xs
xsm
sm
md
lg

จับตาหลังลาสิกขา“พระสุเทพ”สั่งสมพลังเป็นขั้วอำนาจการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**ข่าวคราวการเมืองชั่วโมงนี้ หมุนเวียนเปลี่ยนถ่ายอยู่กับเรื่องปรับครม. กระแสข่าวกระเซ็นกระสายมาอย่างต่อเนื่อง แล้วในที่สุด "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็เปิดปากยอมรับ กำลังคิดอยู่ จะปรับแน่ๆ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่สะเด็ดน้ำลงตัว เรื่องวิ่งเต้นเส้นสายมีทั้งนั้น ไม่ว่ารัฐบาลพลเรือน หรือรัฐบาลทหาร อย่างว่าไอ้เรื่องตำแหน่ง ผลประโยชน์ มันหอมหวนชวนรับประทานเหมือนเด็กสาวนมกำลังตั้งเต้า ยังไงยังงั้น...
ที่ต้องฝากไว้เลย...ถ้ายังมัวแต่ลีลา ปล่อยให้มีข่าวคราวละเลงกันเลอะเทอะ มีแต่เรื่องการเล่นเก้าอี้ดนตรีย่อมไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลแน่ จะปรับก็รีบปรับ เอาให้จบเร็วๆ ดีกว่า ชาวบ้านไม่ได้มองเป็นเรื่องสนุก นักข่าวก็เบื่อวิ่งหาข่าว รัฐมนตรี ข้าราชการก็ไม่เป็นอันทำงาน รอลุ้นชื่อรัฐมนตรีกันอยู่นั่นแหละ ยิ่งยามนี้ปัญหาสำคัญรอให้แก้ไขอีกเยอะ ชักช้าโดนนินทาหายบ้าแน่
อย่างไรก็ดี บนความเคลื่อนไหวที่สุดแสนจะน่าเบื่อนี้ ยังมีเรื่องน่าจับตาเกี่ยวกับบุคลากรผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองคนหนึ่ง คนนั้นคือ "เทพเทือก" สุเทพ เทือกสุบรรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. และอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่วันนี้บวชเป็น "พระสุเทพ ปภากโร"
หลังบวชมาระยะหนึ่ง ก็ได้ฤกษ์ลาสิกขาบท วันที่ 28 ก.ค. ตามการเปิดเผยของหลวงพ่อเทือก และ "พระเชน อาภาธโร" (เชน เทือกสุบรรณ) น้องชายพระสุเทพ " พระสุเทพ พร้อมด้วยอาตมา และพระชินวรณ์ จันทสาโร (ชินวรณ์ บุญยเกียรติ) มีกำหนดลาสิกขาบทในเช้าวันที่ 28 ก.ค.นี้ ที่วัดท่าไทร อ.กาญจนดิษฐ์ โดยพระธรรมวิมลโมฬี"
สิ่งที่พระสุเทพจะทำหลังสลัดผ้าเหลืองออกมาคือ งานภาคประชาชนในนาม “มูลนิธิมวลมหาประชาชน เพื่อการปฏิรูปประเทศไทย” เพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อจากที่เคยทำไว้...
จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่า ที่เคยทำไว้นั่นมันประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลว ควรเดินหน้าต่อหรือถอยหลัง เจตนารมณ์ที่เคยให้ไว้บางเรื่องดูดี แต่บางเรื่องก็ไม่ไหว สังคมช่วยตอบที
**พระสุเทพ วาดภาพล่วงหน้าไว้สวยหรูดูดีมาก หลังสึกออกมา จะไปสร้างวิทยาลัยอาชีวศึกษา ในแนววิถีพุทธ ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นต้นแบบผลิตบุคลากรออกไปรับใช้สังคม สร้างคนมีคุณภาพควบคู่คุณธรรม สำคัญคือ เรียนฟรีทุกคน !!! เท่านั้นไม่พอ บอกว่าอนาคตจะทำโครงการบ้านพักผู้สูงอายุต้นแบบ และทำชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง... เป็นรัฐบาลจำแลง ทำเองเล่นเองมันซะเลย แต่จะทำได้ไม่ได้ หรือไม่ได้ทำ ต้องรอดู
กระนั้นพูดไปไม่รู้จะบาปหรือเปล่า หลายคนมโนอยู่ในหัวว่า การที่พระสุเทพไปบวช คงไม่ใช่เพราะความต้องการ ความตั้งใจจะเข้าสู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์เพียวๆแน่ มันต้องมีอย่างอื่นแอบแฝง หรือซ่อนแผนเล่ห์กลอะไรไว้ หรือเป็นการซุ่มกบดาน รอจังหวะ
ไม่น่าจะผิด ที่สาธุชนทั้งหลายจะคิดเช่นนั้น เพราะบันทึกประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ในอดีต บอกเล่าได้เป็นอย่างดี วีรกรรมที่พระสุเทพ ทำไว้ล้วนยิ่งใหญ่เกริกไกร ดีไม่ดียังไม่รู้แน่ แต่ที่รู้ๆ คืออลังการงานสร้าง !!!
เคยคร่ำหวอดอยู่บนถนนการเมืองกว่าครึ่งชีวิต ในวงการต้องเรียกว่าระดับซือแป๋เซียนเหยียบเมฆ ฝีไม้ลายมือไม่ได้ด้อยกว่า อดีตเลขาพรรคประชาธิปัตย์รุ่นพี่ “เสธ.หนั่น”พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องเกมการเมือง โดยเฉพาะเรื่องคอนเนกชัน เคยสร้างตำนานงูเห่า จนตอนนี้คอการเมืองยังจำติดตา
แต่ที่เหนือกว่าแน่ๆ คือการเป็น“ผู้นำม็อบ” คงไม่ต้องสาธยายอะไรมาก เห็นกันไปแล้วเมื่อไม่กี่ปีก่อนนี้ มวลมหาประชาชนเป็นล้านพร้อมเดินตามภายใต้การนำของเขาก็แล้วกัน สั่งซ้ายหัน ขวาหันได้ไม่ต่างจากผู้บังคับบัญชาในกองทัพ
บารมีแก่กล้า จังหวะก้าวแต่ละที นับจากนี้ไปต้องบอกว่าน่ากลัว โดยเฉพาะบทบาทการนำม็อบที่โดดเด่นเหลือเกิน ถ้าเคลื่อนอีกที รับรองแผ่นดินสะเทือนแน่
กระนั้นแหล่งข่าวสายสืบที่ล้วงลึกยิ่งกว่าโจรปล้นกางเกงใน รายงานพร้อมสังเคราะห์ข้อมูลให้แล้วว่า หลังจากพระสุเทพ ลาสิกขาบทออกมา ท่าทีการเคลื่อนไหวยังไม่มี !!!
**จะยังคงกบดาน รักษาฟอร์มเงียบเรียบเฉยต่อไปเช่นเดิม เพราะสถานการณ์ไม่เอื้อให้ทำอะไรห่ามๆ กระโตกกระตาก ชั่วโมงนี้ กระดานอำนาจ เทฝั่งไปอยู่กับฝ่ายทหารแบบหมดจด ฝ่ายประชาธิปไตยแท้ๆ ยังไม่กล้าแลก เพราะการยึดอำนาจเที่ยวนี้ มีเหตุผลที่สมควรอยู่เหมือนกัน ถ้าไม่รัฐประหาร บ้านเมืองก็ฉิบหาย ไร้ทางออก ตีกันไปตีกันมา อลเวงอยู่อย่างนั้น ไม่ต้องถามใคร ถามใจตัวเองตอนนั้นก็อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อยู่เหมือนกัน ใช่ไม่ใช่ !!
พวกที่ออกมาร้องแรกแหกกระเชอเหยงๆ อยู่ตอนนี้ มีไม่กี่คนที่หัวใจประชาธิปไตยโดยแท้จริง อย่าไปนับพวกนักการเมืองที่ออกมาโป้ปดเลย..ประชาธิปไตย ต้องอย่างโน้น ประชาธิปไตยต้องอย่างนี้ ก็แค่พูดเอาสวย เอาหล่อแค่นั้น เนื้อแท้ก็สร้างภาพ โหมกระแส หวังให้การเมืองพลิกกระดาน ขอเข้าสู่อำนาจบ้างแค่นั้น เพราะถ้าแน่จริงก็ต้องลุยให้พังไปข้างแล้ว..
สำหรับพระสุเทพนั้น การเดินเกมการเมืองที่ผ่านมาที่สู้อุตส่าห์ลงไปนำม็อบข้างถนน เจตนาก็เพื่อหวังเปลี่ยนโฉมการเมือง ซึ่งก็สำเร็จไปแล้ว จากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ สู่รัฐบาลประยุทธ์ แน่นอนว่าในใจย่อมคิด.. ลงทุนไปเยอะควรได้รับผลกำไร แต่ถึงตอนนี้ก็ประมาณว่า ไม่ได้ไม่เสีย ไม่ได้อำนาจ แต่ก็ไม่ต้องติดคุก **แต่ถ้าคิดในเชิงการเมืองแล้ว ขาดทุนย่อยยับ เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง สุดท้ายต้องไปบวชพระ ห่มจีวรข่มจิตใจ
อยู่วัด ใจก็ใช่ว่าจะสงบหมดพ้นกิเลส หลายครั้งหลายครายังหลุดวิพากษ์การเมือง ยังเฝ้ามองเหตุการณ์บ้านเมืองและวางแผนในวันหน้า
หมากเกมของพระสุเทพ ปภากโร หลังพ้นสมณเพศ จะไม่หวนกลับคืนสู่พรรคประชาธิปัตย์อีกแล้ว ไม่สามารถกลับไปได้แล้ว แต่ในเชิงของจิตใจ ความใกล้ชิด แน่นอนว่ายังลึกซึ้งกันอยู่ ถ้าจะเคลื่อนไหวเชิงการเมือง ก็จะเป็นแบบคู่ขนาน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จะแตกกัน จะบาดหมางกัน ก็เฉพาะตอนอยู่บนยอดเขาด้วยกัน หรือตอนมีอำนาจเท่านั้น ตามสไตล์ดั้งเดิมที่เป็นมาแต่ไหน แต่ไร
ชั่วโมงนี้ไร้อำนาจวาสนา ไม่ต้องเดา ไม่ต้องทายให้เมื่อยว่าการเดินเกมจะเป็นอย่างไร ก็มาเดินข้างๆ กันนั่นแหละ ที่เห็นและเป็นอยู่ ประชาธิปัตย์เองก็ทำอะไรไม่ได้ จะไปช่วยรัฐบาลก็ใช่เรื่อง ถูกคนนินทาหมาดูถูกเปล่าๆ ครั้นจะไปต้าน ก็ใช่ที่ โดนเสียดสีเรียกเขามา ยังไปไล่เขาอีก
ฉะนั้นอยู่เฉยๆ ดีกว่า ชมด่าไปตามเรื่อง ไม่ให้เสียจริต ไปทำอย่างอื่นแก้เซ็ง พักยกเข้ามุม รอจังหวะชนะน็อก
พระสุเทพ ก็คิดแบบนั้นเช่นกัน ไปหลบมุมในรูปแบบมูลนิธิ รอจังหวะเคลื่อนไหว สั่งสมพลังเป็นอีกขั้วอำนาจหนึ่ง เฉกเช่นเดียวกับ นปช. ที่ แยกขาถ่างออกมาจากพรรคเพื่อไทย ซุ่มขับเน้นบารมีให้โดดเด่นเพิ่มเติม สถาปนาขุมพลังอำนาจใหม่ ที่ใครก็ต้องเกรงใจ ด้วยศักยภาพบารมีที่สั่งสมไว้ย่อมไม่ธรรมดาเทียบกับพวกลิ่วล้อขี้ข้าทักษิณ ที่อุปโลกน์ตัวเองมาเป็นแกนนำมวลชนแล้ว มันคนละชั้น !!!
**แกนนำระดับบิ๊ก คสช. ยังต้องติดต่อประสานงานอยู่ตลอดเวลา จ้องจะดึงไปร่วมงานในอนาคต ไม่เป็นมือขวาก็มือซ้าย คิดดูเอาเถอะว่าบารมีขนาดไหน เพราะถึงวันนี้และวันหน้า ไปถามใครก็จะได้รับคำตอบเหมือนกันว่า...ถึงไม่อยากเป็นมิตร แต่ก็ไม่กล้าคิดเป็นศัตรู !!
กำลังโหลดความคิดเห็น