ASTV ผู้จัดการรายวัน - "เจ๊ติ๋ม" เมินรอฟังทางออกช่องไทยทีวีและ LOCA จากทางกสทช. โยกรายการที่ผลิตจากทีวีพูลออก คาดเหลือผลิตจริงเพียง 30% เท่านั้น เน้นรายการสดเป็นหลัก นอกนั้นปล่อยเช่าพระเครื่อง ล่าสุดลั่นกลองพร้อมงดออกอากาศในระบบดิจิตอล ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค. นี้ ตั้งแต่เวลา 00.00 น.เป็นต้นไป
ในช่วงเวลาการหาข้อสรุประหว่าง กสทช. กับไทยทีวีเพื่อหาทางออก หลังจากที่ไทยทีวีได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. หลังจากที่ กสทช. มีหนังสือคำสั่งเรียกให้บริษัท ไทยทีวี จำกัด ชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปี และยกเลิกการเป็นผู้รับอนุญาตใช้คลื่นความถี่ และประกอบกิจการโทรทัศน์ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยเห็นว่าการประกอบธุรกิจทีวีดิจิตอล และการทำงานของ กสทช. ยังไม่เป็นระบบตามเงื่อนไขที่ให้ไว้ก่อนการประมูลทีวีดิจิตอล ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อนักลงทุน จึงขอให้ กสทช. เพิกถอนคำสั่งการเรียกให้บริษัท ไทยทีวี ชำระเงินค่าธรรมเนียมและชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัท ไทยทีวี เป็นจำนวนเงิน 700 ล้านบาท
ส่งผลให้ช่วงที่ผ่านมา ทางศาลปกครองกลางได้นัดไต่สวนครั้งแรก และภายในอาทิตย์นี้ ทางกสทช.จะเชิญ นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ เจ้ติ๋ม เข้ามาพูดคุยถึงแนวทางแก้ไขปัญหากับบอร์ดบริหารของ กสทช. เพื่อทำความเข้าใจ ภายในสัปดาห์นี้นั้น
อย่างไรก็ตาม ถึงเวลานี้จะเป็นเวลาและหน้าที่ของทางศาลปกครองกลางในการหาข้อสรุปในการยื่นฟ้องครั้งนี้ ซึ่งไม่ว่าผลสรุปจะออกเป็นอย่างไร แต่สำหรับบริษัท ไทยทีวี จำกัด โดยทางเจ๊ติ๋มเองนั้น คงไม่หวังรอหาข้อสรุปอีกต่อไปแล้ว เพราะได้เริ่มวางแผนหาทางออกให้กับช่องไทยทีวี และช่องLOCAไปบ้างแล้ว โดยพร้อมที่โยกช่องไทยทีวี และLOCA ลงแพลทฟอร์มเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียมแน่นอน
ล่าสุดในส่วนของช่องไทยทีวีนั้น เริ่มตั้งแต่ผังรายการมีการเปลี่ยนแปลงให้เช่าเวลามากขึ้น โดยเฉพาะรายการขายสินค้า เช่าพระเครื่อง มาแทนที่รายการที่ผลิตโดยทีวีพูล อีกทั้งโฆษณาที่นำเสนอส่วนใหญ่จะเป็นการโปรโมทรายการต่างๆของช่องทีวีพูลหรือของทางทีวีพูลเป็นหลัก ส่วนรายการที่ยังดำเนินการอยู่ อาจจะเหลือไม่ถึง 30% ส่วนใหญ่จะเป็นรายการสด เช่น รายการข่าว สน.17, ลูกทุ่งทีวีพูล เป็นต้น ที่สำคัญยังมีการปล่อยตัวหนังสือวิ่งอยู่ข้างใต้จอโทรทัศน์ตลอดทั้งวัน ด้วยข้อความว่า
"ตามที่ บริษัท ไทยทีวี จำกัด ได้ขอยกเลิกการประกอบกิจการโทรทัศน์และใบอนุญาต ให้บริการภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลต่อกสทช. จะดำเนินการงดออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ในระบบดิจิทัลในช่องLOCAและไทยทีวี ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค. 2558 ตั้งแต่เวลา 00.00 น. ทั้งนี้ผู้ชมสามารถรับชมรายการต่างๆทางสถานีโทรทัศน์ ช่องLOCA และไทยทีวีได้ตามปกติผ่านระบบดาวเทียม เคเบิ้ลทีวีทั้งประเทศและเว็บไซต์
จะเห็นได้ว่า อนาคตช่องไทยทีวีและช่องLOCA จะกลายเป็นช่องที่ทางไทยทีวีจะหารายได้จากการเช่าหรือ เปลี่ยนผู้ถือหุ้น ตามแนวทางที่ทางกสทช.วางไว้ให้เบื้องต้น และช่องหลักจะเป็นช่อง ทีวีพูลทีวี ที่กำลังจะเปิดให้บริการทางเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมแทน
ในช่วงเวลาการหาข้อสรุประหว่าง กสทช. กับไทยทีวีเพื่อหาทางออก หลังจากที่ไทยทีวีได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. หลังจากที่ กสทช. มีหนังสือคำสั่งเรียกให้บริษัท ไทยทีวี จำกัด ชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปี และยกเลิกการเป็นผู้รับอนุญาตใช้คลื่นความถี่ และประกอบกิจการโทรทัศน์ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยเห็นว่าการประกอบธุรกิจทีวีดิจิตอล และการทำงานของ กสทช. ยังไม่เป็นระบบตามเงื่อนไขที่ให้ไว้ก่อนการประมูลทีวีดิจิตอล ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อนักลงทุน จึงขอให้ กสทช. เพิกถอนคำสั่งการเรียกให้บริษัท ไทยทีวี ชำระเงินค่าธรรมเนียมและชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัท ไทยทีวี เป็นจำนวนเงิน 700 ล้านบาท
ส่งผลให้ช่วงที่ผ่านมา ทางศาลปกครองกลางได้นัดไต่สวนครั้งแรก และภายในอาทิตย์นี้ ทางกสทช.จะเชิญ นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ เจ้ติ๋ม เข้ามาพูดคุยถึงแนวทางแก้ไขปัญหากับบอร์ดบริหารของ กสทช. เพื่อทำความเข้าใจ ภายในสัปดาห์นี้นั้น
อย่างไรก็ตาม ถึงเวลานี้จะเป็นเวลาและหน้าที่ของทางศาลปกครองกลางในการหาข้อสรุปในการยื่นฟ้องครั้งนี้ ซึ่งไม่ว่าผลสรุปจะออกเป็นอย่างไร แต่สำหรับบริษัท ไทยทีวี จำกัด โดยทางเจ๊ติ๋มเองนั้น คงไม่หวังรอหาข้อสรุปอีกต่อไปแล้ว เพราะได้เริ่มวางแผนหาทางออกให้กับช่องไทยทีวี และช่องLOCAไปบ้างแล้ว โดยพร้อมที่โยกช่องไทยทีวี และLOCA ลงแพลทฟอร์มเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียมแน่นอน
ล่าสุดในส่วนของช่องไทยทีวีนั้น เริ่มตั้งแต่ผังรายการมีการเปลี่ยนแปลงให้เช่าเวลามากขึ้น โดยเฉพาะรายการขายสินค้า เช่าพระเครื่อง มาแทนที่รายการที่ผลิตโดยทีวีพูล อีกทั้งโฆษณาที่นำเสนอส่วนใหญ่จะเป็นการโปรโมทรายการต่างๆของช่องทีวีพูลหรือของทางทีวีพูลเป็นหลัก ส่วนรายการที่ยังดำเนินการอยู่ อาจจะเหลือไม่ถึง 30% ส่วนใหญ่จะเป็นรายการสด เช่น รายการข่าว สน.17, ลูกทุ่งทีวีพูล เป็นต้น ที่สำคัญยังมีการปล่อยตัวหนังสือวิ่งอยู่ข้างใต้จอโทรทัศน์ตลอดทั้งวัน ด้วยข้อความว่า
"ตามที่ บริษัท ไทยทีวี จำกัด ได้ขอยกเลิกการประกอบกิจการโทรทัศน์และใบอนุญาต ให้บริการภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลต่อกสทช. จะดำเนินการงดออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ในระบบดิจิทัลในช่องLOCAและไทยทีวี ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค. 2558 ตั้งแต่เวลา 00.00 น. ทั้งนี้ผู้ชมสามารถรับชมรายการต่างๆทางสถานีโทรทัศน์ ช่องLOCA และไทยทีวีได้ตามปกติผ่านระบบดาวเทียม เคเบิ้ลทีวีทั้งประเทศและเว็บไซต์
จะเห็นได้ว่า อนาคตช่องไทยทีวีและช่องLOCA จะกลายเป็นช่องที่ทางไทยทีวีจะหารายได้จากการเช่าหรือ เปลี่ยนผู้ถือหุ้น ตามแนวทางที่ทางกสทช.วางไว้ให้เบื้องต้น และช่องหลักจะเป็นช่อง ทีวีพูลทีวี ที่กำลังจะเปิดให้บริการทางเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมแทน