ASTV ผู้จัดการรายวัน-"สมยศ" ฉุนถูกถามจี้ ดึงเรื่องถอดยศ "ทักษิณ" แจงยังไม่ได้รับมติคณะกรรมการรอบ 2 ยันไม่ดึง แต่เป็นคนขี้กลัว และต้องรอบคอบ วอนอย่ากดดัน ไม่หวั่นเจอเช็คบิลหลังเกษียณ พร้อมมอบฝ่ายกฎหมายเตรียมแนวทางขอคืนเครื่องราชฯ หลังขั้นตอนถอดยศจบ “สุรพงษ์” ไม่หวั่น ป.ป.ช.ตั้งแท่นเอาผิดปมคืนพาสปอร์ต อ้างศาลไม่เคยสั่งห้าม
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดิน ถ.รัชดาภิเษก ว่า ตนเองยังไม่ได้รับมติถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ จากคณะกรรมการพิจารณาถอดยศที่มี พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นประธาน หลังจากคณะกรรมการฯ ได้สรุปส่งให้แล้วครั้งหนึ่ง แต่มีความผิดพลาดเรื่องการเซ็นรับรองมติของคณะกรรมการแต่ละท่าน จึงตีกลับไปให้ดำเนินการให้ถูกต้อง พร้อมกับได้ทำหนังสือเร่งรัดให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และเสนอมาให้ตนพิจารณาโดยเร็ว
ทั้งนี้ หลังจากได้รับมติจากคณะกรรมการฯ จะให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาตรวจความถูกต้องอีกครั้ง เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยยืนยันว่า จะไม่มีการดึงหรือรั้งการพิจารณาถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างแน่นอน
"ผมเป็นคนขี้กลัว เกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด จึงต้องทำอย่างรอบคอบ เรื่องเวลาไม่ใช่เงื่อนไขในการทำงานของผม ความละเอียดรอบคอบ ความไม่ผิดพลาดต่างหาก คือ หลักการและเงื่อนไขในการทำงาน ยืนยันว่าไม่กลัวว่าหากพิจารณาถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณแล้วจะส่งผลกระทบหลังเกษียณอายุราชการ เพราะคนอย่างผมตัดสินใจทำอะไรแล้วไม่กลัว แต่ขออย่างเดียวให้สิ่งที่ทำอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องชัดเจน เป็นไปตามกฎหมาย ที่สำคัญที่สุดอย่ามีใครมาบังคับขู่เข็ญผมทุกรูปแบบ ยิ่งบังคับผมยิ่งดื้อ อย่ามาใช้เล่ห์เหลี่ยม อุบาย สำหรับผมไม่มีความหมายหรอก"ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สำหรับการพิจารณาขอคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ต้องเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งจะดำเนินการเมื่อผ่านขั้นตอนการถอดยศแล้ว เป็นเรื่องที่ตามมาภายหลัง แต่ในขณะนี้ ตนได้ให้ฝ่ายกฎหมายศึกษาแนวทางไว้แล้ว หาก พ.ต.ท.ทักษิณถูกถอดยศ ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะดำเนินการในส่วนของเครื่องราชฯ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้รับในขณะที่รับราชการตำรวจเท่านั้น ส่วนเครื่องราชฯ ที่ได้ก่อนหรือหลังจากนั้น ก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ตร.ยืนยันได้หรือไม่ว่าในการดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่มีการดึงเรื่องไว้ พล.ต.อ.สมยศตอบอย่างมีอารมณ์ว่า "ผมเป็นคนทำหนังสือเร่งรัดเขา ไม่ใช่เขามาเร่งรัดผม ถ้าอยากให้ผมทำเร็ว ไปเร่งรัดเขามา"
ขณะที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า กรณีการคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะมีความผิดทั้งคณะรัฐมนตรีในสมัยของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า ถือเป็นความพยายามเชื่อมโยงกับกรณีการจ่ายเงินเยียวยาผู้ชุมนุมทางการเมือง ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน
"ที่บอกว่าจะตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินอะไรต่างๆ นั้น ก็ไม่รู้ว่าข่าวมาอย่างไร ผมไม่รู้เรื่อง แต่การที่บุคคลที่แทนตัวเองว่า เป็นแหล่งข่าวไประบุอย่างนั้น น่าจะไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ ยืนยันว่า คนที่พยายามโยงทั้ง 3 เรื่องนี้มาพูด น่าจะไม่ถูกต้อง เพราะผมไม่เคยพูดเรื่องเหล่านี้เลย"
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีคดีคืนพาสปอร์ต หนักใจหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ติดตามมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะมีคนไปฟ้องตั้งแต่ตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พาสปอร์ตคืนไปใหม่ๆ ซึ่งเรื่องนี้เป็นอำนาจโดยตรงของปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ระบุไว้ในระเบียบชัดเจน รัฐมนตรีไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายเลย แม้แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกฯ ก็ไม่มีสิทธิ์ ดังนั้น ตนจึงไม่ได้กังวลเรื่องพวกนี้เลย เอาให้ถูกต้องก็แล้วกัน
