ASTVผู้จัดการรายวัน -“คมนาคม”เคาะโอนที่ดินมักกะสันให้คลัง ล้างหนี้ร.ฟ.ท. ตีมูลค่า 5-6 หมื่นล้านบาท โยนคลังเลือกมูลค่าจาก 3 กลุ่มศึกษา เร่งชง คนร.อนุมัติก่อนเดินหน้าพัฒนาเฟสแรก 140 ไร่ ส่วนเฟส 2 รอย้ายศูนย์ซ่อมบ้านพักออกก่อนคาดใช้เวลา 4 ปี
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมพัฒนาพื้นที่มักกะสัน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ว่า ได้มีการนำเสนอการประเมินวงเงินการพัฒนาที่ดินมักกะสัน จำนวน 497 ไร่ ซึ่งมีข้อมูล 3 กลุ่ม คือ 1. ที่ปรึกษาของ ร.ฟ.ท. สรุปว่าที่ดินที่ใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้เต็มพื้นที่ ประมาณ 6 ล้านตารางเมตร ระยะเวลา 30ปี +7 ปี มีมูลค่าประมาณ 61,000 ล้านบาท 2. ที่ปรึกษาของกระทรวงการคลัง กรณีที่ใช้พื้นที่เต็ม 497 ไร่ ระยะเวลา 30ปี +4 ปี มีมูลค่าประมาณ 56,000 ล้านบาท และ 3. กรณีที่เป็นการซื้อกรรมสิทธิ์และโอน จากร.ฟ.ท. ไปทันที จะมีมูลค่าประมาณ 52,000 ล้านบาท หากเป็นการเช่าที่ดินระยะเวลา 30 ปี มูลค่า 50,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ ที่ปรึกษากลับไปปรับข้อมูลใหม่อีกครั้ง เนื่องจากข้อมูลของ ร.ฟ.ท.และกระทรวงการคลังยังมีฐานข้อมูลในเรื่องจำนวนปีที่แตกต่างกัน โดยทางปลัดกระทรวงการคลังจะประชุมในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ โดยจะเร่งนำเสนอข้อสรุปนี้ต่อรมว.กระทรวงการคลัง พิจารณาก่อน ซึ่งกระทรวงการคลังจะสรุปมติว่าจะใช้มูลค่าการประเมินที่ดินมักกะสันที่จำนวนเท่าไร จากนั้นจะเสนอคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ(คนร.) หรือซูเปอร์บอร์ด เพื่อขอความเห็นชอบ ขั้นตอนต่อไปคือตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการในเรื่องส่งมอบพื้นที่
การโอนเงินเพื่อย้ายศูนย์ซ่อมมักกะสันและบ้านพักรถไฟออกจากพื้นที่ต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 4 ปี
“วันนี้ เป็นการติดตามข้อมูล ซึ่งทางฝ่ายเศรษฐกิจ คสช.ขอรับทราบผลการประเมินราคาที่ดิน 497 ไร่ ในกลางเดือนมิ.ย. ตอนนี้เท่ากับหมดหน้าที่ของคณะทำงานของกระทรวงคมนาคมแล้ว เพราะได้สื่อสารถึงเจตนาในการโอนที่ดินมักกะสันให้คลังเรียบร้อยแล้ว”พล.อ.อ.ประจินกล่าว
สำหรับการพัฒนาได้วางผังพื้นที่มักกะสันนั้นได้ตกลงได้หลักการตรงกันแล้ว โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.พิพิธภัณฑ์รถไฟ พื้นที่ 30 ไร่ 2.พื้นที่สวน ประกอบด้วยบึงมักกะสัน เลนจักรยาน และพื้นที่สีเขียว พื้นที่ 150 ไร่ และ 3.พื้นที่เชิงพาณิชย์เฟสแรก 140 ไร่ รวมกับลานจอดรถ และถนนเข้าออก ส่วนอีก 177 ไร่จะพัฒนาในเฟส 2 ระยะเวลาถัดไปเมื่อมีการย้ายศูนย์ซ่อมมักกะสัน บ้านพักและโรงพยาบาลของ ร.ฟ.ท.ออกจากพื้นที่
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมพัฒนาพื้นที่มักกะสัน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ว่า ได้มีการนำเสนอการประเมินวงเงินการพัฒนาที่ดินมักกะสัน จำนวน 497 ไร่ ซึ่งมีข้อมูล 3 กลุ่ม คือ 1. ที่ปรึกษาของ ร.ฟ.ท. สรุปว่าที่ดินที่ใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้เต็มพื้นที่ ประมาณ 6 ล้านตารางเมตร ระยะเวลา 30ปี +7 ปี มีมูลค่าประมาณ 61,000 ล้านบาท 2. ที่ปรึกษาของกระทรวงการคลัง กรณีที่ใช้พื้นที่เต็ม 497 ไร่ ระยะเวลา 30ปี +4 ปี มีมูลค่าประมาณ 56,000 ล้านบาท และ 3. กรณีที่เป็นการซื้อกรรมสิทธิ์และโอน จากร.ฟ.ท. ไปทันที จะมีมูลค่าประมาณ 52,000 ล้านบาท หากเป็นการเช่าที่ดินระยะเวลา 30 ปี มูลค่า 50,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ ที่ปรึกษากลับไปปรับข้อมูลใหม่อีกครั้ง เนื่องจากข้อมูลของ ร.ฟ.ท.และกระทรวงการคลังยังมีฐานข้อมูลในเรื่องจำนวนปีที่แตกต่างกัน โดยทางปลัดกระทรวงการคลังจะประชุมในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ โดยจะเร่งนำเสนอข้อสรุปนี้ต่อรมว.กระทรวงการคลัง พิจารณาก่อน ซึ่งกระทรวงการคลังจะสรุปมติว่าจะใช้มูลค่าการประเมินที่ดินมักกะสันที่จำนวนเท่าไร จากนั้นจะเสนอคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ(คนร.) หรือซูเปอร์บอร์ด เพื่อขอความเห็นชอบ ขั้นตอนต่อไปคือตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการในเรื่องส่งมอบพื้นที่
การโอนเงินเพื่อย้ายศูนย์ซ่อมมักกะสันและบ้านพักรถไฟออกจากพื้นที่ต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 4 ปี
“วันนี้ เป็นการติดตามข้อมูล ซึ่งทางฝ่ายเศรษฐกิจ คสช.ขอรับทราบผลการประเมินราคาที่ดิน 497 ไร่ ในกลางเดือนมิ.ย. ตอนนี้เท่ากับหมดหน้าที่ของคณะทำงานของกระทรวงคมนาคมแล้ว เพราะได้สื่อสารถึงเจตนาในการโอนที่ดินมักกะสันให้คลังเรียบร้อยแล้ว”พล.อ.อ.ประจินกล่าว
สำหรับการพัฒนาได้วางผังพื้นที่มักกะสันนั้นได้ตกลงได้หลักการตรงกันแล้ว โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.พิพิธภัณฑ์รถไฟ พื้นที่ 30 ไร่ 2.พื้นที่สวน ประกอบด้วยบึงมักกะสัน เลนจักรยาน และพื้นที่สีเขียว พื้นที่ 150 ไร่ และ 3.พื้นที่เชิงพาณิชย์เฟสแรก 140 ไร่ รวมกับลานจอดรถ และถนนเข้าออก ส่วนอีก 177 ไร่จะพัฒนาในเฟส 2 ระยะเวลาถัดไปเมื่อมีการย้ายศูนย์ซ่อมมักกะสัน บ้านพักและโรงพยาบาลของ ร.ฟ.ท.ออกจากพื้นที่