“คำรณวิทย์” ต้องติดคุกไทยต่อ

ไม่รู้ว่า ผิดกฎกติกาของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือไม่ แต่คนจำนวนหนึ่งกำลังมีความคิดว่า จะชักชวนคนที่ไม่รักและไม่ชอบพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกันเดินขบวน

นำดอกไม้ไปให้สถานทูตญี่ปุ่น เพื่อยกย่องตำรวจญี่ปุ่นที่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะใหญ่มาจากไหน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พยายามคืนความสุขให้ประชาชน แต่ยังทำไม่สำเร็จ ขณะที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ชิงคืนความสุขให้ประชาชนตัดหน้าไปเสียแล้ว

เพราะข่าวถูกตำรวจญี่ปุ่นรวบคาสนามบิน ฐานพกอาวุธปืน ทำให้คนไทยทั้งประเทศมีความสุขกันถ้วนหน้า

แม้แต่คุณพระคุณเจ้า ยังเก็บอารมณ์แห่งความสุขไว้ไม่อยู่ แต่งเพลง “คำรณวิทย์” มีวันนี้ เพราะญี่ปุ่นให้ในทันที

ไม่เคยรู้ว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์จะมีแฟนคลับมากมายถล่มทลายแทบทั้งประเทศ เพิ่งจะรู้หลังมีข่าวถูกจับที่ญี่ปุ่น เพราะแฟนคลับทั้งหลายโผล่มาซ้ำเติมทั่วสารทิศ

กระหน่ำกันไฟแล่บ สะใจในเวรกรรมที่เคยทำไว้สมัยเป็น ผบช.น.

ผลทางคดีประเมินกันแล้ว งานนี้ “คำรณวิทย์” รอดยาก เจอคุกแน่ๆ เพียงแต่จะติดน้อยหรือติดยาวเท่านั้น

แต่วิบากกรรมของอดีต ผบช.น.มือเปื้อนเลือด จะชดใช้เพียงแค่การติดคุกญี่ปุ่นเท่านั้นหรือ

การถูกจับข้อหกพกอาวุธปืน ถ้าศาลญี่ปุ่นตัดสินว่ามีความผิด และต้องติดคุก ก็มีคำถามว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ต้องถูกถอดยศด้วยหรือไม่

เพราะตำรวจที่กระทำความผิด ถูกตัดสินจำคุก จะต้องถูกถอดยศ เช่นเดียวกับพล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

เพียงแต่กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ และพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เตะถ่วง ยื้อเวลาอยู่เท่านั้น

ดังนั้น เมื่อไหร่ที่ศาลญี่ปุ่นตัดสินจำคุกพล.ต.ท.คำรณวิทย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องดำเนินขั้นตอนถอดยศทันที หากไม่ดำเนินการ ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มีความผิดตามมาตรา 157 ซึ่งกำลังมีผู้ฟ้องเล่นงานพล.ต.อ.สมยศอยู่

ไม่เพียงเท่านั้น วิบากกรรมต่อไปคือ ปืนที่ถูกตำรวจญี่ปุ่นจับ พกพาไปจากประเทศไทย ซึ่งเจ้าตัวให้การสารภาพเอง แต่ปืนไม่มีทะเบียน จึงต้องเอาผิดตามกฎหมายไทย ฐานมีปืนเถื่อนไว้ในครอบครอง และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ

จะอ้างว่าเป็นตำรวจไม่ได้ เพราะเกษียณอายุแล้ว ไม่ได้อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่

เมื่อรับโทษที่ญี่ปุ่นแล้ว พล.ต.ท.คำรณวิทย์กลับมาประเทศไทย ต้องอายัดตัวสอบสวนดำเนินคดี และติดคุกต่อในประเทศไทย

ละเป็นปมคำถามใหญ่ที่สังคมรอคำตอบคือ “คำรณวิทย์” นำปืนขึ้นเครื่องบินออกไปได้อย่างไร

การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยออกมาแถลงแล้ว ยืนยันว่า ระบบตรวจสอบของสนามบินสุวรรณภูมิมีประสิทธิภาพได้มาตรฐานสากล และตรวจไม่พบอาวุธปืน

แต่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ให้การกับตำรวจญี่ปุ่นว่า พกพาปืนไปจากประเทศไทย เมื่อขั้นตอนการตรวจสอบช่องทางปกติของสนามบินไม่พบอาวุธปืนที่พกไป แสดงว่า มีการลักลอบนำปืนไปช่องทางอื่น

เป็นไปได้ไหมที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์จะไหว้วานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) นำปืนไปส่งขึ้นเครื่อง และตม.เมืองไทยใหญ่ขนาดไหนในสนามบินก็รู้ๆ กันอยู่

พล.ต.ท.คำรณวิทย์นำปืนขึ้นเครื่องไปได้อย่างไร เป็นโจทย์ในระดับที่พล.อ.ประยุทธ์จะต้องลงมาค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง จะทำตัวเป็นคุณชาย “ลอยชาย” ไม่ได้

เพราะเสื่อมเสียถึงประเทศ และจะโวยวายองค์กรการบินระหว่างประเทศที่ปักธงแดงสายการบินของประเทศไทยก็ไม่ได้ ในเมื่อมีอภิสิทธิชนแหกกฎการบินอย่างน่าทุเรศเห็นกันจะจะ

ปืนจิ๋วที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์พกติดตัวไปเกิดลั่นขึ้นมาแล้ว ลั่นหลายนัดเสียด้วย และไม่ได้โดนเฉพาะ “คำรณวิทย์” เพียงคนเดียว แต่ ตม.ก็โดนด้วย รองผู้ว่าฯ ปลัดจังหวัด และอบต.นับสิบคนจังหวัดปทุมธานีที่ร่วมคณะไปกับ “คำรณวิทย์” ก็โดนด้วย เพราะไปดูงานโดยมีบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจโรงขยะเป็นเจ้าภาพออกเงินให้ เข้าข่ายติดสินบนหรือไม่

“คำรณวิทย์” รอชดใช้เวรอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้ว แต่ปืน “คำรณวิทย์” ที่ลั่นออกมา จะต้องมีคนรับกรรมตาม “คำรณวิทย์” ด้วย

ใครเปิดทางให้ “คำรณวิทย์” พกปืนไปกร่าง จนถูกตำรวจญี่ปุ่นจับ เสื่อมเสียถึงประเทศ ต้องลากคอมาลงโทษให้ได้ อย่าทำเป็นแกล้งโง่ ปล่อยเงียบไม่ได้นะท่านประยุทธ์

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ทำลายประเทศยับเยินขนาดนี้ อย่ามีใครดัดจริตสงสาร แต่ต้องเล่นงานให้หนัก ต้องถอดยศ ต้องดำเนินคดีอาวุธปืน กลับมาเมื่อไหร่ต้องติดคุกไทยต่อ