xs
xsm
sm
md
lg

Tattoo For Animal แคมเปญสักฟรีเพื่อสัตว์ป่า โดยช่างมืออาชีพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อาจฟังดูขัดๆ ถ้าบอกว่า “รอยสัก” สามารถต่อชีวิตให้สัตว์ป่า แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะมันเกิดขึ้นแล้ว เมื่อหนึ่งช่างสักมากฝีมือ ผู้เคยได้รับความวางใจให้ประทับลายหมึกลงบนกายศิลปินดังอย่าง อ็อฟ ปองศักดิ์,อุ๋ย บูดาเบลส,บอย Lomosonic และอีกกว่านับไม่ถ้วน ตัดสินใจขอเติมความรักความฝันผ่านความถนัด ลงในแคมเปญ “Free Tattoo For Animal สักฟรี สมทบทุนช่วยเหลือมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า”

ทำวันนี้ เพราะ “สืบ” คือไอดอล
 
หมุนเวลากลับไปเมื่อ 25 ปีก่อน ทุกๆ ครั้งหลังจากวีรกรรมการพิทักษ์ผืนป่าด้วยชีวิตของ สืบ นาคะเสถียร จบลงในแถวหน้าเสาธง เด็กน้อยคนหนึ่ง ผู้ชื่นชอบเรื่องราวที่คุณครูมักเล่าให้ฟังทุกเช้าถึงวีรบุรุษคนนี้ จึงเกิดความคิดขึ้นว่า "สักวัน จะต้องทำให้ได้อย่างเขา"จนกระทั่งอายุเข้าวัย 34 ปี เมื่อความรู้สึกนี้ยังคงฝังลึกในหัวใจ ต้น ธีร ณ ป้อมเพชร ผู้กลายมาเป็นเจ้าของร้าน Lone Wolf จึงอยากลองสานฝันให้ตัวเองดูสักตั้ง
 
“ผมถือว่าคุณสืบ คือไอดอลของผมเลย เราเคยได้ยินเรื่องของเขาหน้าเสาธงมาตั้งแต่เด็ก ตอนนั้นก็ยอมรับว่ายังไม่รู้จักหรอกว่าสืบ คือใคร เพิ่งมาศึกษาเอาตอนโตขึ้นนี่แหละ แล้วผมก็รู้สึก เขาทำตรงนี้ เขาทุ่มเท ยอมแลกได้แม้แต่ชีวิต ก็เลยเกิดคำถามต่ออีก ทำไมเราแค่บอกว่ารักสัตว์ เราอยากช่วยเหลือ แต่เราก็ไม่ทำเสียที หรือที่จริง เราก็แค่เหมือนๆ กับคนรักสัตว์ที่มีเต็มถนน เหมือนคนที่คอยบอกรักสัตว์อย่าไปเตะหมานะ อย่างนู้นอย่างนี้ แต่ก็ได้แค่พูดไม่เคยไปหยิบยื่นความช่วยเหลือ ขนาดบางคนไปเจอกล่องรับบริจาคที่แปะว่า WWF ให้ช่วยกันหยอดห้าบาทสิบบาทยังไม่หยอดเลย แต่กลับไปหยอดขอทานแก่ๆ ซึ่งหากินเองได้ พูดกันแต่ว่ารักๆๆ แต่การกระทำมันแย้ง” 

วันนี้ ทันทีที่มีโอกาส ต้น ธีร จึงจัดกิจกรรมเชิงรณรงค์ให้คนเห็นคุณค่าของสัตว์ป่า ภายใต้การสนับสนุนเต็มกำลังจากช่างสักในร้าน Lone Wolf ของเขาอย่าง เอ็ท แพรว ใผ่ ปาล์ม ช่างสักรุ่นน้องผู้มากประสบการณ์ และฝีมือไม่แพ้กัน

“จริงๆ ผมเป็นคนชอบการรณรงค์อะไรแบบนี้อยู่แล้วครับ แต่พอโตขึ้นมันด้วยหน้าที่การงาน เราก็เลยทำตรงนั้นได้ไม่เต็มตัว เพราะคนที่จะทำแบบช่วยเหลือสัตว์โดยตรงได้ต้องทุ่มเท สละเวลา ทีนี้ก็เลยหาวิธีว่า จะทำยังไงเราได้ทำงานของเราด้วย และช่วยเหลือเขากลับคืนไปด้วย ก็เลยมาปรึกษาน้องๆ ในร้าน แล้วทุกคนก็เห็นด้วย บอกให้ทำเลยพี่ต้น ยินดีช่วยเต็มที่”

