วานนี้ (13ส.ค.) นายวัฒนา เมืองสุข อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทยได้ทำหนังสือร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ว่ามีนายทหารได้เข้าบันทึกภาพบ้านพัก ที่หมู่บ้านย่านศรีนครินทร์ ซึ่งถือเป็นการคุกคาม และละเมิดสิทธิส่วนบุคคล โดยในหนังสือระบุว่า เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ตนได้รับแจ้งจากรปภ. หมู่บ้านว่า มีนายทหารสองนายมาแสดงบัตรประจำตัว ขอเข้ามาถ่ายรูปบ้านของตน พร้อมสอบถามความเคลื่อนไหว โดยก่อนหน้านี้ ก็มีนายทหารจาก จ.ปราจีนบุรี มาติดตามตน ในลักษณะเดียวกันนี้ ตนจึงจำเป็นต้องสื่อสารถึงคนที่เป็นหัวหน้า คสช. และฟ้องต่อประชาชนไปพร้อมกัน
นายวัฒนา ระบุว่า สิ่งที่ทหารกำลังทำคือ การคุกคาม และละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว โดยสาเหตุมาจากเรื่องที่ตนได้แสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ กับพวก รวมถึงการที่ตนฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ ต่อศาลปกครอง ซึ่งเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย แบบอารยะ โดยไม่ได้ไปปลุกระดม หรือเคลื่อนไหวอันเป็นการก่อความไม่สงบแต่อย่างใดทั้งสิ้น การที่ตนเป็นบุคคลสาธารณะ เพียงแสดงความคิดเห็น และใช้สิทธิตามกฎหมาย ยังถูกคุกคามแบบนี้ แล้วพี่น้องประชาชนที่อยู่ห่างออกไป จะไม่โดนมากกว่าตนหรือ หรือที่เคยมีข่าวว่า มีการอุ้มคนไปทรมาน ก็น่าจะมีมูลถ้าเป็นแบบนี้
"ผมคงไม่จำเป็นต้องบอกพล.อ.ประยุทธ์ ผู้เป็นหัวหน้าคสช. ว่าผมไม่เคยเกรงกลัว หรือก้มหัวให้กับอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน ที่ต้องพูดถึง เพราะตลอดระยะเวลา 1 ปีเศษ ที่ท่านกับพวกได้ยึดอำนาจการปกครองไป ได้ทำความเสียหายให้กับประเทศนี้มากมาย ไม่เช่นนั้น ผมคงไม่เสียเวลาไปพูดถึง อยากแนะนำท่าน ให้เอาเวลาไปทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ดีกว่า สิ่งที่ควรทำที่สุดคือ การรีบคืนอำนาจที่ยึดไปให้กับประชาชน การกระทำของลูกน้องท่าน ที่แสดงการคุกคามและละเมิดความเป็นส่วนตัว นอกจากผมจะไม่กลัวแล้ว กลับสมเพช และเสียดาย คือเงินภาษีอากรที่ผมจ่ายไปเป็นเงินเดือนพวกท่าน ผมไม่ได้จ่ายเพื่อให้ไประรานใคร สองขั้นรวมถึงวันเวลาทวีคูณจากการยึดอำนาจ ก็ได้กันไปถ้วนทั่วหน้าแล้ว ทำงานให้คุ้มกับเงินเดือนจากเงิ นภาษีอากรประชาชน ดีกว่ามั้ยครับ" นายวัฒนา ระบุ
ด้านพ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษก คสช. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามแนวทางการดูแลให้เกิดความเรียบร้อย ในลักษณะที่สุภาพ และให้เกียรติ ตามแนวทางที่ได้เคยปฏิบัติเป็นลักษณะการเข้าไปประสานงาน พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสานข้อมูล ซึ่งที่ผ่านมา จะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี และบางท่านยังได้ให้คำแนะนำที่สร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์ การให้ข้อมูลของบางบุคคลบางครั้งอาจเป็นไปตามทัศนคติเดิมส่วนตัว ซึ่งไม่ได้พิจารณาด้วยองค์ประกอบ และข้อเท็จจริงรอบด้านและมั่นใจว่าที่ผ่านมา คสช.ได้คลี่คลายและแก้ปัญหาในหลายๆ อย่างของประเทศปัจจุบันก็ยังคงสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลอย่างเต็มที่ ไม่ใช่ทำประเทศเสียหายอย่างที่บางคนพยายามบิดเบือนข้อมูล
นายวัฒนา ระบุว่า สิ่งที่ทหารกำลังทำคือ การคุกคาม และละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว โดยสาเหตุมาจากเรื่องที่ตนได้แสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ กับพวก รวมถึงการที่ตนฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ ต่อศาลปกครอง ซึ่งเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย แบบอารยะ โดยไม่ได้ไปปลุกระดม หรือเคลื่อนไหวอันเป็นการก่อความไม่สงบแต่อย่างใดทั้งสิ้น การที่ตนเป็นบุคคลสาธารณะ เพียงแสดงความคิดเห็น และใช้สิทธิตามกฎหมาย ยังถูกคุกคามแบบนี้ แล้วพี่น้องประชาชนที่อยู่ห่างออกไป จะไม่โดนมากกว่าตนหรือ หรือที่เคยมีข่าวว่า มีการอุ้มคนไปทรมาน ก็น่าจะมีมูลถ้าเป็นแบบนี้
"ผมคงไม่จำเป็นต้องบอกพล.อ.ประยุทธ์ ผู้เป็นหัวหน้าคสช. ว่าผมไม่เคยเกรงกลัว หรือก้มหัวให้กับอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน ที่ต้องพูดถึง เพราะตลอดระยะเวลา 1 ปีเศษ ที่ท่านกับพวกได้ยึดอำนาจการปกครองไป ได้ทำความเสียหายให้กับประเทศนี้มากมาย ไม่เช่นนั้น ผมคงไม่เสียเวลาไปพูดถึง อยากแนะนำท่าน ให้เอาเวลาไปทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ดีกว่า สิ่งที่ควรทำที่สุดคือ การรีบคืนอำนาจที่ยึดไปให้กับประชาชน การกระทำของลูกน้องท่าน ที่แสดงการคุกคามและละเมิดความเป็นส่วนตัว นอกจากผมจะไม่กลัวแล้ว กลับสมเพช และเสียดาย คือเงินภาษีอากรที่ผมจ่ายไปเป็นเงินเดือนพวกท่าน ผมไม่ได้จ่ายเพื่อให้ไประรานใคร สองขั้นรวมถึงวันเวลาทวีคูณจากการยึดอำนาจ ก็ได้กันไปถ้วนทั่วหน้าแล้ว ทำงานให้คุ้มกับเงินเดือนจากเงิ นภาษีอากรประชาชน ดีกว่ามั้ยครับ" นายวัฒนา ระบุ
ด้านพ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษก คสช. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามแนวทางการดูแลให้เกิดความเรียบร้อย ในลักษณะที่สุภาพ และให้เกียรติ ตามแนวทางที่ได้เคยปฏิบัติเป็นลักษณะการเข้าไปประสานงาน พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสานข้อมูล ซึ่งที่ผ่านมา จะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี และบางท่านยังได้ให้คำแนะนำที่สร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์ การให้ข้อมูลของบางบุคคลบางครั้งอาจเป็นไปตามทัศนคติเดิมส่วนตัว ซึ่งไม่ได้พิจารณาด้วยองค์ประกอบ และข้อเท็จจริงรอบด้านและมั่นใจว่าที่ผ่านมา คสช.ได้คลี่คลายและแก้ปัญหาในหลายๆ อย่างของประเทศปัจจุบันก็ยังคงสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลอย่างเต็มที่ ไม่ใช่ทำประเทศเสียหายอย่างที่บางคนพยายามบิดเบือนข้อมูล