"เรื่องนี้ มีคนพยายามกล่าวหามาตลอดว่า ท่านทักษิณเป็นนักโทษหนีคดี จะให้พาสปอร์ตได้อย่างไร เรื่องนี้ศาลต้องออกหมายสั่งมาที่กระทรวงฯ ว่า ห้าม แต่เท่าที่ผมทราบจากการรายงานนั้น ไม่มีคำสั่งเหล่านี้มาที่กระทรวงฯ เลย"นายสุรพงษ์กล่าว
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดิน ถ.รัชดาภิเษก ว่า ตนเองยังไม่ได้รับมติถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ จากคณะกรรมการพิจารณาถอดยศที่มี พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นประธาน หลังจากคณะกรรมการฯ ได้สรุปส่งให้แล้วครั้งหนึ่ง แต่มีความผิดพลาดเรื่องการเซ็นรับรองมติของคณะกรรมการแต่ละท่าน จึงตีกลับไปให้ดำเนินการให้ถูกต้อง พร้อมกับได้ทำหนังสือเร่งรัดให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และเสนอมาให้ตนพิจารณาโดยเร็ว
ทั้งนี้ หลังจากได้รับมติจากคณะกรรมการฯ จะให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาตรวจความถูกต้องอีกครั้ง เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยยืนยันว่า จะไม่มีการดึงหรือรั้งการพิจารณาถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างแน่นอน
"ผมเป็นคนขี้กลัว เกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด จึงต้องทำอย่างรอบคอบ เรื่องเวลาไม่ใช่เงื่อนไขในการทำงานของผม ความละเอียดรอบคอบ ความไม่ผิดพลาดต่างหาก คือ หลักการและเงื่อนไขในการทำงาน ยืนยันว่าไม่กลัวว่าหากพิจารณาถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณแล้วจะส่งผลกระทบหลังเกษียณอายุราชการ เพราะคนอย่างผมตัดสินใจทำอะไรแล้วไม่กลัว แต่ขออย่างเดียวให้สิ่งที่ทำอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องชัดเจน เป็นไปตามกฎหมาย ที่สำคัญที่สุดอย่ามีใครมาบังคับขู่เข็ญผมทุกรูปแบบ ยิ่งบังคับผมยิ่งดื้อ อย่ามาใช้เล่ห์เหลี่ยม อุบาย สำหรับผมไม่มีความหมายหรอก"ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สำหรับการพิจารณาขอคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ต้องเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งจะดำเนินการเมื่อผ่านขั้นตอนการถอดยศแล้ว เป็นเรื่องที่ตามมาภายหลัง แต่ในขณะนี้ ตนได้ให้ฝ่ายกฎหมายศึกษาแนวทางไว้แล้ว หาก พ.ต.ท.ทักษิณถูกถอดยศ ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะดำเนินการในส่วนของเครื่องราชฯ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้รับในขณะที่รับราชการตำรวจเท่านั้น ส่วนเครื่องราชฯ ที่ได้ก่อนหรือหลังจากนั้น ก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ตร.ยืนยันได้หรือไม่ว่าในการดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่มีการดึงเรื่องไว้ พล.ต.อ.สมยศตอบอย่างมีอารมณ์ว่า "ผมเป็นคนทำหนังสือเร่งรัดเขา ไม่ใช่เขามาเร่งรัดผม ถ้าอยากให้ผมทำเร็ว ไปเร่งรัดเขามา"
ขณะที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า กรณีการคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะมีความผิดทั้งคณะรัฐมนตรีในสมัยของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า ถือเป็นความพยายามเชื่อมโยงกับกรณีการจ่ายเงินเยียวยาผู้ชุมนุมทางการเมือง ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน
"ที่บอกว่าจะตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินอะไรต่างๆ นั้น ก็ไม่รู้ว่าข่าวมาอย่างไร ผมไม่รู้เรื่อง แต่การที่บุคคลที่แทนตัวเองว่า เป็นแหล่งข่าวไประบุอย่างนั้น น่าจะไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ ยืนยันว่า คนที่พยายามโยงทั้ง 3 เรื่องนี้มาพูด น่าจะไม่ถูกต้อง เพราะผมไม่เคยพูดเรื่องเหล่านี้เลย"
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีคดีคืนพาสปอร์ต หนักใจหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ติดตามมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะมีคนไปฟ้องตั้งแต่ตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พาสปอร์ตคืนไปใหม่ๆ ซึ่งเรื่องนี้เป็นอำนาจโดยตรงของปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ระบุไว้ในระเบียบชัดเจน รัฐมนตรีไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายเลย แม้แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกฯ ก็ไม่มีสิทธิ์ ดังนั้น ตนจึงไม่ได้กังวลเรื่องพวกนี้เลย เอาให้ถูกต้องก็แล้วกัน
"เรื่องนี้ มีคนพยายามกล่าวหามาตลอดว่า ท่านทักษิณเป็นนักโทษหนีคดี จะให้พาสปอร์ตได้อย่างไร เรื่องนี้ศาลต้องออกหมายสั่งมาที่กระทรวงฯ ว่า ห้าม แต่เท่าที่ผมทราบจากการรายงานนั้น ไม่มีคำสั่งเหล่านี้มาที่กระทรวงฯ เลย"นายสุรพงษ์กล่าว