น.ส.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปที่สำนักงานใหญ่ของ Century Tokyo Leasing กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ในการจัดตั้ง บริษัท เอสพีซีจี ลิสซิ่ง จำกัด โดยมี นายโชจินิ ชิซาว่า General Manager. Solar Energy International Sale Division บริษัท Kyocera และ นายยาซูชิโย ชิโนะ Managing Executive Officer ผู้บริหาร Century Tokyo Leasing ร่วมลงนาม ถือเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทเอสพีซีจีกับ Century Tokyo Leasing เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อกับลูกค้าที่มีความต้องการติดตั้งโซลาร์รูฟ ทั้งในอาคารบ้านเรือน และอาคารโกดังของโรงงานอุตสาหกรรม แต่ยังขาดเงินทุน
ทั้งนี้ ได้มีการนำโนฮาวของบริษัทลิสซิ่ง ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีประสบการณ์ในการทำลิสซิ่งโซลาร์รูฟอย่างดี เข้ามาบุกตลาดในประเทศไทย เพื่อเป็นนวัตกรรมทางการเงิน ให้เป็นทางเลือกที่ดีแก่ลูกค้าโซลาร์รูฟทั่วไป อีกทั้งได้ความร่วมมือจากบริษัทผู้ผลิตแผงโซลาร์ยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น มาเสริมความแข็งแกร่ง โดยมีเป้าหมายจะทำให้ บริษัท เอสพีซีจี ลิสซิ่ง เป็นบริษัทอันดับต้นๆ ของประเทศที่เข้ามาบุกเบิกการทำตลาดโซลาร์รูฟในประเทศไทย
"นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญของ บริษัทเอสพีซีจี ที่บุกตลาดโซลาร์รูฟอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากประสบความสำเร็จในการร่วมมือกับ บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นำระบบโซลาร์เข้าสู่ตลาด retail เพื่อติดตั้งในอาคารบ้านเรือนทั่วไป จนสามารถขยายสู่วงกว้างไปทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ตลาดโซราร์รูปในประเทศกำลังเติบโต แต่คุณภาพของแผงโซลาร์เซลต้องมีคุณภาพด้วย การทำตลาดด้านนี้จึงต้องได้ผู้ที่มีประสบการณ์ และเป็นมืออาชีพ" น.ส.วันดีกล่าว
น.ส.วันดี กล่าวว่า บริษัท เอสพีซีจี พร้อมให้การสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ในการส่งเสริมให้ประชาชนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของบ้านเรือน (โซลาร์ รูฟ) เพื่อสร้างความมั่นคงพลังงานให้ประเทศชาติ ที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย ปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล วงเงิน 100 ล้านบาท ให้บ้านอยู่อาศัยในโครงการโซลาร์รูฟ ของบริษัท ขนาดไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ เพื่อขายไฟให้กับ กฟน. และ กฟภ. ราคา 6.85 บาท/หน่วย นาน 25 ปี นอกจากนี้ บริษัทเอสพีซีจี ยังประสบความสำเร็จกับการร่วมมือกับโฮมโปร จำหน่ายและติดตั้งระบบเซลล์แสงอาทิตย์ผลิตไฟฟ้าบนหลังคา ภายใต้แบรนด์ SPR Solar Roof ที่วางจำหน่ายห้างโฮมโปรทุกสาขา ทั่วประเทศ และการจับมือกับบริษัทญี่ปุ่นครั้งนี้ ก็เป็นอีกก้าวของเอสพีซีจี
ทั้งนี้ ได้มีการนำโนฮาวของบริษัทลิสซิ่ง ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีประสบการณ์ในการทำลิสซิ่งโซลาร์รูฟอย่างดี เข้ามาบุกตลาดในประเทศไทย เพื่อเป็นนวัตกรรมทางการเงิน ให้เป็นทางเลือกที่ดีแก่ลูกค้าโซลาร์รูฟทั่วไป อีกทั้งได้ความร่วมมือจากบริษัทผู้ผลิตแผงโซลาร์ยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น มาเสริมความแข็งแกร่ง โดยมีเป้าหมายจะทำให้ บริษัท เอสพีซีจี ลิสซิ่ง เป็นบริษัทอันดับต้นๆ ของประเทศที่เข้ามาบุกเบิกการทำตลาดโซลาร์รูฟในประเทศไทย
"นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญของ บริษัทเอสพีซีจี ที่บุกตลาดโซลาร์รูฟอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากประสบความสำเร็จในการร่วมมือกับ บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นำระบบโซลาร์เข้าสู่ตลาด retail เพื่อติดตั้งในอาคารบ้านเรือนทั่วไป จนสามารถขยายสู่วงกว้างไปทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ตลาดโซราร์รูปในประเทศกำลังเติบโต แต่คุณภาพของแผงโซลาร์เซลต้องมีคุณภาพด้วย การทำตลาดด้านนี้จึงต้องได้ผู้ที่มีประสบการณ์ และเป็นมืออาชีพ" น.ส.วันดีกล่าว
น.ส.วันดี กล่าวว่า บริษัท เอสพีซีจี พร้อมให้การสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ในการส่งเสริมให้ประชาชนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของบ้านเรือน (โซลาร์ รูฟ) เพื่อสร้างความมั่นคงพลังงานให้ประเทศชาติ ที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย ปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล วงเงิน 100 ล้านบาท ให้บ้านอยู่อาศัยในโครงการโซลาร์รูฟ ของบริษัท ขนาดไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ เพื่อขายไฟให้กับ กฟน. และ กฟภ. ราคา 6.85 บาท/หน่วย นาน 25 ปี นอกจากนี้ บริษัทเอสพีซีจี ยังประสบความสำเร็จกับการร่วมมือกับโฮมโปร จำหน่ายและติดตั้งระบบเซลล์แสงอาทิตย์ผลิตไฟฟ้าบนหลังคา ภายใต้แบรนด์ SPR Solar Roof ที่วางจำหน่ายห้างโฮมโปรทุกสาขา ทั่วประเทศ และการจับมือกับบริษัทญี่ปุ่นครั้งนี้ ก็เป็นอีกก้าวของเอสพีซีจี