นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการตอบรับอาคารแสดงประเทศไทยหรือ “ไทยแลนด์ พาวินเลี่ยน” ที่งาน “เอ็กซ์โป มิลาโน 2015” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 พ.ค. –31 ต.ค. 58 ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ว่า กระแสตอบรับอาคารแสดงประเทศไทย ดีเกินคาด มีผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมากทุกวัน หลังจากจัดงานไปเพียงเดือนเศษ มีผู้เข้าชมแล้วรวมกว่า 3.2 แสนคน และคาดว่า ตลอดการจัดงาน 6 เดือน จะมีผู้เข้าชมอาคารแสดงประเทศไทยไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน หรือประมาณ 10 % ของยอดคาดการณ์ผู้เข้าชมงานทั้งหมด ที่มีประมาณ 20 ล้านคน สำหรับอาคารแสดงสินค้าไทยจัดภายใต้แนวคิด “การหล่อเลี้ยงโลกอย่างยั่งยืน”ตามแนวคิดหลักของการจัดงานในครั้งนี้ คือ “อาหารหล่อเลี้ยงโลก พลังงานหล่อเลี้ยงชีวิต”โดยเป็นการแสดงถึงเกียรติภูมิของประเทศไทย ในฐานะครัวของโลก ที่พร้อมแสดงบทบาทให้ประชาคมโลกได้ตระหนักถึงการเป็นแหล่งผลิตอาหารที่ปลอดภัยในทุกระบวนการ มีสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ มีสินค้าอาหารแปรรูปที่ได้มาตรฐานและทั่วโลกให้การยอมรับ
“ทั้งนี้ อาคารแสดงประเทศไทย มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นสะดุดตา ด้วยการนำอัตลักษณ์ และภูมิปัญญาไทย ที่เป็นเมืองแห่งเกษตรกรรม มาออกแบบอาคารเป็นรูป “งอบ”นอกจากนี้ ยังมีการนำ “นาค”สัญลักษณ์ของน้ำ และตัวแทนความอุดมสมบูรณ์ มาเป็นส่วนหนึ่งของอาคารแสดง ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อในประเทศอิตาลี รวมถึงสื่อระดับโลกอย่าง CNN” รมว.เกษตรฯ ระบุ
นายปิติพงษ์ กล่าวต่อว่า ทุกๆ ครั้งที่ประเทศไทยได้มีโอกาสได้เข้าร่วมงาน ระดับโลก ถือเป็นสิ่งที่มีค่า และมีประโยชน์มาก เพราะนั่นหมายถึงประเทศไทย ได้สร้างการรับรู้และแสดงศักยภาพให้ประชาคมโลกได้เห็นถึงขีดความสามารถ ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิตสินค้าทางการเกษตร การค้าขาย การส่งออก และการท่องเที่ยว รวมถึงสามารถสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุน หรือร่วมลงทุน และเป็นโอกาสในการขยายตลาดสินค้าอุปโภค บริโภค ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานต่อไปในอนาคตได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของการนำสินค้าอาหารไทยไปจำหน่ายภายในงานนั้น ก็ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี โดย 5 อันดับสินค้าขายดีได้แก่ 1. ข้าวแกงมัสมั่น 2. ข้าวแกงแดง 3. ผัดไทย 4. ไอศกรีมมะพร้าว 5. ข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งในแต่ละวันนั้นจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่มพร้อมทานนานาชนิด ในกลุ่ม Ready to eat อาทิ ข้าวหอมมะลิ และกับข้าวพร้อมทานชนิดต่างๆ และกลุ่ม Ready to go ได้แก่ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มสมุนไพร ขนมหวานไทย ไอศกรีมมะพร้าว รวมทั้งกลุ่ม Ready to cook ได้แก่ ชุดผัดไทยพร้อมปรุง ซอสปรุงรสต่างๆ อาทิ กะทิ เครื่องแกง ซอสงา ก็ได้รับความนิยมอย่างสูงเช่นกัน
“ทั้งนี้ อาคารแสดงประเทศไทย มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นสะดุดตา ด้วยการนำอัตลักษณ์ และภูมิปัญญาไทย ที่เป็นเมืองแห่งเกษตรกรรม มาออกแบบอาคารเป็นรูป “งอบ”นอกจากนี้ ยังมีการนำ “นาค”สัญลักษณ์ของน้ำ และตัวแทนความอุดมสมบูรณ์ มาเป็นส่วนหนึ่งของอาคารแสดง ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อในประเทศอิตาลี รวมถึงสื่อระดับโลกอย่าง CNN” รมว.เกษตรฯ ระบุ
นายปิติพงษ์ กล่าวต่อว่า ทุกๆ ครั้งที่ประเทศไทยได้มีโอกาสได้เข้าร่วมงาน ระดับโลก ถือเป็นสิ่งที่มีค่า และมีประโยชน์มาก เพราะนั่นหมายถึงประเทศไทย ได้สร้างการรับรู้และแสดงศักยภาพให้ประชาคมโลกได้เห็นถึงขีดความสามารถ ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิตสินค้าทางการเกษตร การค้าขาย การส่งออก และการท่องเที่ยว รวมถึงสามารถสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุน หรือร่วมลงทุน และเป็นโอกาสในการขยายตลาดสินค้าอุปโภค บริโภค ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานต่อไปในอนาคตได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของการนำสินค้าอาหารไทยไปจำหน่ายภายในงานนั้น ก็ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี โดย 5 อันดับสินค้าขายดีได้แก่ 1. ข้าวแกงมัสมั่น 2. ข้าวแกงแดง 3. ผัดไทย 4. ไอศกรีมมะพร้าว 5. ข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งในแต่ละวันนั้นจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่มพร้อมทานนานาชนิด ในกลุ่ม Ready to eat อาทิ ข้าวหอมมะลิ และกับข้าวพร้อมทานชนิดต่างๆ และกลุ่ม Ready to go ได้แก่ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มสมุนไพร ขนมหวานไทย ไอศกรีมมะพร้าว รวมทั้งกลุ่ม Ready to cook ได้แก่ ชุดผัดไทยพร้อมปรุง ซอสปรุงรสต่างๆ อาทิ กะทิ เครื่องแกง ซอสงา ก็ได้รับความนิยมอย่างสูงเช่นกัน
