"หมอวิชัย" โดดป้องบิ๊ก สปสช.ถูกย้าย ยันไม่ได้ทำผิด ทุจริต ไม่ควรถูกเด้งจาก ม.44 วอนนายกฯ ทบทวน เชื่อเกลือเป็นหนอน คนรอบตัว "บิ๊กตู่" เอาคืนกรณีปลัด สธ.ถูกย้าย ลั่นค้านสุดตัวกระแสเรียกร้องปลัด สธ.กลับกระทรวง บอกใครนำกลับมาทำผิดมหันต์ต่อระบบสุขภาพ
นพ.วิชัย โชควิวัฒน์ กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวถึงกรณี คสช.มีคำสั่งย้าย นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ว่า ปกติการย้ายโดยใช้มาตรา 44 จำเพาะบุคคลมีปัญหาทุจริต ประพฤติมิชอบ ทำงานล่าช้า หากปล่อยไปจะเกิดความเสียหาย แต่ นพ.วินัย ไม่ได้เข้าเกณฑ์ดังกล่าว คำสั่งจึงถือว่าไม่ถูกต้อง เป็นการใช้อำนาจที่เสื่อม ควรทบทวน เพราะหากพิจารณาการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง จะเห็นว่าประชาชนเข้าถึงบริการเพิ่มขึ้นทุกปี จาก 1.7 ล้านครั้งต่อปี ในปี 2546 เพิ่มขึ้นเป็น 3.6 ล้านครั้งต่อปีในปัจจุบัน ขณะที่ข้าราชการท้องถิ่นยังเห็นถึงการบริหารจัดการที่ดีของ สปสช. และขอให้ช่วยดำเนินการเรื่องสวัสดิการรักษาพยาบาล จากเดิมบริหารงบสุขภาพกันเองใช้เงินถึง 6,000 ล้านบาทต่อปี ล่าสุด สปสช.บริหารเหลือเพียง 4,000 ล้านบาทต่อปี จึงไม่เข้าใจว่า นพ.วินัย บกพร่องอย่างไร
นอกจากนี้ การทุจริตหรือบริหารกองทุนฯ ที่ทำให้โรงพยาบาลขาดทุนก็ไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พูดเสมอ เพราะข้อมูลชัดเจนว่าโรงพยาบาลขาดสภาพคล่องมาจากหลายส่วน และส่วนสำคัญไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินที่ สปสช.จัดสรร ซึ่งกรณี นพ.วินัยอาจมาจากเกลือเป็นหนอน คนรอบข้างนายกรัฐมนตรีถือโอกาสช่วยเพื่อน นพ.ณรงค์ โดยเอาคืนให้ นพ.วินัยถูกย้ายหรือไม่
"ผมเชื่อว่านายกฯ ท่านหวังดี อยากให้ประสิทธิภาพการทำงานแต่ละส่วนดีขึ้น แต่จากเหตุการณ์แบบนี้หัวหน้า คสช. ต้องเร่งทบทวน และพิจารณาว่าแท้จริง นพ.วินัย เข้าข่ายต้องถูกย้ายด้วยมาตรา 44 หรือไม่อย่างไร และจะเทียบกับกรณี นพ.ณรงค์ถูกย้ายไม่ได้ เพราะ นพ.ณรงค์ ทำผิดจริง สร้างความเสียหาย แตกแยก ไม่ให้รพ.ร่วมมือทำงานกับ สปสช. งานก็ไม่เดิน รมว.สธ.ในฐานะประธานบอร์ดสปสช. สั่งอย่างหนึ่ง ปลัดสธ.ไปสั่งอีกอย่าง งานจะเดินอย่างไร" นพ.วิชัย กล่าวและว่า ส่วนกรณี ป.ป.ช.มีคำสั่งตรวจสอบ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สธ. เรื่องแต่งตั้งกรรมการสรรหาและกรรมการคัดเลือกในบอร์ด สวรส.เป็นบุคคลที่เคยรับทุนวิจัย สมควรหยุดงานหรือไม่นั้นก็เอามาเทียบกับกรณีปลัด สธ.ไม่ได้เช่นกัน เพราะ ศ.นพ.ยังต้องมีการพิจารณาก่อนว่ามีมูลความผิดหรือไม่ แต่ปลัด สธ.ขัดนโยบายรัฐบาลแะ รมว.สธ.ชัดเจน สร้างความแตกแยก และปลุกปั่นไม่ให้รพ.ในสังกัดส่งข้อมูลเบิกจ่ายให้ สปสช. แม้ รมว.สธ.จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบตามข้อร้องเรียน รพ.ขาดสภาพคล่องเพราะการบริหารสปสช. ก็ไม่ยอมเข้าร่วม ไม่ให้ข้อมูล แบบนี้ผิดชัดเจน ทำให้นายกฯต้องสั่งย้าย ถือว่าถูกต้องแล้ว
ส่วนกระแสข่าวใน สธ.ขอให้นพ.ณรงค์ กลับมาทำงาน มองว่าหากมีบุคคลใดให้ นพ.ณรงค์ กลับมา ถือว่าทำบาปและผิดมหันต์ เพราะจะทำลายระบบสุขภาพ เนื่องจากไม่ทำตามที่ ศ.นพ.รัชตะ จะเดินหน้างาน ทำคนละอย่าง มีคำสั่งคนละแบบ ผู้ปฏิบัติไม่รู้จะทำอย่างไร แบบนี้ทำลายระบบหรือไม่ ยิ่งตอนนี้ต้องคุมโรคเมอร์ส หากมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาคงระบาดไปทั่ว เพราะบุคลากรไม่รู้จะฟังใคร.
นพ.วิชัย โชควิวัฒน์ กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวถึงกรณี คสช.มีคำสั่งย้าย นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ว่า ปกติการย้ายโดยใช้มาตรา 44 จำเพาะบุคคลมีปัญหาทุจริต ประพฤติมิชอบ ทำงานล่าช้า หากปล่อยไปจะเกิดความเสียหาย แต่ นพ.วินัย ไม่ได้เข้าเกณฑ์ดังกล่าว คำสั่งจึงถือว่าไม่ถูกต้อง เป็นการใช้อำนาจที่เสื่อม ควรทบทวน เพราะหากพิจารณาการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง จะเห็นว่าประชาชนเข้าถึงบริการเพิ่มขึ้นทุกปี จาก 1.7 ล้านครั้งต่อปี ในปี 2546 เพิ่มขึ้นเป็น 3.6 ล้านครั้งต่อปีในปัจจุบัน ขณะที่ข้าราชการท้องถิ่นยังเห็นถึงการบริหารจัดการที่ดีของ สปสช. และขอให้ช่วยดำเนินการเรื่องสวัสดิการรักษาพยาบาล จากเดิมบริหารงบสุขภาพกันเองใช้เงินถึง 6,000 ล้านบาทต่อปี ล่าสุด สปสช.บริหารเหลือเพียง 4,000 ล้านบาทต่อปี จึงไม่เข้าใจว่า นพ.วินัย บกพร่องอย่างไร
นอกจากนี้ การทุจริตหรือบริหารกองทุนฯ ที่ทำให้โรงพยาบาลขาดทุนก็ไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พูดเสมอ เพราะข้อมูลชัดเจนว่าโรงพยาบาลขาดสภาพคล่องมาจากหลายส่วน และส่วนสำคัญไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินที่ สปสช.จัดสรร ซึ่งกรณี นพ.วินัยอาจมาจากเกลือเป็นหนอน คนรอบข้างนายกรัฐมนตรีถือโอกาสช่วยเพื่อน นพ.ณรงค์ โดยเอาคืนให้ นพ.วินัยถูกย้ายหรือไม่
"ผมเชื่อว่านายกฯ ท่านหวังดี อยากให้ประสิทธิภาพการทำงานแต่ละส่วนดีขึ้น แต่จากเหตุการณ์แบบนี้หัวหน้า คสช. ต้องเร่งทบทวน และพิจารณาว่าแท้จริง นพ.วินัย เข้าข่ายต้องถูกย้ายด้วยมาตรา 44 หรือไม่อย่างไร และจะเทียบกับกรณี นพ.ณรงค์ถูกย้ายไม่ได้ เพราะ นพ.ณรงค์ ทำผิดจริง สร้างความเสียหาย แตกแยก ไม่ให้รพ.ร่วมมือทำงานกับ สปสช. งานก็ไม่เดิน รมว.สธ.ในฐานะประธานบอร์ดสปสช. สั่งอย่างหนึ่ง ปลัดสธ.ไปสั่งอีกอย่าง งานจะเดินอย่างไร" นพ.วิชัย กล่าวและว่า ส่วนกรณี ป.ป.ช.มีคำสั่งตรวจสอบ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สธ. เรื่องแต่งตั้งกรรมการสรรหาและกรรมการคัดเลือกในบอร์ด สวรส.เป็นบุคคลที่เคยรับทุนวิจัย สมควรหยุดงานหรือไม่นั้นก็เอามาเทียบกับกรณีปลัด สธ.ไม่ได้เช่นกัน เพราะ ศ.นพ.ยังต้องมีการพิจารณาก่อนว่ามีมูลความผิดหรือไม่ แต่ปลัด สธ.ขัดนโยบายรัฐบาลแะ รมว.สธ.ชัดเจน สร้างความแตกแยก และปลุกปั่นไม่ให้รพ.ในสังกัดส่งข้อมูลเบิกจ่ายให้ สปสช. แม้ รมว.สธ.จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบตามข้อร้องเรียน รพ.ขาดสภาพคล่องเพราะการบริหารสปสช. ก็ไม่ยอมเข้าร่วม ไม่ให้ข้อมูล แบบนี้ผิดชัดเจน ทำให้นายกฯต้องสั่งย้าย ถือว่าถูกต้องแล้ว
ส่วนกระแสข่าวใน สธ.ขอให้นพ.ณรงค์ กลับมาทำงาน มองว่าหากมีบุคคลใดให้ นพ.ณรงค์ กลับมา ถือว่าทำบาปและผิดมหันต์ เพราะจะทำลายระบบสุขภาพ เนื่องจากไม่ทำตามที่ ศ.นพ.รัชตะ จะเดินหน้างาน ทำคนละอย่าง มีคำสั่งคนละแบบ ผู้ปฏิบัติไม่รู้จะทำอย่างไร แบบนี้ทำลายระบบหรือไม่ ยิ่งตอนนี้ต้องคุมโรคเมอร์ส หากมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาคงระบาดไปทั่ว เพราะบุคลากรไม่รู้จะฟังใคร.