กาญจนบุรี - หน่วยงานรัฐเร่งสำรวจความเสียหายแผ่นดินไหว 4.8 ริกเตอร์ในสังขละบุรี พบบ้านชาวมอญแตกร้าวเสียหายหลายหลัง ข้าวของเครื่องใช้ตกแตกกระจาย และพบรอยร้าวใน รพ.หลายจุด "ผอ.รพ.สังขละบุรี" สั่งย้ายผู้ป่วยไปยัง รพ.ใกล้เคียงชั่วคราว ปภ.สรุปผลตรวจสอบเสียหายเล็กน้อยแค่เศษปูน กระเบื้องมุงหลังคาพิพิธภัณฑ์วัดวังก์วิเวการามหล่นแตก ด้านผู้ว่าฯ กาญจน์ยัน 2 เขื่อนยักษ์แข็งแรง เตือนประชาชนอย่าแตกตื่น "นักธรณีวิทยา" ชี้เหตุแผ่นดินไหวเป็นเรื่องปกติ มั่นใจไม่กระทบ 2 เขื่อนใหญ่ เผยไหวตลอดอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้แรงไปหน่อย คนเลยรู้สึกได้
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 4.8 ริกเตอร์ที่บริเวณ ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ในเวลา 21.55 น.คินวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ละติจูด 15.01 องศา และลองจิจูด 98.47 องศา ความลึก 4 กิโลเมตร ห่างจากเขื่อนวชิราลงกรณ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 27.21 กม.ห่างจากเขื่อนศรีนครินทร์ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 97.15 กม.
ต่อมาเวลา 09.00 น.วานนี้ (15 ก.ค.) นายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเทศบาลตำบลวังกะ, อบต.หนองลู, ผู้นำท้องถิ่น, กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนที่มีอยู่ทั้งหมด และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบ รพ.อำเภอสังขละบุรี ได้รับผลกระทบพื้นและผนังของอาคารเกิดแตกร้าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจให้แน่ชัดว่าจะส่งผลกระทบมากน้อยเพียงใด ส่วนผิวถนนคอนกรีตที่แตกร้าวตามที่ปรากฏทางสื่อทางเจ้าหน้าที่จะไปตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่งว่าเป็นร่องรอยแตกแยกเดิมหรือเพิ่งเกิดขึ้นใหม่
นพ.กฤษดา วุธยากร ผอ.โรงพยาบาลสังขละบุรี กล่าวว่า ครั้งแรกที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวตนรู้สึกได้เลยว่าอาคารเกิดสั่นสะเทือนมากพอสมควร เจ้าหน้าที่ทุกคน รวมทั้งญาติคนไข้และคนไข้ต่างก็รู้สึกตกใจ เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน หลังเหตุการณ์สงบเจ้าหน้าที่ได้สำรวจโดยรอบอาคารพบว่ามีร่องรอยการแตกร้าวตามพื้นและผนังอาคาร ขณะนั้นมีคนไข้อยู่เป็นจำนวนมาก และเพื่อความปลอดภัยของคนไข้ ตนจึงประสานให้ญาติมารับกลับไปพักผ่อนที่บ้าน โดยเฉพาะคนไข้อาการไม่หนัก ส่วนคนไข้ที่อาการหนักทางโรงพยาบาลได้ย้ายผู้ป่วยไปรักษาตัวชั่วคราวที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา 8 ราย และอีก 16 รายให้ออกไปอยู่ที่ลานด้านหน้าของโรงพยาบาล โดยระหว่างนั้นก็ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้นมาอีก 2 ครั้ง แต่ไม่รุนแรงมากนัก เจ้าหน้าที่ก็ได้เฝ้าระวังกันตลอดทั้งคืน
"ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่ออาคารของโรงพยาบาลจะต้องรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาสำรวจอีกครั้งหนึ่ง โดยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลก็ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี"
**ชาวสังขละเผยนาทีระทึก"ผ่นดินไหว"
นายบรรจง รัมมะอรรถ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 1 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เล่าว่า ขณะเกิดแผ่นดินไหวตนกำลังยืนแปลงฟันอยู่ในห้องน้ำ ไม่นานก็ได้ยินเสียงดังลั่นขึ้นมาจากภายนอกและเกิดอาการเซเกือบล้มในห้องน้ำแต่ยังโชคดีที่ตนสามารถคว้าขอบอ่างน้ำเอาไว้ได้ แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นได้ไม่นานนักจากนั้นตนจึงรีบเดินออกมาดูที่หน้าบ้าน เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นก็พบว่าที่ท้องถนนไม่มีรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์วิ่งตามปกติ ไม่นานเพื่อนที่อยู่ในตลาดเทศบาลก็ไลน์มาบอกว่าเกิดเหตุแผ่นดินไหว รู้ตัวหรือเปล่า ซึ่งตนก็ตอบไปตามความเป็นจริง
***บ้านชุมชุนชาวมอญเสียหายหลายหลัง
นายเจริญ ศรีเริ่มสกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุแผ่นดินไหว รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนนานประมาณ 2 นาที ทำให้ข้าวของเครื่องใช้ที่วางอยู่สั่นไหวตามไปด้วยทุกคนในครอบครัวรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และช่วงขณะเกิดเหตุมีเพื่อนบ้านไปนั่งตกปลาอยู่สะพานลูกบวบ ข้างสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ ก็เห็นคลื่นน้ำกระเพื่อมสูงขั้นมามากกว่าปกติ จากการสอบถามไปยังลูกบ้าน ต่างรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนเช่นกัน และทุกคนต่างก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าตนได้ออกสำรวจความเสียหายตามบ้านเรือนพบทุกครัวเรือนไม่มีอะไรเสียหาย สำหรับโบราณสถานที่มีอยู่ตามวัดต่างๆ ก็ไม่มีอะไรเสียหายเช่นกัน มีเพียงอาคารโรงพยาบาลสังขละบุรีเพียงแห่งเดียวที่ได้รับความเสียหาย พื้นและผนังรวมทั้งหลังคาที่ทำด้วยปูนเกิดแตกร้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นล่าสุดนายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ไปสำรวจบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ชุมชนชาวมอญ หมู่ 2 ต.หนองลู ขณะสำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า บ้านเรือนมีรอยแตกร้าวหลายหลัง ข้าวของเครื่องใช้ เช่น ทีวี ตกลงมาแตกเสียหาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางช่วยเหลือในเบื้องต้น
