้มครองสูงสุดถึง 1 ล้านบาท โดยจะครอบคลุม ผู้เอาประกัน ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ สายการบินล่าช้า กระเป๋าหายหรือส่งล่าช้า และสนามบินปิด รวมถึงการขยายความคุ้มครองที่บริษัทประกันต่างประเทศไม่ให้ความคุ้มครองหากเดินทางเข้ามาในไทย เช่น ประกันภัยจลาจล ประกันภัยก่อการร้าย
ด้านรายงานจากบริษัทวิริยะประกันภัย เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมให้ความคุ้มครองรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดหน้าศาลพระพรหมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า มีรถยนต์ที่ทำประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ไว้กับบริษัทฯจำนวน 3 คัน และบริษัทฯได้ดำเนินการตามขั้นตอนการเคลมสินไหมทดแทนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
วานนี้ (18 ส.ค.) เวลา 17.52 น.สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ท่านผู้หญิงรวิจิตร์ สุวรรณบุปผา ผู้ช่วยราชเลขานุการในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เป็นตัวแทนพระองค์ เข้าเยี่ยมและพระราชทานอาหารเครื่องดื่มให้แก่ญาติ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อคืนนี้ ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
รวมทั้งยังมีตัวแทนจากชมรมรวมใจชาวจีนทั่วโลกเป็น 1 เดียวเข้ามาสอบถามและเยี่ยมเยียนชาวจีน พร้อมแสดงความเจตจำนงที่จะดูแล ญาติพี่น้องที่มาจากประเทศจีนโดยจะมีการออกทุน พร้อมสนับสนุนค่ารถรับส่ง ในการมาเยี่ยมผู้ประสบเหตุฟรี ทุกคน
ขณะที่ เว็บไซต์สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฮ่องกงแจ้งเมื่อเช้าวันนี้ ว่า มีสตรีฮ่องกง 2 คน เสียชีวิตในเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ เมื่อค่ำวานนี้ โดยสตรีฮ่องกงที่เสียชีวิตอายุ 19 ปี และ 24 ปี นอกจากนี้ ยังมีชาวฮ่องกงบาดเจ็บ 6 คน
ที่สถาบันติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ MR.NEOH HOCK GUAN อายุ 53 ปี สัญชาติมาเลเซีย พร้อมเจ้าหน้าที่สถานทูตมาเลเซีย เดินทางมารับศพญาติ 4 ราย ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์ คือ 1. MR.LEE TZE SIANG อายุ 33 ปี 2. MRS.LIM SAW GEK อายุ 49 ปี 3. Mr.NEOH JAI JUN อายุ 19 ปี และ 4. MS.LIM SOO SEE อายุ 52 ปี
MR.NEOH กล่าวผ่านล่ามว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมกับครอบครัว รวม 7 คน ไปสักการะท้าวมหาพรหมซึ่งมีนักท่องเที่ยวและประชาชนมาไหว้เป็นจำนวนมาก โดยขณะตนกำลังจะปักธูปลงในกระถาง เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว พอได้สติก็เห็นแสงเพลิงภายในรั้วของศาลด้านถนนเพลินจิต ใกล้แยกราชประสงค์ เห็นร่างของ MR.LEE TZE SIANG ลูกเขย กระเด็นจากแรงของระเบิดมาถูกตนล้มลง มีเลือดออกจากศีรษะจำนวนมาก ตนพยายามเรียกแต่ลูกเขยไม่รู้สึกตัวแล้ว และพยายามมองหาญาติคนอื่น ๆ พบ Mr.NEOH JAI JUN ลูกชายสภาพถูกไฟคลอก มีรอยไหม้เกรียมตามลำตัว และมองหาลูกสาวอีกคน MS.NEOH EE LING อายุ 32 ปี ตั้งครรภ์ 5 เดือน ส่วนญาติไม่พบ ก่อนที่ตนและลูกสาวจะถูกนำส่งไปรักษาตัว ที่ รพ.รามาธิบดี ทราบว่าอาการปลอดภัยแล้ว
วันนี้จึงเดินทางมาที่นิติเวช รพ.ตำรวจ เนื่องจากมั่นใจว่า ลูกชายและลูกเขยเสียชีวิต และนำหลักฐานยืนยันตัวบุคคลมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอตรวจสอบ ทำให้ทราบว่า MRS.LIM SAW GEK ภรรยา และ MS.LIM SOO SEE เป็นพี่สาวภรรยาเสียชีวิตด้วย ส่วนสมาชิกครอบครัวอีกคน คือ ด.ญ. LEE JIN YUAN อายุ 4 ขวบ หลานสาว ทราบว่า เสียชีวิตเช่นกัน ศพอยู่ที่แผนกนิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์
