พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยผลการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก มี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการ กอ.รมน.เป็นประธาน ว่า ได้มีการชี้แจงและสั่งการต่อผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ กอ.รมน.ที่ประชุมได้เห็นชอบให้การสนับสนุนศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดเครื่องบินสนับสนุนการเดินทางของประชาชนไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย และเห็นชอบร่างแผนยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่อ่าวปัตตานี โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง บ.บากง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
นอกจากนี้ ได้มอบให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นหน่วยรับผิดชอบ และมอบหมายให้ กอ.รมน.เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการ รวมถึงการใช้งานกล้อง CCTV ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ด้วย โดยให้ดำเนินการตั้งแต่ขั้นของการวางแผนติดตั้ง การจัดหา และการซ่อมบำรุง โดยให้ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) เป็นหน่วยรับผิดชอบการควบคุมและการเชื่อมโยงระบบข้อมูลเครือข่าย
พล.อ.อุดมเดช ยังได้สั่งการเพิ่มเติมให้เตรียมกำลังพลปฏิบัติราชการสนามในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2559 ตามที่มีการประเมินสถานการณ์และอนุมัติกรอบอัตราไปแล้ว โดยให้คัดเลือกคนที่มีความพร้อมเป็นหลัก แทนการจัดหมุนเวียนตามโควตา และให้นำยุทโธปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีสูงของหน่วยไปใช้อย่างคุ้มค่าด้วย
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ชมเชยการปฏิบัติการกิจการพลเรือน และงานมวลชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ รวมถึงได้เน้นย้ำงานด้านการข่าวเชิงรุก รวมถึงมาตรการเชิงรับทางยุทธวิธีโดยให้นำบทเรียนกรณีชุดคุ้มครองตำบลบาโร๊ะมาปรับปรุงแก้ไข
นอกจากนี้ ได้มอบให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นหน่วยรับผิดชอบ และมอบหมายให้ กอ.รมน.เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการ รวมถึงการใช้งานกล้อง CCTV ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ด้วย โดยให้ดำเนินการตั้งแต่ขั้นของการวางแผนติดตั้ง การจัดหา และการซ่อมบำรุง โดยให้ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) เป็นหน่วยรับผิดชอบการควบคุมและการเชื่อมโยงระบบข้อมูลเครือข่าย
พล.อ.อุดมเดช ยังได้สั่งการเพิ่มเติมให้เตรียมกำลังพลปฏิบัติราชการสนามในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2559 ตามที่มีการประเมินสถานการณ์และอนุมัติกรอบอัตราไปแล้ว โดยให้คัดเลือกคนที่มีความพร้อมเป็นหลัก แทนการจัดหมุนเวียนตามโควตา และให้นำยุทโธปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีสูงของหน่วยไปใช้อย่างคุ้มค่าด้วย
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ชมเชยการปฏิบัติการกิจการพลเรือน และงานมวลชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ รวมถึงได้เน้นย้ำงานด้านการข่าวเชิงรุก รวมถึงมาตรการเชิงรับทางยุทธวิธีโดยให้นำบทเรียนกรณีชุดคุ้มครองตำบลบาโร๊ะมาปรับปรุงแก้ไข