สำหรับบรรยากาศทั่วไปเช้าวานนี้ประชาชนและนักท่องเที่ยวยังคงตื่นตระหนกในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เดินสำรวจสะพานไม้เพื่อดูความเสียหายบ้างก็ได้ซื้อข้าวสารอาหารแห้งตักบาตรทำบุญแด่พระภิกษุสงฆ์เพื่อทำบุญสะเดาะห์เคราะห์จากเหตุการณ์การเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้
**ปภ.กาญจนบุรีเผยพบเสียหายเล็กน้อย
เวลา 12.00 น.นายถนอมพล ดอนไพรวัน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) กาญจนบุรี สาขาทองผาภูมิ ได้สรุปผลการตรวจสอบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ว่า 1.ผลการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายยังไม่พบประชาชนในพื้นที่ทั้งในเขต อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรีได้รับผลกระทบ และความเสียหายแต่อย่างใด
2.สิ่งก่อสร้างของทางราชการ ประชาชน และภาคเอกชนไม่ได้รับความเสียหาย มีเพียงศาสนสถานของวัดวังก์วิเวการาม บริเวณพิพิธภัณฑ์หอประวัติ 2 ชั้นพระอุโบสถ ได้รับความเสียหายมีเศษปูน และกระเบื้องมุงหลังคาร่วงหล่นเล็กน้อย และจากการตรวจสอบผลกระทบโครงสร้างหลักทางวิศวกรรม โดยกองช่างเทศบาลตำบลวังกะ พบว่า ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
3.สภาพหัวเขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์ ไม่พบความผิดปกติใดๆ กับตัวเขื่อน และเขื่อนทั้ง 2 ยังมีความมั่นคงแข็งแรงสามารถใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สาขาทองผาภูมิ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ด้านนายประเสริฐ ธำรงวิศว ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณ ได้ทำรายงานถึงหัวหน้า ปภ.กาญจนบุรี เพื่อยืนยันว่า เขื่อนทั้ง 2 แห่งไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเช่นกัน โดยขอให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว
**ผู้ว่าฯกาญจน์ยัน2เขื่อนยักษ์ยังแข็งแรง
นายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า เขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์ ได้รับแจ้งว่าไม่มีผลกระทบใดๆ เขื่อนยังมีความมั่นคงแข็งแรง และขอยืนยันต่อนักท่องเที่ยวว่า เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ มีความปลอดภัย ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวแม้แต่น้อย ซึ่งทางจังหวัดได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม และปฏิบัติตามแผนเพื่อความปลอดภัยของประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรีเป็นอย่างดี
**นักธรณีวิทยายันไม่กระทบ2เขื่อนยักษ์
ดร.ปริญญา พุทธาภิบาล นักธรณีวิทยา สาขาธรณีศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลวิทยาเขตไทรโยค กล่าวว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าวตนเคยพูดมาหลายครั้งแล้วว่ารอยเลื่อนเจดีย์สามองค์และรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ มีโอกาสที่เกิดแผ่นดินไหวขึ้นได้ทุกเมื่อ ส่วนจะคาดการณ์ว่าจะเกิดเมื่อไรนั้น คงเป็นไปไม่ได้
"แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะในแต่ละปีพบว่ารอยเลื่อนเจดีสามองค์เกิดขึ้นนับร้อยครั้งต่อปี แต่ประชาชนไม่ได้รู้สึกว่าเกิดแผ่นดินไหว แต่ครั้งนี้เกิดขึ้นค่อนข้างแรงไป จึงทำให้ประชาชนรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ส่วนความกังวลว่าแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อเขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์หรือไม่นั้น ตนมั่นใจเป็นอย่างมากว่าไม่ส่งผลกระทบต่อเขื่อนทั้งสองแห่งอย่างแน่นอน"
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 4.8 ริกเตอร์ที่บริเวณ ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ในเวลา 21.55 น.คินวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ละติจูด 15.01 องศา และลองจิจูด 98.47 องศา ความลึก 4 กิโลเมตร ห่างจากเขื่อนวชิราลงกรณ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 27.21 กม.ห่างจากเขื่อนศรีนครินทร์ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 97.15 กม.
ต่อมาเวลา 09.00 น.วานนี้ (15 ก.ค.) นายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเทศบาลตำบลวังกะ, อบต.หนองลู, ผู้นำท้องถิ่น, กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนที่มีอยู่ทั้งหมด และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบ รพ.อำเภอสังขละบุรี ได้รับผลกระทบพื้นและผนังของอาคารเกิดแตกร้าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจให้แน่ชัดว่าจะส่งผลกระทบมากน้อยเพียงใด ส่วนผิวถนนคอนกรีตที่แตกร้าวตามที่ปรากฏทางสื่อทางเจ้าหน้าที่จะไปตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่งว่าเป็นร่องรอยแตกแยกเดิมหรือเพิ่งเกิดขึ้นใหม่
นพ.กฤษดา วุธยากร ผอ.โรงพยาบาลสังขละบุรี กล่าวว่า ครั้งแรกที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวตนรู้สึกได้เลยว่าอาคารเกิดสั่นสะเทือนมากพอสมควร เจ้าหน้าที่ทุกคน รวมทั้งญาติคนไข้และคนไข้ต่างก็รู้สึกตกใจ เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน หลังเหตุการณ์สงบเจ้าหน้าที่ได้สำรวจโดยรอบอาคารพบว่ามีร่องรอยการแตกร้าวตามพื้นและผนังอาคาร ขณะนั้นมีคนไข้อยู่เป็นจำนวนมาก และเพื่อความปลอดภัยของคนไข้ ตนจึงประสานให้ญาติมารับกลับไปพักผ่อนที่บ้าน โดยเฉพาะคนไข้อาการไม่หนัก ส่วนคนไข้ที่อาการหนักทางโรงพยาบาลได้ย้ายผู้ป่วยไปรักษาตัวชั่วคราวที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา 8 ราย และอีก 16 รายให้ออกไปอยู่ที่ลานด้านหน้าของโรงพยาบาล โดยระหว่างนั้นก็ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้นมาอีก 2 ครั้ง แต่ไม่รุนแรงมากนัก เจ้าหน้าที่ก็ได้เฝ้าระวังกันตลอดทั้งคืน
"ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่ออาคารของโรงพยาบาลจะต้องรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาสำรวจอีกครั้งหนึ่ง โดยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลก็ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี"
**ชาวสังขละเผยนาทีระทึก"ผ่นดินไหว"
นายบรรจง รัมมะอรรถ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 1 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เล่าว่า ขณะเกิดแผ่นดินไหวตนกำลังยืนแปลงฟันอยู่ในห้องน้ำ ไม่นานก็ได้ยินเสียงดังลั่นขึ้นมาจากภายนอกและเกิดอาการเซเกือบล้มในห้องน้ำแต่ยังโชคดีที่ตนสามารถคว้าขอบอ่างน้ำเอาไว้ได้ แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นได้ไม่นานนักจากนั้นตนจึงรีบเดินออกมาดูที่หน้าบ้าน เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นก็พบว่าที่ท้องถนนไม่มีรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์วิ่งตามปกติ ไม่นานเพื่อนที่อยู่ในตลาดเทศบาลก็ไลน์มาบอกว่าเกิดเหตุแผ่นดินไหว รู้ตัวหรือเปล่า ซึ่งตนก็ตอบไปตามความเป็นจริง
***บ้านชุมชุนชาวมอญเสียหายหลายหลัง
นายเจริญ ศรีเริ่มสกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุแผ่นดินไหว รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนนานประมาณ 2 นาที ทำให้ข้าวของเครื่องใช้ที่วางอยู่สั่นไหวตามไปด้วยทุกคนในครอบครัวรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และช่วงขณะเกิดเหตุมีเพื่อนบ้านไปนั่งตกปลาอยู่สะพานลูกบวบ ข้างสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ ก็เห็นคลื่นน้ำกระเพื่อมสูงขั้นมามากกว่าปกติ จากการสอบถามไปยังลูกบ้าน ต่างรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนเช่นกัน และทุกคนต่างก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าตนได้ออกสำรวจความเสียหายตามบ้านเรือนพบทุกครัวเรือนไม่มีอะไรเสียหาย สำหรับโบราณสถานที่มีอยู่ตามวัดต่างๆ ก็ไม่มีอะไรเสียหายเช่นกัน มีเพียงอาคารโรงพยาบาลสังขละบุรีเพียงแห่งเดียวที่ได้รับความเสียหาย พื้นและผนังรวมทั้งหลังคาที่ทำด้วยปูนเกิดแตกร้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นล่าสุดนายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ไปสำรวจบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ชุมชนชาวมอญ หมู่ 2 ต.หนองลู ขณะสำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า บ้านเรือนมีรอยแตกร้าวหลายหลัง ข้าวของเครื่องใช้ เช่น ทีวี ตกลงมาแตกเสียหาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางช่วยเหลือในเบื้องต้น
สำหรับบรรยากาศทั่วไปเช้าวานนี้ประชาชนและนักท่องเที่ยวยังคงตื่นตระหนกในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เดินสำรวจสะพานไม้เพื่อดูความเสียหายบ้างก็ได้ซื้อข้าวสารอาหารแห้งตักบาตรทำบุญแด่พระภิกษุสงฆ์เพื่อทำบุญสะเดาะห์เคราะห์จากเหตุการณ์การเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้
**ปภ.กาญจนบุรีเผยพบเสียหายเล็กน้อย
เวลา 12.00 น.นายถนอมพล ดอนไพรวัน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) กาญจนบุรี สาขาทองผาภูมิ ได้สรุปผลการตรวจสอบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ว่า 1.ผลการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายยังไม่พบประชาชนในพื้นที่ทั้งในเขต อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรีได้รับผลกระทบ และความเสียหายแต่อย่างใด
2.สิ่งก่อสร้างของทางราชการ ประชาชน และภาคเอกชนไม่ได้รับความเสียหาย มีเพียงศาสนสถานของวัดวังก์วิเวการาม บริเวณพิพิธภัณฑ์หอประวัติ 2 ชั้นพระอุโบสถ ได้รับความเสียหายมีเศษปูน และกระเบื้องมุงหลังคาร่วงหล่นเล็กน้อย และจากการตรวจสอบผลกระทบโครงสร้างหลักทางวิศวกรรม โดยกองช่างเทศบาลตำบลวังกะ พบว่า ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
3.สภาพหัวเขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์ ไม่พบความผิดปกติใดๆ กับตัวเขื่อน และเขื่อนทั้ง 2 ยังมีความมั่นคงแข็งแรงสามารถใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สาขาทองผาภูมิ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ด้านนายประเสริฐ ธำรงวิศว ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณ ได้ทำรายงานถึงหัวหน้า ปภ.กาญจนบุรี เพื่อยืนยันว่า เขื่อนทั้ง 2 แห่งไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเช่นกัน โดยขอให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว
**ผู้ว่าฯกาญจน์ยัน2เขื่อนยักษ์ยังแข็งแรง
นายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า เขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์ ได้รับแจ้งว่าไม่มีผลกระทบใดๆ เขื่อนยังมีความมั่นคงแข็งแรง และขอยืนยันต่อนักท่องเที่ยวว่า เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ มีความปลอดภัย ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวแม้แต่น้อย ซึ่งทางจังหวัดได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม และปฏิบัติตามแผนเพื่อความปลอดภัยของประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรีเป็นอย่างดี
**นักธรณีวิทยายันไม่กระทบ2เขื่อนยักษ์
ดร.ปริญญา พุทธาภิบาล นักธรณีวิทยา สาขาธรณีศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลวิทยาเขตไทรโยค กล่าวว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าวตนเคยพูดมาหลายครั้งแล้วว่ารอยเลื่อนเจดีย์สามองค์และรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ มีโอกาสที่เกิดแผ่นดินไหวขึ้นได้ทุกเมื่อ ส่วนจะคาดการณ์ว่าจะเกิดเมื่อไรนั้น คงเป็นไปไม่ได้
"แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะในแต่ละปีพบว่ารอยเลื่อนเจดีสามองค์เกิดขึ้นนับร้อยครั้งต่อปี แต่ประชาชนไม่ได้รู้สึกว่าเกิดแผ่นดินไหว แต่ครั้งนี้เกิดขึ้นค่อนข้างแรงไป จึงทำให้ประชาชนรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ส่วนความกังวลว่าแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อเขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์หรือไม่นั้น ตนมั่นใจเป็นอย่างมากว่าไม่ส่งผลกระทบต่อเขื่อนทั้งสองแห่งอย่างแน่นอน"