“รู้สึกสูญเสียกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงลูกสาว และหลานที่อยู่ในครรภ์ของลูกสาว ซึ่งไม่รู้ว่ารับการกระทบกระเทือนหรือไม่” MR.NEOH กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า รัฐบาลจะออกค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้บาดเจ็บทั้งหมด ตั้งศูนย์ข้อมูลเพื่อรายงานสถานการณ์และอาการเจ็บของผู้ป่วยทั้งหมด โดยญาติและชาวต่างชาติสามารถโทรศัพท์เข้ามาสอบข้อมูล เพื่อติดตามหาผู้บาดเจ็บและสูญหายได้ ผ่านเบอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) 0-2207-6156 และสายด่วนศูนย์เอราวัณ 1646
นพ.อนุรักษ์ อมรเพชรสถาพร ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขฉุกเฉิน (สธฉ.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการร่วมกับศูนย์เอราวัณ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีจำนวน 20 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 12 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 8 ราย อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์จำนวนผู้เสียชีวิตจากอวัยวะที่เสียหายอีกบางส่วน ทำให้ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด
ส่วนยอดผู้บาดเจ็บมี 108 ราย เป็นชาวต่างชาติ 55 ราย คนไทย 53 ราย ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 67 ราย กระจายอยู่ใน 13 โรงพยาบาล จำนวนนี้เป็นผู้ป่วยหนักอยู่ในไอ.ซี.ยู. 11 คน ทั้งนี้ ส่วนจำนวนผู้บาดเจ็บที่ส่งมารักษาที่ รพ.ราชวิถีทั้งหมด 9 คน กลับบ้านได้แล้ว 4 คนเป็นคนจีนทั้งหมด อีก 5 คนยังรักษาตัวอยู่ใน รพ. ซึ่งเป็นคนไทย 2 คน คนจีน 3 คน ในจำนวนนี้คนจีน 2 คนยังอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก 2 คน ยังไม่พ้นขีดอันตราย 1 ราย
ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) รายงานสรุปจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ข้อมูลเมื่อเวลา 10.00 น. มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 108 ราย เสียชีวิต 8 ราย แบ่งเป็น 1.รพ.จุฬาลงกรณ์ 27 ราย 2.รพ.ตำรวจ 13 ราย 3.รพ.ราชวิถี 9 ราย 4.รพ.รามาธิบดี 6 ราย 5.รพ.กลาง 7 ราย 6.รพ.หัวเฉียว 14 ราย 7.รพ.เลิดสิน 7 ราย 8.รพ.พระมงกุฏเกล้า 10 ราย 9.รพ.พญาไท 1 จำนวน 6 ราย 10.รพ.กรุงเทพคริสเตียน 5 ราย 11.รพ.เซ็นต์หลุยส์ 1 ราย 12.รพ.กล้วยน้ำไท 1 จำนวน 2 ราน 13.รพ.พระราม 9 จำนวน 1 ราย 14.รพ.บำรุงราษฎร์ 1 ราย 15.รพ.มเหสักข์ 1 ราย 16.รพ.ปิยะเวท 1 ราย 17.รพ.บางปะกอก1 จำนวน 3 ราย 18.สถานบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) 1 ราย และ 19.รพ.บีเอ็นเอช 1 ราย
ส่วนผู้เสียชีวิตจำนวน 8 รายนั้น กระจายอยู่ที่ รพ.จุฬาฯ 3 ราย รพ.ตำรวจ 4 ราย และ รพ.กลาง 1 ราย
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์ ว่า หลักเกณฑ์ผู้เสียหายที่มีสิทธิได้รับการเยียวยาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ คือ 1.ได้รับความเสียหายถึงแก่ชีวิต หรือร่างกาย หรือจิตใจ 2.เนื่องจากการกระทำผิดทางอาญาของผู้อื่น ซึ่งความผิดที่กระทำต่อผู้เสียหายต้องเป็นไปตามความผิดเกี่ยวกับเพศ ชีวิต และร่างกาย ความผิดฐานทำให้แท้งลูก ทอดทิ้งเด็ก คนป่วย เจ็บ หรือคนชรา และ 3.ผู้เสียหายไม่มีความเกี่ยวข้อง สำหรับค่าตอบแทนผู้เสียหายที่จะได้รับคือ หากเป็นกรณีบาดเจ็บ จะได้ค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท ค่าฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหากินได้วันละ 200 บาท ไม่เกิน 1 ปี ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ไม่เกิน 30,000 บาท ค่าห้อง ค่าอาหาร ไม่เกินวันละ 600 บาท สำหรับกรณีเสียชีวิต ทายาทจะเป็นผู้ได้รับค่าตอบแทนการเสียชีวิต 50,000 บาท ค่าจัดการศพ 20,000 บาท และค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 30,000 บาท รวมจำนวน 100,000 บาท
"สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ยังได้รับสิทธิในการช่วยเหลือเยียวยาจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา คือ 1.กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ จ่ายไม่เกิน 300,000 บาท 2.ค่ารักษาพยาบาล จ่ายตามจริงไม่เกิน 100,000 บาท 3.ค่าฟื้นฟูเยียวยาด้านจิตใจกรณีถูกข่มขืนไม่เกิน 20,000 บาท 4.ความเสียหายจากการหยุดชะงักการเดินทาง 2,000 บาทต่อคนต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท และ 5.ค่าเยียวยากรณีนักท่องเที่ยวตกทุกข์ได้ยาก วันละ 2,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท
นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ส่งตัวเข้ามารักษาที่ รพ.รามาฯ จำนวน 6 ราย ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 17 ส.ค. ขณะนี้กลับบ้านแล้ว 4 ราย ยังเหลืออีก 2 รายเป็นชาวสิงคโปร์ อาการสาหัสทั้งสองคน โดยรายแรกเป็นชาย ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ข้อพับเข่าขวาและตามร่างกาย แพทย์ให้การผ่าตัด แต่ยังอยู่ระหว่างการพักฟื้น ซึ่งขณะนี้ทราบว่าภรรยาของชายรายดังกล่าวได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุด้วย สำหรับอีกรายเป็นผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่สมอง ช่องอก ช่องท้อง และขาซ้าย แพทย์ได้ทำการผ่าตัดไปแล้ว 1 ครั้ง ขณะนี้กำลังรอการผ่าตัดกระดูกที่ขาซ้ำอีกครั้ง อาการยังน่าเป็นห่วง ล่าสุด ผู้แทนจากสถานทูตสิงคโปร์ได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ป่วยทั้งสองรายแล้ว โดยรพ.รามาฯ ไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า คปภ. ได้ประสานไปยังสมาคมประกันวินาศภัยไทย และสมาคมประกันชีวิตไทยให้พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านการประกันภัย กับผู้ประสบภัยเหตุระเบิดที่ราชประสงค์อย่างเร่งด่วน
สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจประเภท 1 คุ้มครองตัวรถ การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล การประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR) รวมถึงกรมธรรม์ประกันภัย 200 เป็นต้น
“สำหรับผู้ประสบภัยที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีการซื้อการประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทางจากต่างประเทศ สำนักงาน คปภ. และสมาคมประกันวินาศภัยไทย พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในการติดต่อบริษัทประกันภัยในต่างประเทศ ขอให้แจ้งสำนักงาน คปภ. หรือสมาคมประกันวินาศภัยไทยเพื่อดำเนินการประสานต่อไป” เลขาธิการ คปภ. กล่าว
อนึ่งประกันสำหรับนักท่องเที่ยวนั้นจะให้ความคุ้มครองทันทีเมื่อเครื่องลงสู่พื้นที่ประเทศไทย ผ่านการจ่ายเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 650บาท สินไหมคุ้มครองสูงสุดถึง 1 ล้านบาท โดยจะครอบคลุม ผู้เอาประกัน ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ สายการบินล่าช้า กระเป๋าหายหรือส่งล่าช้า และสนามบินปิด รวมถึงการขยายความคุ้มครองที่บริษัทประกันต่างประเทศไม่ให้ความคุ้มครองหากเดินทางเข้ามาในไทย เช่น ประกันภัยจลาจล ประกันภัยก่อการร้าย
ด้านรายงานจากบริษัทวิริยะประกันภัย เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมให้ความคุ้มครองรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดหน้าศาลพระพรหมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า มีรถยนต์ที่ทำประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ไว้กับบริษัทฯจำนวน 3 คัน และบริษัทฯได้ดำเนินการตามขั้นตอนการเคลมสินไหมทดแทนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว