ASTVผู้จัดการรายวัน-กสทช. ส่งหนังสือแจ้ง "เจ๊ติ๋ม" รีบจ่ายเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวด 2 ใน 15 วัน ขู่หากไม่ตอบกลับ ไม่จ่ายหรือนิ่งเฉย เตรียมนำแบงก์การันตีขึ้นเงินทันที แนะขอให้สู้ต่อ เหตุทำไม่ทำก็ต้องจ่าย ชี้อนาคตอาจดีก็ได้ ย้ำหันไปออกอากาศผ่านทีวีดาวเทียมทำได้ แต่มีเงื่อนไขห้ามถูกขึ้นบัญชีดำ
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังบริษัท ไทยทีวี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือครองใบอนุญาตทีวีดิจิตอล 2 ช่อง ได้แก่ ไทยทีวี และโลก้า เพื่อให้ชำระเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 พร้อมอัตราดอกเบี้ย 7.5% ต่อปีแล้ว หลังจากที่ไม่ได้ชำระเงินค่าประมูลงวดที่ 2 เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2558 ที่ผ่านมา โดยขอให้ตอบกลับภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ
ทั้งนี้ หากไทยทีวีขอเลื่อนการชำระหนี้ กสทช. จะอนุโลมให้เลื่อนได้ โดยต้องรับภาระดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี แต่หากยืนยันไม่ชำระเงิน หรือเพิกเฉยไม่ตอบกลับ กสทช.จะนำหนังสือค้ำประกันจากสถานบันการเงิน (แบงก์การันตี) ไปขึ้นเงินกับธนาคารในทันที ซึ่งกรณีนี้ คือ ธนาคารกรุงเทพ
"ตามกระบวนการ เชื่อว่าแบงก์กรุงเทพจะมีศักยภาพทางการเงินในการชำระเงินให้กับ กสทช. ในทันที หลังจากทำเรื่องแจ้งไป คงไม่ต้องถึงขั้นฟ้องร้องบังคับดี ซึ่งแบงก์คงจะจ่ายเงินให้ กสทช. ได้ก่อน จากนั้นแบงก์ต้องไปทวงหนี้กับผู้ขอออกแบงก์การันตีเอาเอง และเมื่อ กสทช. ได้เงินมาแล้ว ก็จะฟ้องร้องผู้ประกอบการเพื่อเรียกดอกเบี้ยที่เลยกำหนดชำระค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 นับตั้งแต่วันครบกำหนดจนถึงวันที่ธนาคารจ่ายเงินให้"
อย่างไรก็ตาม ขอให้นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยทีวี จำกัด คิดให้ดี หากไม่จ่ายเงินค่าประมูลงวดที่ 2 กสทช. ก็ไปขึ้นเงินกับธนาคารได้ แล้วธนาคารก็จะไปเรียกร้องเอาเงินจากไทยทีวีอีกต่อ ซึ่งอยากจะขอให้นางพันธุ์ทิพาสู้ต่อ เพราะทำต่อหรือไม่ทำ ก็ต้องจ่าย ใครจะไปรู้ว่าหากทำต่อแล้ว ในอนาคตอาจจะมีกำไรและธุรกิจรุ่งเรืองก็เป็นได้
นายฐากรกล่าวว่า กรณีที่ไทยทีวีแถลงว่าจะไปดำเนินการออกอากาศผ่านทีวีดาวเทียมแทนนั้น ไทยทีวีสามารถทำได้ โดยออกอากาศผ่านช่องทีวีดาวเทียมเดิมที่มีใบอนุญาตอยู่ หรือจะขอใบอนุญาตใหม่ แต่มีเงื่อนไขเดียว คือ ไทยทีวีต้องไม่ถูกขึ้นบัญชีดำที่ห้ามประกอบกิจการโทรทัศน์เป็นเวลา 3 ปี เพราะขณะนี้ไทยทีวีมีความเสี่ยงที่จะถูกขึ้นบัญชีดำ หากมีการยุติการออกอากาศด้วยตนเองภายใน 15 วัน ตามที่แจ้งมายัง กสทช. เพราะการจะยุติการออกอากาศได้ ต้องได้รับอนุญาตก่อน
ส่วนกรณีไทยทีวีจะฟ้องร้อง กสทช. ต่อศาลปกครอง เห็นว่าหากมีการฟ้องร้องจริง กสทช. พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งศาล
นอกจากนี้ กสทช. ได้นำเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 ที่ได้รับจากทั้ง 22 ช่องรายการ จำนวน 7,854.6 ล้านบาท ส่งเป็นรายได้แผ่นดินให้แก่ทางกระทรวงการคลังเป็นที่เรียบร้อย และยังได้นำส่งเงินอีก 549.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่กรมสรรพากรแล้วเช่นเดียวกัน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีบริษัท ไทยทีวี จำกัด จะคืนในอนุญาตทีวีดิจิตอลว่า การจะทำอะไรก็ตาม ต้องมีภูมิคุ้มกัน ถ้าจะลงทุน ก็ต้องรู้ว่าคุ้มหรือไม่ ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สอนไว้อยู่แล้วทั้งการพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ กินเหลือต้องแบ่งปัน แต่เรากลับไม่ทำ ไม่เอา การลงทุนหากยังไม่พร้อมแล้วไปกู้เงินเขามา มันก็เจ๊งทุกครั้งไป ธุรกิจสื่อต้องมีการลงทุนมากมายมหาศาล ค่าโฆษณาจึงต้องแพงตามมา แต่ในบางเวลาก็ต้องเสียสละบ้าง เสียสละให้ คสช. บ้าง
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังบริษัท ไทยทีวี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือครองใบอนุญาตทีวีดิจิตอล 2 ช่อง ได้แก่ ไทยทีวี และโลก้า เพื่อให้ชำระเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 พร้อมอัตราดอกเบี้ย 7.5% ต่อปีแล้ว หลังจากที่ไม่ได้ชำระเงินค่าประมูลงวดที่ 2 เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2558 ที่ผ่านมา โดยขอให้ตอบกลับภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ
ทั้งนี้ หากไทยทีวีขอเลื่อนการชำระหนี้ กสทช. จะอนุโลมให้เลื่อนได้ โดยต้องรับภาระดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี แต่หากยืนยันไม่ชำระเงิน หรือเพิกเฉยไม่ตอบกลับ กสทช.จะนำหนังสือค้ำประกันจากสถานบันการเงิน (แบงก์การันตี) ไปขึ้นเงินกับธนาคารในทันที ซึ่งกรณีนี้ คือ ธนาคารกรุงเทพ
"ตามกระบวนการ เชื่อว่าแบงก์กรุงเทพจะมีศักยภาพทางการเงินในการชำระเงินให้กับ กสทช. ในทันที หลังจากทำเรื่องแจ้งไป คงไม่ต้องถึงขั้นฟ้องร้องบังคับดี ซึ่งแบงก์คงจะจ่ายเงินให้ กสทช. ได้ก่อน จากนั้นแบงก์ต้องไปทวงหนี้กับผู้ขอออกแบงก์การันตีเอาเอง และเมื่อ กสทช. ได้เงินมาแล้ว ก็จะฟ้องร้องผู้ประกอบการเพื่อเรียกดอกเบี้ยที่เลยกำหนดชำระค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 นับตั้งแต่วันครบกำหนดจนถึงวันที่ธนาคารจ่ายเงินให้"
อย่างไรก็ตาม ขอให้นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยทีวี จำกัด คิดให้ดี หากไม่จ่ายเงินค่าประมูลงวดที่ 2 กสทช. ก็ไปขึ้นเงินกับธนาคารได้ แล้วธนาคารก็จะไปเรียกร้องเอาเงินจากไทยทีวีอีกต่อ ซึ่งอยากจะขอให้นางพันธุ์ทิพาสู้ต่อ เพราะทำต่อหรือไม่ทำ ก็ต้องจ่าย ใครจะไปรู้ว่าหากทำต่อแล้ว ในอนาคตอาจจะมีกำไรและธุรกิจรุ่งเรืองก็เป็นได้
นายฐากรกล่าวว่า กรณีที่ไทยทีวีแถลงว่าจะไปดำเนินการออกอากาศผ่านทีวีดาวเทียมแทนนั้น ไทยทีวีสามารถทำได้ โดยออกอากาศผ่านช่องทีวีดาวเทียมเดิมที่มีใบอนุญาตอยู่ หรือจะขอใบอนุญาตใหม่ แต่มีเงื่อนไขเดียว คือ ไทยทีวีต้องไม่ถูกขึ้นบัญชีดำที่ห้ามประกอบกิจการโทรทัศน์เป็นเวลา 3 ปี เพราะขณะนี้ไทยทีวีมีความเสี่ยงที่จะถูกขึ้นบัญชีดำ หากมีการยุติการออกอากาศด้วยตนเองภายใน 15 วัน ตามที่แจ้งมายัง กสทช. เพราะการจะยุติการออกอากาศได้ ต้องได้รับอนุญาตก่อน
ส่วนกรณีไทยทีวีจะฟ้องร้อง กสทช. ต่อศาลปกครอง เห็นว่าหากมีการฟ้องร้องจริง กสทช. พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งศาล
นอกจากนี้ กสทช. ได้นำเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 ที่ได้รับจากทั้ง 22 ช่องรายการ จำนวน 7,854.6 ล้านบาท ส่งเป็นรายได้แผ่นดินให้แก่ทางกระทรวงการคลังเป็นที่เรียบร้อย และยังได้นำส่งเงินอีก 549.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่กรมสรรพากรแล้วเช่นเดียวกัน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีบริษัท ไทยทีวี จำกัด จะคืนในอนุญาตทีวีดิจิตอลว่า การจะทำอะไรก็ตาม ต้องมีภูมิคุ้มกัน ถ้าจะลงทุน ก็ต้องรู้ว่าคุ้มหรือไม่ ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สอนไว้อยู่แล้วทั้งการพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ กินเหลือต้องแบ่งปัน แต่เรากลับไม่ทำ ไม่เอา การลงทุนหากยังไม่พร้อมแล้วไปกู้เงินเขามา มันก็เจ๊งทุกครั้งไป ธุรกิจสื่อต้องมีการลงทุนมากมายมหาศาล ค่าโฆษณาจึงต้องแพงตามมา แต่ในบางเวลาก็ต้องเสียสละบ้าง เสียสละให้ คสช. บ้าง