ส่วนแนวของแคมเปญก็คือ ผู้สนใจสามารถโทรนัดคิวกับทางร้าน เพื่อรอรับวันเวลาในการสัก แต่จะต้องเลือกลายสัก เฉพาะที่เป็นรูปสัตว์ ขนาด 3 คูณ 3 เท่านั้น โดยทางร้านจะสักให้ฟรีๆ แต่จะมีกล่องรับบริจาคให้ใส่ตามกำลังศรัทธา รายได้ทุกบาททุกสตางค์จะส่งตรงสู่มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า เพื่อเยียวยาชีวิตสัตว์ต่อไป

ด้วยหัวใจ ไม่ใช่หากินกับสัตว์

“จะใส่สิบบาท ยี่สิบบาทก็ได้ครับ เราไม่ได้กำหนด เพราะถือเป็นการทำบุญเหมือนกัน อยากให้มองถึงเพื่อนๆ ของเราที่ไม่ใช่มนุษย์บ้าง เราเอาจากเขามาเยอะมากแล้ว ถ้าเราไม่คืนให้เขาก็อย่าไปทำลาย ถ้ารักษาไม่ได้ก็อย่าไปเบียดเบียน บางคนบอกรักสัตว์ป่า ไปเอาสัตว์ป่ามาเลี้ยง มันเป็นความรักที่ผิด สัตว์ป่าควรอยู่ในป่า”

เพราะชั่วโมงบินในวงการ Tattoo มีมากถึง 14 ปี ชื่อของช่างต้น จึงเป็นที่คุ้นหูในแวดวงคนรักรอยสัก และเป็นที่รู้จักในนาม “เทพงานด็อท และสไตล์ทรีโอเมทริกซ์” ซึ่งเรื่องนี้ เนม ศุภกิจ บุญม่วง เด็กหนุ่ม วัย 23 ปี การันตีได้

“ผมติดตามผลงานพี่ต้นมานานมากแล้วครับ วันนี้ผมดีใจมากที่ได้มาสักร้านเขา เขาสักคนดัง ศิลปินดารามาเยอะ ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าไม่มีแคมเปญนี้ ผมคงไม่ได้มาสักกับเขา เพราะคิดว่าราคาคงแพงมากๆ แล้วคิวว่างก็ไม่ค่อยมี แต่วันนี้มีโอกาส ได้มาแล้ว ผมเลยขอให้เขาเลือกลายตามแต่ใจเขาเลย”

  เมื่อโครงการสักฟรี ถูกประกาศผ่านแฟนเพ็จ Lone Wolf Studio เพียงวันเดียว ยอดจองคิวก็เต็มตั้งแต่ 2 วันแรก ทว่า ต้น ยังฝากถึงผู้สนใจอีกว่า “ไม่จำเป็นต้องมาสักครับ เข้ามานั่งคุย หรือมาบริจาคร่วมกับทางร้านก็ได้ จริงๆ ผมอยากให้ทุกคนช่วยเหลือกันตรงนี้ แต่ถ้ามาไม่ได้ก็อยากขอว่าเวลาเห็นกล่องรับบริจาคเพื่อสัตว์ป่าของโครงการอะไรก็ได้ ที่ไหน ก็ช่วยกันหยอดสัก 5 บาท 10 บาทนะครับ”

แม้จะเป็นโครงการดีๆ ที่ถือว่าประสบความสำเร็จในเชิงรณรงค์ให้ผู้คนหันมารักสัตว์ แต่ผู้ริเริ่มโครงการแอบกระซิบว่า จะไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก เพราะอาจทำให้หลายๆ คนมองไม่เห็นคุณค่าของการสัก และอาจคิดไปได้ว่า ทางร้านใช้สัตว์หากิน ซึ่งผิดกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

“เราควบคุมความคิดใครไม่ได้เพราะงั้น เราจึงไม่อยากให้กิจกรรมนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะอาจไปกระทบกับร้านอื่นๆ เวลาคนหนีมาสักฟรีกับเราหมด แต่ยังไงรับรองว่าในอนาคต มันจะเกิดขึ้นอีกแน่ และผมก็คิดว่าจะเป็นโครงการเกี่ยวกับสัตว์ป่านี่แหละ เพราะถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงอย่างหมาแมว คนเข้าถึงง่าย เพราะตอนนี้มีโครงการช่วยเหลือ หมาและแมวเยอะมาก แต่สัตว์ป่ากลับน้อยลง”

ถึงจะเป็นแค่พลังส่วนเล็กๆ ของคนไม่กี่คน แต่ก็ถือว่าช่วยสร้างความหวัง ลมหายใจ ให้กับชีวิตในพงไพรได้ไม่น้อย “ในยามสัตว์ป่ามีภัย หมาป่าอย่างชื่อร้านพวกเรานี่แหละ จะขอเข้าไปช่วยเอง” นั่นคือสิ่งที่เจ้าของแคมเปญปิดท้าย ด้วยเสียงหัวเราะ 
 








ติดตามผลงานได้ที่แฟนเพจ Lone Wolf Studio
 
ข่าวโดย ทีมข่าว FeelGood




กำลังโหลดความคิดเห็น