"อุดมเดช" มั่นใจนั่งเก้าอี้ ผบ. แค่ 1 ปี ก็ทำงานสำเร็จ ชูดับไฟใต้สถิติลด สั่งกำลังพลเร่งแก้วิกฤตอุทกภัย พร้อมสั่งกกล.รส. ดูแลกลุ่มเคลื่อนไหวการเมืองให้นิ่ง กำชับทุกหน่วยจัดงานเทิดพระเกียรติ 12 สิงหาฯ สนับสนุนกิจกรรม “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่”อย่างเต็มที่
วานนี้ (3ส.ค.) พ.อ. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ที่มี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เป็นประธานว่า ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 ผู้บัญชาการทหารบก มอบหมายให้หน่วยงานของกองทัพบก จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยประกอบด้วย
1. กิจกรรมถวายพระเกียรติ โดยการจัดพิธีถวายราชสักการะ และถวายพระพรชัยมงคลในวันที่ 11 สิงหาคม ณ กองบัญชาการกองทัพบก และหน่วยทหารของกองทัพบกในทุกพื้นที่
2. กิจกรรมถวายเป็นพระราชกุศล ได้แก่ การอุปสมบทหมู่จำนวน 420 รูป ระหว่าง 30 ก.ค. -24ส.ค.58 และการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ระหว่าง 17-25สิงหาคม 2558 ณ วัดตาลเอน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ตลอดจนการให้บริการทางการแพทย์ และการบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล
3. กิจกรรมเผยแพร่พระเกียรติคุณ โดยการจัดนิทรรศการเผยแพร่พระราชกรณียกิจ ณ กองบัญชาการกองทัพบก ระหว่าง 11- 16 สิงหาคม 2558 รวมถึงการจัดทำสปอตเรื่อง “แม่กับผ้าไหม”ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระราชทานอาชีพทอผ้า และอนุรักษ์ผ้าโบราณ โดยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ และ เคเบิ้ลทีวี ในเดือน ส.ค. -ก.ย.58
นอกจากนี้ กองทัพบกยังให้การสนับสนุนส่วนราชการและภาคเอกชนในการจัดกิจกรรมที่สำคัญได้แก่ การสนับสนุนมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ในการจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ 8-13 สิงหาคม 2558 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยจะมีพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร ในวันพุธที่ 12 สิงหาคม 2558 เวลา 19.19 น.
สนับสนุน“Bike for Mom”เต็มที่
สำหรับกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติ “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่”ซึ่ง กองทัพบกได้รับมอบหมายให้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมดังกล่าว ได้มีการซักซ้อมเมื่อ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้หน่วยที่เกี่ยวข้องนำข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรี พร้อมสิ่งที่จะต้องเพิ่มเติมให้กิจกรรมมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เข้าหารือกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในสัปดาห์นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกประชาชน การรักษาความปลอดภัย การจัดรูปขบวน ให้เกิดความเรียบร้อยในทุกมิติ สมพระเกียรติ และประชาชนได้มีโอกาสเข้าร่วมแสดงพลังแห่งความจงรักภักดีอย่างกว้างขวาง
ส่วนการดำเนินตามนโยบายของรัฐบาลในเรื่องการช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชนในขณะนี้ ซึ่งหน่วยทหารของกองทัพบกได้จัดโครงการอาหารจานด่วนราคาพิเศษ บริเวณหน้าหน่วยทหาร และชุมชนรอบค่าย มาตลอดเดือนกรกฎาคมนั้น ผู้บัญชาการทหารบก เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีประชาชนได้ประโยชน์ และเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก ได้กำชับให้ทุกหน่วยของกองทัพบก เดินหน้าจัดโครงการอาหารจานด่วนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น และดำเนินการในหลากหลายลักษณะ พัฒนาให้เกิดความสะดวก และง่ายต่อการบริการประชาชน
