xs
xsm
sm
md
lg

เตือนพ่อ-แม่นศ. “ลองของ”คสช. ใช้ไม้แข็งจัดการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผลการประชุมร่วม คสช. และ ครม. ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เป็นประธานว่า หัวหน้า คสช.ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่ทุ่มเททำงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้คสช. สามารถดูแลสถานการณ์ภายในประเทศให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมย้ำว่า คสช.ยังคงต้องดูแล และบริหารจัดการในหลายด้าน เพื่อให้ประเทศเดินหน้า ประชาชนมีความปลอดภัย ส่วนงานด้านการบริหารราชการของรัฐบาล ยังคงต้องใช้กลไกของคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคสช. และคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ร่วมกันผลักดันนโยบาย และ นำมติครม.ไปสู่การปฏิบัติที่เกิดประสิทธิภาพ ภายใต้การกำกับดูแล และสนับสนุนของกระทรวง และส่วนราชการ ที่รับผิดชอบโดยตรงในเรื่องนั้นๆ
ทั้งนี้ หัวหน้าคสช. มีความเป็นห่วงความเดือดร้อนของประชาชน และต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจชุมชน ได้มอบให้ คสช. ร่วมกับส่วนราชการที่รับผิดชอบ พิจารณาจัดให้มีการขายข้าวราคาถูกให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยให้กำหนดมาตรการ ช่องทางที่เหมาะสม ผ่านเครือข่ายเศรษฐกิจชุมชน สหกรณ์ หรืออาจเป็นค่ายทหาร ให้ผู้มีรายได้น้อยได้รับประโยชน์โดยตรง และสามารถซื้อข้าวในราคาถูกได้อย่างทั่วถึง ครอบคลุมทุกจังหวัด เป็นการลดรายจ่ายของผู้มีรายได้น้อย และให้คนไทยมีโอกาสและทางเลือกได้บริโภคข้าวในราคาถูก
นอกจากนี้ ให้ คสช. เข้าไปช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกในพื้นที่ที่เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมขัง มีปัญหาการสัญจร ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยให้คสช.และเหล่าทัพ กำหนดแผนการช่วยเหลือล่วงหน้า ในพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดภัยพิบัติต่างๆโดยเฉพาะในพื้นที่เขตเมือง ที่ประสบภาวะวิกฤตการสัญจรในช่วงฝนตกหนัก
และเนื่องจากในขณะนี้ ปริมาณน้ำสะสมในเขื่อน และอ่างเก็บน้ำสำคัญทั่วประเทศ มีปริมาณต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่ง หัวหน้าคสช. มีความเป็นห่วงว่า อาจส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำในภาคครัวเรือน เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม จึงได้มอบหมายให้ คสช. ใช้กลไกที่มีอยู่ เข้าช่วยสร้างการรับรู้ และขอความร่วมมือจากประชาชน ในการใช้น้ำอย่างประหยัด และรู้คุณค่า เพื่อไม่ให้เกิดวิกฤตการขาดแคลนน้ำในอนาคต
ส่วนกรณีนักศึกษาบางกลุ่มยังพยายามแสดงออกในลักษณะที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และพยายามไม่เข้าใจต่อสถานการณ์ของบ้านเมืองในปัจจุบัน โดยที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้พยายามขอความร่วมมือหรือใช้วิธีการว่ากล่าวตักเตือนด้วยความปรารถนาดี พยายามใช้ทุกวิถีทาง ที่จะประนีประนอม หรืออะลุ่มอล่วยให้มาโดยตลอด เพราะมองว่า กลุ่มนักศึกษานั้นๆ ยังคงเป็นบุคคลที่อยู่ในช่วงของวัยการศึกษา ซึ่งควรต้องมีอนาคตที่สดใส เพื่อเติบโตต่อไปในวันข้างหน้า แต่ถ้ากลุ่มนักศึกษานั้นๆ พยายามที่จะปฏิเสธความปรารถนาดีดังกล่าว จำเป็นจริงๆ ที่จะต้องมีมาตราการดำเนินการเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความเหมาะสมมากยิ่งขึ้นตามลำดับ จึงอยากฝากไปถึงท่านผู้ปกครอง และบุคคลรอบข้างได้ช่วยกันสร้างความเข้าใจให้กับบุตรหลานให้ดี เพราะในที่สุดแล้ว เจ้าหน้าที่คงจำเป็นต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย เข้าดำเนินการอย่างจริงจัง ซึ่งจะไปมีผลกระทบต่ออนาคตของนักศึกษาอย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น