ประจวบคีรีขันธ์ - สลด! ช้างป่าละอูล้มตายเรียงกัน 3 ตัว ที่ริมบ่อน้ำขุดใหม่ในพื้นที่ห้วยสัตว์ใหญ่ คาดเป็นพ่อ-แม่-ลูกกัน เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นพบ 3 ประเด็น "กินสารเคมี ถูกวางยา และถูกไฟฟ้าช็อต" ส่วนลูกช้างตัวที่ 3 พบปลายงวงถูกของมีคมเฉือนหายไป อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งผู้เกี่ยวข้องเร่งหาสาเหตุการล้มของช้างป่าทั้ง 3 ตัวโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น.วานนี้่ (15 ก.ค.) นายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้รับแจ้งจากนายสมพงษ์ ยะภักดี ลูกจ้างในอาสศรมสุญตา หมู่ 1 บ้านเฉลิมเกียรติพัฒนา ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบช้างล้มข้างบ่อน้ำ 3 ตัว จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยนายสรัญชชา สุริยกุล ณ อยุธยา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี และนายวัฒนา พรประเสริษฐ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ พร้อมฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน อบต.ห้วยสัตว์ใหญ์ สมาคม wcs ประเทศไทย ทหาร ตำรวจ และ ตชด.
เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุพบอยู่ริมบ่อน้ำขุดใหม่กลางไร่ที่ปลูกหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ไว้ของอาศรม พื้นที่โดยรอบที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ทางการเกษตรแปลงปลูกหญ้าและสวนยาพารา พบมีช้างป่านอนตายเรียงกันอยู่ 3 ตัวโดยตัวแรกเป็นช้างป่าเพศผู้ อายุประมาณ 10-15 ปี มีงายาวประมาณ 30 เซนติเมตร ตัวที่ 2 เป็นช้างป่าเพศเมีย อายุประมาณ 6-7 ปี และตัวที่ 3 เป็นลูกช้างป่าเพศเมีย อายุประมาณ 2-3 ปี ทั้งหมดน่าจะเป็นช้างครอบครัว เนื่องจากลูกช้างจะต้องมีช้างพี่เลี้ยงคอยดูแล และอายุเฉลี่ยของช้างแต่ละตัวใกล้เคียงกัน
ทั้งนี้ นายสรัชชา สุริยกุล ณ อยุธยา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แบ่งกำลังกันตรวจสอบดูร่องรอยและหาจุดที่ช้างป่าโขลงดังกล่าวว่ามาจากทิศทางใด ซึ่งพบรอบบ่อน้ำพบรอยเท้าช้างเป็นจำนวนมาก และยังพบกองอุจจาระของช้างด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นกับทีมสัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติ ตำรวจ ทหาร ยังไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพช้างนอนตายเรียงกันทั้ง 3 ตัวดังกล่าว เป็นภาพที่น่าสลดใจอย่างยิ่ง ซึ่งชาวบ้านที่ทราบข่าวได้เดินทางมาดูช้างให้เห็นกับตา และต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกสงสารลูกช้างที่ต้องมาตายพร้อมกัน และหากเป็นกรณีถูกสารเคมี และถูกไฟฟ้าช็อตนั้นยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นในพิ้นที่โครงการพระราชดำริ ที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่
นายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่า พื้นที่เกิดเหตุอยู่ในเขตที่ดินของอาศรม อยู่นอกพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ช้างโขลงนี้จะมีอยู่ประมาณ 15 ตัว เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เคยพบเห็นเป็นประจำ โดยเมื่อเช้าเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยังพบเหตุช้างอยู่ในแนวรอยต่ออุทยาน คาดว่าจะเสียชีวิตในช่วงเย็นของวันเดียวกัน กระทั่งมาพบว่าตายพร้อมกันทั้ง 3 ตัวเมื่อช่วงเช้าวานนี้
"จากการตรวจสอบไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยกระสุนที่ตัวช้าง มีเพียงลูกช้างที่ปลายงวงลักษณะถูกตัดหายไป ส่วนช้างทุกตัวมีลักษณะใกล้เคียงกัน คือ มีเลือดออกที่ปาก และที่ดวงตา สภาพเริ่มขึ้นอืด และเริ่มส่งกลิ่นเหม็นเพราะสภาพอากาศที่ร้อนจัด" นายกมล กล่าว
ต่อมาเวลา 10.00 น.พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ กันยาประสิทธิ์ ผกก.สภ.หนองพลับ และ พ.ต.ท.สนั่น ศิริมงคล พนักงานสอบสวน สภ.หนองพลับ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน ได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับหลักฐานต่างๆ ไว้ตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม นายสรัชชา สุริยกุล ณ อยุธยา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรีและทีมสัตวแพทย์ได้ปรึกษาและสันนิษบานเบื้องต้นว่าช้างป่าทั้ง 3 ตัวอาจจะกินสารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลงตามไร่การเกษตรของชาวบ้าน แล้วเกิดอาการร้อน จึงพากันเดินออกจากป่าลงมากินน้ำที่บ่อน้ำภายในไร่ของอาศรมสุญตา ที่ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม แต่ยังไม่ทันได้กินน้ำก็ล้มตายอยู่ข้างบ่อน้ำดังกล่าว ส่วนสาเหตุการตายที่แท้จริงนั้นจะต้องรอให้ทีมสัตวแพทย์ผ่าพิสูจน์ พร้อมเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อส่งตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบบริเวณปลายงวงของลูกช้างตัวที่ 3 มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีร่องรอยของการถูกของมีคมเฉือนปลายงวงออกไป ซึ่งอาจจะถูกไฟฟ้าช็อตจนล้มทั้ง 3 ตัว และมีผู้ใหผู้หนึ่งพยายามเบี่ยงเบนประเด็นให้เป็นการกินสารเคมี หรือวางยาก็อาจเป็นไปได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบว่ามีการใช้รั้วไฟฟ้าแรงสูงหรือไม่ และได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองพลับ และทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดประจวบฯ ก็ได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบในเบื้องต้น ซึ่งไม่พบวัสดุที่เป็นโลหะ หรือกระสุนแต่อย่างใด และในเวลาต่อไปมาได้ใช้รถแบ็กโฮ ยกช้างทั้ง 3 ตัวขึ้นรถเทรลเลอร์เพื่อนำไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ แก่งกระจานที่หุบเต่า เพื่อใช้เป็นสถานที่ผ้าพิสูจน์ และจะทำการฝังไว้ที่บริเวณหน่วยหุบเต่า
ด้านนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้แสดงความรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่พบช่างป่าล้ม 3 ตัวในครั้งนี้ พร้อมระบุว่า ถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ซึ่งตนได้สั่งการผ่านไปยังหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและทุกส่วนของกรมอุทยานฯ ที่เกี่ยวข้องและทีมสัตวแพทย์ให้เร่งหาสาเหตุการล้มของช้างป่าทั้ง 3 ตัวโดยเร็วแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น.วานนี้่ (15 ก.ค.) นายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้รับแจ้งจากนายสมพงษ์ ยะภักดี ลูกจ้างในอาสศรมสุญตา หมู่ 1 บ้านเฉลิมเกียรติพัฒนา ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบช้างล้มข้างบ่อน้ำ 3 ตัว จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยนายสรัญชชา สุริยกุล ณ อยุธยา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี และนายวัฒนา พรประเสริษฐ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ พร้อมฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน อบต.ห้วยสัตว์ใหญ์ สมาคม wcs ประเทศไทย ทหาร ตำรวจ และ ตชด.
เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุพบอยู่ริมบ่อน้ำขุดใหม่กลางไร่ที่ปลูกหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ไว้ของอาศรม พื้นที่โดยรอบที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ทางการเกษตรแปลงปลูกหญ้าและสวนยาพารา พบมีช้างป่านอนตายเรียงกันอยู่ 3 ตัวโดยตัวแรกเป็นช้างป่าเพศผู้ อายุประมาณ 10-15 ปี มีงายาวประมาณ 30 เซนติเมตร ตัวที่ 2 เป็นช้างป่าเพศเมีย อายุประมาณ 6-7 ปี และตัวที่ 3 เป็นลูกช้างป่าเพศเมีย อายุประมาณ 2-3 ปี ทั้งหมดน่าจะเป็นช้างครอบครัว เนื่องจากลูกช้างจะต้องมีช้างพี่เลี้ยงคอยดูแล และอายุเฉลี่ยของช้างแต่ละตัวใกล้เคียงกัน
ทั้งนี้ นายสรัชชา สุริยกุล ณ อยุธยา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แบ่งกำลังกันตรวจสอบดูร่องรอยและหาจุดที่ช้างป่าโขลงดังกล่าวว่ามาจากทิศทางใด ซึ่งพบรอบบ่อน้ำพบรอยเท้าช้างเป็นจำนวนมาก และยังพบกองอุจจาระของช้างด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นกับทีมสัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติ ตำรวจ ทหาร ยังไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพช้างนอนตายเรียงกันทั้ง 3 ตัวดังกล่าว เป็นภาพที่น่าสลดใจอย่างยิ่ง ซึ่งชาวบ้านที่ทราบข่าวได้เดินทางมาดูช้างให้เห็นกับตา และต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกสงสารลูกช้างที่ต้องมาตายพร้อมกัน และหากเป็นกรณีถูกสารเคมี และถูกไฟฟ้าช็อตนั้นยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นในพิ้นที่โครงการพระราชดำริ ที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่
นายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่า พื้นที่เกิดเหตุอยู่ในเขตที่ดินของอาศรม อยู่นอกพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ช้างโขลงนี้จะมีอยู่ประมาณ 15 ตัว เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เคยพบเห็นเป็นประจำ โดยเมื่อเช้าเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยังพบเหตุช้างอยู่ในแนวรอยต่ออุทยาน คาดว่าจะเสียชีวิตในช่วงเย็นของวันเดียวกัน กระทั่งมาพบว่าตายพร้อมกันทั้ง 3 ตัวเมื่อช่วงเช้าวานนี้
"จากการตรวจสอบไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยกระสุนที่ตัวช้าง มีเพียงลูกช้างที่ปลายงวงลักษณะถูกตัดหายไป ส่วนช้างทุกตัวมีลักษณะใกล้เคียงกัน คือ มีเลือดออกที่ปาก และที่ดวงตา สภาพเริ่มขึ้นอืด และเริ่มส่งกลิ่นเหม็นเพราะสภาพอากาศที่ร้อนจัด" นายกมล กล่าว
ต่อมาเวลา 10.00 น.พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ กันยาประสิทธิ์ ผกก.สภ.หนองพลับ และ พ.ต.ท.สนั่น ศิริมงคล พนักงานสอบสวน สภ.หนองพลับ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน ได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับหลักฐานต่างๆ ไว้ตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม นายสรัชชา สุริยกุล ณ อยุธยา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรีและทีมสัตวแพทย์ได้ปรึกษาและสันนิษบานเบื้องต้นว่าช้างป่าทั้ง 3 ตัวอาจจะกินสารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลงตามไร่การเกษตรของชาวบ้าน แล้วเกิดอาการร้อน จึงพากันเดินออกจากป่าลงมากินน้ำที่บ่อน้ำภายในไร่ของอาศรมสุญตา ที่ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม แต่ยังไม่ทันได้กินน้ำก็ล้มตายอยู่ข้างบ่อน้ำดังกล่าว ส่วนสาเหตุการตายที่แท้จริงนั้นจะต้องรอให้ทีมสัตวแพทย์ผ่าพิสูจน์ พร้อมเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อส่งตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบบริเวณปลายงวงของลูกช้างตัวที่ 3 มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีร่องรอยของการถูกของมีคมเฉือนปลายงวงออกไป ซึ่งอาจจะถูกไฟฟ้าช็อตจนล้มทั้ง 3 ตัว และมีผู้ใหผู้หนึ่งพยายามเบี่ยงเบนประเด็นให้เป็นการกินสารเคมี หรือวางยาก็อาจเป็นไปได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบว่ามีการใช้รั้วไฟฟ้าแรงสูงหรือไม่ และได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองพลับ และทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดประจวบฯ ก็ได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบในเบื้องต้น ซึ่งไม่พบวัสดุที่เป็นโลหะ หรือกระสุนแต่อย่างใด และในเวลาต่อไปมาได้ใช้รถแบ็กโฮ ยกช้างทั้ง 3 ตัวขึ้นรถเทรลเลอร์เพื่อนำไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ แก่งกระจานที่หุบเต่า เพื่อใช้เป็นสถานที่ผ้าพิสูจน์ และจะทำการฝังไว้ที่บริเวณหน่วยหุบเต่า
ด้านนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้แสดงความรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่พบช่างป่าล้ม 3 ตัวในครั้งนี้ พร้อมระบุว่า ถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ซึ่งตนได้สั่งการผ่านไปยังหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและทุกส่วนของกรมอุทยานฯ ที่เกี่ยวข้องและทีมสัตวแพทย์ให้เร่งหาสาเหตุการล้มของช้างป่าทั้ง 3 ตัวโดยเร็วแล้ว