และจากที่ผู้บัญชาการทหารบก กำหนดให้ในปี 2558 เป็น “ปีแห่งการปฏิบัติงานของกองทัพบกที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ และเป็นรูปธรรมในทุกด้าน” นั้น ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา กองทัพบก ได้ดำเนินตามแผนงานที่กำหนดไว้เรียบร้อยถึง 74 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง ผู้บัญชาการทหารบกได้กำชับให้ใน 2 เดือนจากนี้ ให้ทุกหน่วยเร่งดำเนินตามแผนงานอีก 26 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้กองทัพบกมีความก้าวหน้าตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ยังได้ย้ำให้กองกำลังป้องกันชายแดนของกองทัพบก ให้ดำรงแนวทางการปฏิบัติภารกิจในการป้องกันประเทศ ป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดน การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน และการพัฒนาสร้างความมั่นคงพื้นที่ชายแดน ให้ดำรงการฝึกกำลังพลให้มีความพร้อม ทั้งบุคคล และเป็นหน่วย มีความรู้ด้านกฎหมาย การพัฒนาคุณภาพชีวิตและการช่วยเหลือประชาชนชายแดน ส่วนการดูแลและช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติต่างๆ ผู้บัญชาการทหารบก ให้หน่วยทหารได้ปรับเปลี่ยนการช่วยเหลือไปตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้หน่วยทหารของกองทัพบก ได้ดำเนินการในหลายเรื่อง ได้แก่ การแจกจ่ายน้ำปริมาณ 39 ล้านลิตร เพื่อการอุปโภค บริโภค ในพื้นที่แล้งจากฝนทิ้งช่วง การช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนจากเหตุวาตภัยในภาคอีสาน การขุดลอกคูคลองตามโครงการ “ปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำ จำนวน 169 โครงการ 38 จังหวัด”ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้า 80 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งการช่วยสร้างความเข้าใจในการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งดำเนินการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรฯ.
ต้องทำงานให้ครบสมบูรณ์ใน 1 ปี
เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ กล่าวถึงการประเมินผลการทำงานที่ผ่านมา ว่าลุล่วงไปร้อยละ 74 นั้น ไม่ใช่เเรื่องการเมือง แต่เป็นเป็นการปฏิบัติ ตามนโยบายของตน ที่ตั้งไว้ตอนเข้ามาว่า ทบ. ต้องมุ่งเน้นผลสำเร็จทุกด้าน กำหนดให้ดำเนินการตามหัวข้อเร่งด่วน 12 ประการ มีแผนงานโครงการจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็บรรลุผลเป็นที่น่าพอใจ เหลืออีก 2 เดือน การพัฒนากองทัพ และแผนงานด้านต่างๆ เหลือเพียงร้อยละ 20 ตนก็พยายามจะทำให้บรรลุผลโดยสมบูรณ์ หลังจากที่ตนเป็น ผบ.ทบ. ครบ 1 ปี
พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ตนได้เน้นย้ำถึงสถานกาณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ ที่มีสถานการณ์ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยมีสถิติที่ลดลง ทั้งนี้ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ได้พยายามดูแลสถานการณ์ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเหตุการณ์โจมจีฐานอาสาสมัครรักษาดินแดน อส. ได้เน้นย้ำให้ปรับเรื่องยุทธวิธีตามพื้นที่ล่อแหลม ห่างไกลจากกำลังหลัก แต่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ก็ต้องดุแลในภาพรวม โดยต้องกำชับให้มีความระมัดระวังมากขึ้น
นอกจากนี้ พล.อ.อุดมเดช ยังได้เน้นย้ำถึงสถานการณ์ที่เริ่มปรับจากภัยแล้งเป็นอุทกภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ถาคเหนือ และและอีสาน เช่น จ.น่าน และ จ.เชียงราย ได้ให้หน่วยทหารแก้ไขสถานการณ์ขั้นต้น ซึ่งมีการแก้ไขได้ดี อย่างไรก็ตามปัญหาอุทกภัยในเมืองใหญ่ เช่น จ.นครราชสีมา ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดในพื้นที่ กทม. จึงขอให้ทุกหน่วยมีความพร้อมในพื้นที่ตลอดเวลา หากเห็นว่าฝนเริ่มตกหน่วยต้องตื่นตัว ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปคลี่คลายสถานการณ์อย่างเป็นระบบนจุดที่วิกฤต เช่นการระบายจราจร การซ่อมยานพหนะเป็นต้น
วานนี้ (3ส.ค.) พ.อ. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ที่มี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เป็นประธานว่า ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 ผู้บัญชาการทหารบก มอบหมายให้หน่วยงานของกองทัพบก จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยประกอบด้วย
1. กิจกรรมถวายพระเกียรติ โดยการจัดพิธีถวายราชสักการะ และถวายพระพรชัยมงคลในวันที่ 11 สิงหาคม ณ กองบัญชาการกองทัพบก และหน่วยทหารของกองทัพบกในทุกพื้นที่
2. กิจกรรมถวายเป็นพระราชกุศล ได้แก่ การอุปสมบทหมู่จำนวน 420 รูป ระหว่าง 30 ก.ค. -24ส.ค.58 และการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ระหว่าง 17-25สิงหาคม 2558 ณ วัดตาลเอน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ตลอดจนการให้บริการทางการแพทย์ และการบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล
3. กิจกรรมเผยแพร่พระเกียรติคุณ โดยการจัดนิทรรศการเผยแพร่พระราชกรณียกิจ ณ กองบัญชาการกองทัพบก ระหว่าง 11- 16 สิงหาคม 2558 รวมถึงการจัดทำสปอตเรื่อง “แม่กับผ้าไหม”ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระราชทานอาชีพทอผ้า และอนุรักษ์ผ้าโบราณ โดยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ และ เคเบิ้ลทีวี ในเดือน ส.ค. -ก.ย.58
นอกจากนี้ กองทัพบกยังให้การสนับสนุนส่วนราชการและภาคเอกชนในการจัดกิจกรรมที่สำคัญได้แก่ การสนับสนุนมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ในการจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ 8-13 สิงหาคม 2558 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยจะมีพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร ในวันพุธที่ 12 สิงหาคม 2558 เวลา 19.19 น.
สนับสนุน“Bike for Mom”เต็มที่
สำหรับกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติ “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่”ซึ่ง กองทัพบกได้รับมอบหมายให้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมดังกล่าว ได้มีการซักซ้อมเมื่อ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้หน่วยที่เกี่ยวข้องนำข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรี พร้อมสิ่งที่จะต้องเพิ่มเติมให้กิจกรรมมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เข้าหารือกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในสัปดาห์นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกประชาชน การรักษาความปลอดภัย การจัดรูปขบวน ให้เกิดความเรียบร้อยในทุกมิติ สมพระเกียรติ และประชาชนได้มีโอกาสเข้าร่วมแสดงพลังแห่งความจงรักภักดีอย่างกว้างขวาง
ส่วนการดำเนินตามนโยบายของรัฐบาลในเรื่องการช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชนในขณะนี้ ซึ่งหน่วยทหารของกองทัพบกได้จัดโครงการอาหารจานด่วนราคาพิเศษ บริเวณหน้าหน่วยทหาร และชุมชนรอบค่าย มาตลอดเดือนกรกฎาคมนั้น ผู้บัญชาการทหารบก เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีประชาชนได้ประโยชน์ และเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก ได้กำชับให้ทุกหน่วยของกองทัพบก เดินหน้าจัดโครงการอาหารจานด่วนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น และดำเนินการในหลากหลายลักษณะ พัฒนาให้เกิดความสะดวก และง่ายต่อการบริการประชาชน
และจากที่ผู้บัญชาการทหารบก กำหนดให้ในปี 2558 เป็น “ปีแห่งการปฏิบัติงานของกองทัพบกที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ และเป็นรูปธรรมในทุกด้าน” นั้น ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา กองทัพบก ได้ดำเนินตามแผนงานที่กำหนดไว้เรียบร้อยถึง 74 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง ผู้บัญชาการทหารบกได้กำชับให้ใน 2 เดือนจากนี้ ให้ทุกหน่วยเร่งดำเนินตามแผนงานอีก 26 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้กองทัพบกมีความก้าวหน้าตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ยังได้ย้ำให้กองกำลังป้องกันชายแดนของกองทัพบก ให้ดำรงแนวทางการปฏิบัติภารกิจในการป้องกันประเทศ ป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดน การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน และการพัฒนาสร้างความมั่นคงพื้นที่ชายแดน ให้ดำรงการฝึกกำลังพลให้มีความพร้อม ทั้งบุคคล และเป็นหน่วย มีความรู้ด้านกฎหมาย การพัฒนาคุณภาพชีวิตและการช่วยเหลือประชาชนชายแดน ส่วนการดูแลและช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติต่างๆ ผู้บัญชาการทหารบก ให้หน่วยทหารได้ปรับเปลี่ยนการช่วยเหลือไปตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้หน่วยทหารของกองทัพบก ได้ดำเนินการในหลายเรื่อง ได้แก่ การแจกจ่ายน้ำปริมาณ 39 ล้านลิตร เพื่อการอุปโภค บริโภค ในพื้นที่แล้งจากฝนทิ้งช่วง การช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนจากเหตุวาตภัยในภาคอีสาน การขุดลอกคูคลองตามโครงการ “ปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำ จำนวน 169 โครงการ 38 จังหวัด”ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้า 80 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งการช่วยสร้างความเข้าใจในการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งดำเนินการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรฯ.
ต้องทำงานให้ครบสมบูรณ์ใน 1 ปี
เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ กล่าวถึงการประเมินผลการทำงานที่ผ่านมา ว่าลุล่วงไปร้อยละ 74 นั้น ไม่ใช่เเรื่องการเมือง แต่เป็นเป็นการปฏิบัติ ตามนโยบายของตน ที่ตั้งไว้ตอนเข้ามาว่า ทบ. ต้องมุ่งเน้นผลสำเร็จทุกด้าน กำหนดให้ดำเนินการตามหัวข้อเร่งด่วน 12 ประการ มีแผนงานโครงการจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็บรรลุผลเป็นที่น่าพอใจ เหลืออีก 2 เดือน การพัฒนากองทัพ และแผนงานด้านต่างๆ เหลือเพียงร้อยละ 20 ตนก็พยายามจะทำให้บรรลุผลโดยสมบูรณ์ หลังจากที่ตนเป็น ผบ.ทบ. ครบ 1 ปี
พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ตนได้เน้นย้ำถึงสถานกาณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ ที่มีสถานการณ์ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยมีสถิติที่ลดลง ทั้งนี้ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ได้พยายามดูแลสถานการณ์ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเหตุการณ์โจมจีฐานอาสาสมัครรักษาดินแดน อส. ได้เน้นย้ำให้ปรับเรื่องยุทธวิธีตามพื้นที่ล่อแหลม ห่างไกลจากกำลังหลัก แต่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ก็ต้องดุแลในภาพรวม โดยต้องกำชับให้มีความระมัดระวังมากขึ้น
นอกจากนี้ พล.อ.อุดมเดช ยังได้เน้นย้ำถึงสถานการณ์ที่เริ่มปรับจากภัยแล้งเป็นอุทกภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ถาคเหนือ และและอีสาน เช่น จ.น่าน และ จ.เชียงราย ได้ให้หน่วยทหารแก้ไขสถานการณ์ขั้นต้น ซึ่งมีการแก้ไขได้ดี อย่างไรก็ตามปัญหาอุทกภัยในเมืองใหญ่ เช่น จ.นครราชสีมา ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดในพื้นที่ กทม. จึงขอให้ทุกหน่วยมีความพร้อมในพื้นที่ตลอดเวลา หากเห็นว่าฝนเริ่มตกหน่วยต้องตื่นตัว ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปคลี่คลายสถานการณ์อย่างเป็นระบบนจุดที่วิกฤต เช่นการระบายจราจร การซ่อมยานพหนะเป็นต้น
