พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุม ครม. ถึงกรณีที่ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จัดการแสดงสินค้าอาหาร ไทยเฟค- เวิล์ด ออฟ ฟู้ด เอเซีย ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีโอกาสไปเยี่ยมชมงาน และพบว่าเป็นความสำเร็จ และมีผู้สนใจจำนวนมา จึงสั่งการพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ จัดงานลักษณะเดียวกันนี้ ในพื้นที่ภูมิภาคด้วย เพื่อให้เกิดการกระจายตัวของกิจกรรมไปในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม และสินค้าต่างๆ ที่ส่วนใหญ่มากจากภูมิภาคต่างๆให้มีการตื่นตัวมากขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์ รายงานในที่ประชุมว่า ประมาณปลายเดือนกรกฎาคม จะมีการจัดงานดังกล่าวที่ จ.สุราษฎร์ธานี และในเดือนปลายสิงหาคม จะจัดที่ จ.เชียงใหม่ และจะจัดต่อไปให้ครบทุกภูมิภาค
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเรียนในหลักสูตรอาชีวะศึกษาอย่างมาก ทั้งการพยายามพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้ตอบโจทย์ของยุคสมัยปัจจุบัน โดยอาศัยโรงงานอุตสาหกรรมทั้งหลายเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดหลักสูตร เพื่อผลิตนักเรียนอาชีวะให้ตรงกับความต้องการของตลาด จบแล้วสามารถมีงานทำได้เลย นอกจากนี้ ยังมีความต้องการจะนำหลักการเรียนการสอนของนักศึกษาอาชีวะไปจุดประกายให้นักเรียนมัธยมด้วย ซึ่งนี่คือนโยบายของรัฐบาล
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ มีโอกาสพบรายงานชิ้นหนึ่งจากรายการโทรทัศน์ ที่นำเสนอให้เห็นว่าในปัจจุบันการใช้ชีวิตของนักศึกษาอาชีวะ เป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยก่อนออกจากบ้านต้องแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดหนึ่ง และนำชุดเครื่องแบบนักศึกษาใส่กระเป๋าแบบหลบซ่อน เมื่อไปถึงวิทยาลัยแล้วจึงเปลี่ยนเป็นชุดเครื่องแบบนักศึกษา และเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนต้องกลับบ้าน ก็ต้องให้ครู และอาจารย์ไปดูต้นทางว่าปลอดภัยหรือไม่ แล้วเดินทางกลับบ้านด้วยชุดที่ใส่มาตอนเช้า และนำเครื่องแบบนักศึกษาใส่กระเป๋า
"ท่านนายกฯบอกว่า แบบนี้มันไม่ได้ เราพยายามพัฒนาหลักสูตรให้ดีขึ้น ให้ตอบโจทย์ความต้องการสังคม แต่ชีวิตการเดินทางไปเรียนเป็นชีวิตที่น่าสงสาร จะปล่อยอย่างนี้ไม่ได้ ฉะนั้นจึงมอบหมายให้หน่วยงานด้านความมั่นคง ประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ดูในเรื่องนี้ด้วย นอกเหนือจากดูเรื่องหลักสูตร จะต้องทำให้สถาบันอาชีวะเป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน เป็นนักเรียนอาชีวะเหมือนกัน ไม่แยกสถาบันการศึกษา มีความปลอดภัยในการใช้ชีวิต เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักเรียนอยากเข้ามาเรียนสายอาชีวะ" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเรียนในหลักสูตรอาชีวะศึกษาอย่างมาก ทั้งการพยายามพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้ตอบโจทย์ของยุคสมัยปัจจุบัน โดยอาศัยโรงงานอุตสาหกรรมทั้งหลายเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดหลักสูตร เพื่อผลิตนักเรียนอาชีวะให้ตรงกับความต้องการของตลาด จบแล้วสามารถมีงานทำได้เลย นอกจากนี้ ยังมีความต้องการจะนำหลักการเรียนการสอนของนักศึกษาอาชีวะไปจุดประกายให้นักเรียนมัธยมด้วย ซึ่งนี่คือนโยบายของรัฐบาล
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ มีโอกาสพบรายงานชิ้นหนึ่งจากรายการโทรทัศน์ ที่นำเสนอให้เห็นว่าในปัจจุบันการใช้ชีวิตของนักศึกษาอาชีวะ เป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยก่อนออกจากบ้านต้องแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดหนึ่ง และนำชุดเครื่องแบบนักศึกษาใส่กระเป๋าแบบหลบซ่อน เมื่อไปถึงวิทยาลัยแล้วจึงเปลี่ยนเป็นชุดเครื่องแบบนักศึกษา และเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนต้องกลับบ้าน ก็ต้องให้ครู และอาจารย์ไปดูต้นทางว่าปลอดภัยหรือไม่ แล้วเดินทางกลับบ้านด้วยชุดที่ใส่มาตอนเช้า และนำเครื่องแบบนักศึกษาใส่กระเป๋า
"ท่านนายกฯบอกว่า แบบนี้มันไม่ได้ เราพยายามพัฒนาหลักสูตรให้ดีขึ้น ให้ตอบโจทย์ความต้องการสังคม แต่ชีวิตการเดินทางไปเรียนเป็นชีวิตที่น่าสงสาร จะปล่อยอย่างนี้ไม่ได้ ฉะนั้นจึงมอบหมายให้หน่วยงานด้านความมั่นคง ประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ดูในเรื่องนี้ด้วย นอกเหนือจากดูเรื่องหลักสูตร จะต้องทำให้สถาบันอาชีวะเป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน เป็นนักเรียนอาชีวะเหมือนกัน ไม่แยกสถาบันการศึกษา มีความปลอดภัยในการใช้ชีวิต เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักเรียนอยากเข้ามาเรียนสายอาชีวะ" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว