ทันทีที่กระทรวงการต่างประเทศ ถอนหนังสือเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็ประกาศทันทีว่า ถ้ากลับมามีอำนาจอีกครั้ง จะคืนหนังสือเดินทางให้พ.ต.ท.ทักษิณใหม่
ใครก็รู้ว่า นายสุรพงษ์ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเพราะอะไร และใครๆ ก็รู้ว่า การนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศของนายสุรพงษ์มีภารกิจเดียวคือ ดูแลอำนวยความสะดวกให้พ.ต.ท.ทักษิณในต่างประเทศ
การประกาศคืนหนังสือเดินทางให้พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีอะไรมากไปกว่า นายสุรพงษ์คงหวังได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอีกครั้ง จึงเชลียร์นายล่วงหน้า
แต่คำประกาศของนายสุรพงษ์เป็นการผูกมัดตัวเอง เพราะสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังพิจารณาความผิด กรณีการออกหนังสือเดินทางให้พ.ต.ท.ทักษิณ สมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ
การพิจารณาความผิดของนายสุรพงษ์เป็นที่สนใจของทุกฝ่าย เพราะเป็นหัวขบวนปลุกระดมมวลชนคนเสื้อแดง มีบทบาทสำคัญสร้างความแตกแยกในสังคม
และแสดงตัวเป็นขี้ข้ารับใช้พ.ต.ท.ทักษิณอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ไม่อายพฤติกรรมต่อสาธารณชน จนพ.ต.ท.ทักษิณตบรางวัลในความเชื่อง
การยุแยงให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน การปลุกระดมมวลชนคนเสื้อแดงจนนำไปสู่เหตุการณ์ความวุ่นวาย มีคนบาดเจ็บล้มตาย เกิดการเผาบ้านเผาเมือง นายสุรพงษ์ไม่เคยต้องรับผิดชอบใดๆ ทั้งที่เป็นนักการเมืองตัวอันตรายต่อประเทศอีกคนหนึ่ง
ปัจจุบันนายสุรพงษ์ก็ยังปากเก่ง ออกมาแหกปากทำให้สังคมเกิดความแตกแยก โดยไม่สำนึกถึงพฤติกรรมการจุดชนวนให้ประเทศลุกเป็นไฟแม้แต่น้อย
การที่ ป.ป.ช.จะพิจารณาความผิด ในการคืนหนังสือเดินทางให้พ.ต.ท.ทักษิณจึงเป็นเรื่องที่ถูกอกถูกใจของประชาชน เพราะนายสุรพงษ์ทำร้ายจิตใจคนในสังคมมามากมาย
สมควรที่จะได้รับกรรม สมควรที่จะชดใช้เวรกันบ้าง โดยคนที่ยอมก้มหัวเป็นขี้ข้ารับใช้พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้ใหญ่ได้โตกันอย่างเดียว คงเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรม แต่ถึงเวลาต้องรับโทษทัณฑ์ให้สาสม
การประณามเหล่าขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีความหมายใด เนื่องจากคนที่ยอมขายศักดิ์ความเป็นมนุษย์ เต็มใจเป็นขี้ข้า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่เหลือยางอายใดๆ แล้ว
นายสุรพงษ์คงฝันไป ถ้าคิดจะได้กลับมาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศอีก เพราะขนาดนายใหญ่ ขนาดพ.ต.ท.ทักษิณ ยังต้องเตรียมตัวหนีหัวซุกหัวซุน เพราะกระบวนการไล่ล่าจากรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังเริ่มต้น
ข้อหาการคืนพาสปอร์ตให้พ.ต.ท.ทักษิณ อาจทำให้ต้องเข้าคุกได้ จนนายสุรพงษ์ที่ก่อนหน้าทำเป็นปากเก่ง ตอนนี้เริ่มปากสั่นแล้ว
“สุรพงษ์” ถือเป็นขี้ข้าตัวเอ้ของพ.ต.ท.ทักษิณ มีส่วนสำคัญที่ยุยงให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน แต่ยังไม่มีคดีติดตัวเท่าไหร่ และยังทำตัวเป็นกระบอกเสียงปกป้องพ.ต.ท.ทักษิณอย่างคงเส้นคงวา
แต่คดีคืนพาสปอร์ตคงจะทำให้นายสุรพงษ์หงอลงบ้าง เพราะงานนี้มีโอกาสต้องเข้าไปนอนในคุก
ตอนที่เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ตอนรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ นายสุรพงษ์ทำตัวใหญ่โต และคิดว่า พรรคเพื่อไทยคงจะใหญ่ค้ำฟ้า ระบอบทักษิณคงจะไม่มีใครโค่นล้มทำลายได้ จึงใช้อำนาจโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
เมื่อพรรคเพื่อไทยไม่ได้กุมอำนาจรัฐ เมื่อไม่มีระบอบทักษิณคุ้มกะลาหัว คนที่แสดงความเป็นขี้ข้าทั้งหลาย ไม่ควรปล่อยให้ลอยนวล โดยเฉพาะขี้ข้าอย่าง “สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล”
ใครก็รู้ว่า นายสุรพงษ์ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเพราะอะไร และใครๆ ก็รู้ว่า การนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศของนายสุรพงษ์มีภารกิจเดียวคือ ดูแลอำนวยความสะดวกให้พ.ต.ท.ทักษิณในต่างประเทศ
การประกาศคืนหนังสือเดินทางให้พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีอะไรมากไปกว่า นายสุรพงษ์คงหวังได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอีกครั้ง จึงเชลียร์นายล่วงหน้า
แต่คำประกาศของนายสุรพงษ์เป็นการผูกมัดตัวเอง เพราะสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังพิจารณาความผิด กรณีการออกหนังสือเดินทางให้พ.ต.ท.ทักษิณ สมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ
การพิจารณาความผิดของนายสุรพงษ์เป็นที่สนใจของทุกฝ่าย เพราะเป็นหัวขบวนปลุกระดมมวลชนคนเสื้อแดง มีบทบาทสำคัญสร้างความแตกแยกในสังคม
และแสดงตัวเป็นขี้ข้ารับใช้พ.ต.ท.ทักษิณอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ไม่อายพฤติกรรมต่อสาธารณชน จนพ.ต.ท.ทักษิณตบรางวัลในความเชื่อง
การยุแยงให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน การปลุกระดมมวลชนคนเสื้อแดงจนนำไปสู่เหตุการณ์ความวุ่นวาย มีคนบาดเจ็บล้มตาย เกิดการเผาบ้านเผาเมือง นายสุรพงษ์ไม่เคยต้องรับผิดชอบใดๆ ทั้งที่เป็นนักการเมืองตัวอันตรายต่อประเทศอีกคนหนึ่ง
ปัจจุบันนายสุรพงษ์ก็ยังปากเก่ง ออกมาแหกปากทำให้สังคมเกิดความแตกแยก โดยไม่สำนึกถึงพฤติกรรมการจุดชนวนให้ประเทศลุกเป็นไฟแม้แต่น้อย
การที่ ป.ป.ช.จะพิจารณาความผิด ในการคืนหนังสือเดินทางให้พ.ต.ท.ทักษิณจึงเป็นเรื่องที่ถูกอกถูกใจของประชาชน เพราะนายสุรพงษ์ทำร้ายจิตใจคนในสังคมมามากมาย
สมควรที่จะได้รับกรรม สมควรที่จะชดใช้เวรกันบ้าง โดยคนที่ยอมก้มหัวเป็นขี้ข้ารับใช้พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้ใหญ่ได้โตกันอย่างเดียว คงเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรม แต่ถึงเวลาต้องรับโทษทัณฑ์ให้สาสม
การประณามเหล่าขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีความหมายใด เนื่องจากคนที่ยอมขายศักดิ์ความเป็นมนุษย์ เต็มใจเป็นขี้ข้า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่เหลือยางอายใดๆ แล้ว
นายสุรพงษ์คงฝันไป ถ้าคิดจะได้กลับมาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศอีก เพราะขนาดนายใหญ่ ขนาดพ.ต.ท.ทักษิณ ยังต้องเตรียมตัวหนีหัวซุกหัวซุน เพราะกระบวนการไล่ล่าจากรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังเริ่มต้น
ข้อหาการคืนพาสปอร์ตให้พ.ต.ท.ทักษิณ อาจทำให้ต้องเข้าคุกได้ จนนายสุรพงษ์ที่ก่อนหน้าทำเป็นปากเก่ง ตอนนี้เริ่มปากสั่นแล้ว
“สุรพงษ์” ถือเป็นขี้ข้าตัวเอ้ของพ.ต.ท.ทักษิณ มีส่วนสำคัญที่ยุยงให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน แต่ยังไม่มีคดีติดตัวเท่าไหร่ และยังทำตัวเป็นกระบอกเสียงปกป้องพ.ต.ท.ทักษิณอย่างคงเส้นคงวา
แต่คดีคืนพาสปอร์ตคงจะทำให้นายสุรพงษ์หงอลงบ้าง เพราะงานนี้มีโอกาสต้องเข้าไปนอนในคุก
ตอนที่เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ตอนรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ นายสุรพงษ์ทำตัวใหญ่โต และคิดว่า พรรคเพื่อไทยคงจะใหญ่ค้ำฟ้า ระบอบทักษิณคงจะไม่มีใครโค่นล้มทำลายได้ จึงใช้อำนาจโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
เมื่อพรรคเพื่อไทยไม่ได้กุมอำนาจรัฐ เมื่อไม่มีระบอบทักษิณคุ้มกะลาหัว คนที่แสดงความเป็นขี้ข้าทั้งหลาย ไม่ควรปล่อยให้ลอยนวล โดยเฉพาะขี้ข้าอย่าง “สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล”