xs
xsm
sm
md
lg

หมายจับ"พล.ท.มนัส" ข้อหาร่วมค้ามนุษย์โรฮีนจา ผบ.ทบ.สั่งพักราชการ-สอบวินัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ตำรวจภาค 9 ออกหมายจับ "พล.ท.มนัส คงแป้น" อดีตผู้บังคับการจังหวัดทหารบกชุมพร และอดีตผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อำเภอหาดใหญ่ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์โรฮีนจา หลังพบหลักฐานสลิปโอนเงินเข้าบัญชีจากผู้ต้องหารายสำคัญหรือโกหนุ่ย ขณะที่ ผบ.ทบ. สั่งพักราชการ "มนัส" พร้อมตั้งคณะคณะกรรมสอบด้านวินัย ชี้หากผิดจริง ไล่ออก

ความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ (1 มิ.ย.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า สภ.หาดใหญ่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้ประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนทั้งพนักงานสอบสวนฝ่ายตำรวจ และพนักงานอัยการ เพื่อติดตามความคืบหน้าการสอบสวนภาพรวมของคดีค้ามนุษย์ทั้งหมด ทั้งพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 จ.ระนอง สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช และพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 จ.สตูล และ จ.สงขลา ทั้งในส่วนของการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล วัตถุพยาน เพื่อให้สำนวนหนาแน่นมากที่สุด เนื่องจากขณะนี้ใกล้ถึงเวลาที่จะสรุปสำนวนการสอบสวนเสนอให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาราววันที่ 20 มิ.ย.นี้ สำหรับยอดผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับขณะนี้มีทั้งหมด 84 คน จับกุมได้แล้ว 51 คนเหลืออีก 33 คน ที่ยังหลบหนี

พล.ต.อ.เอก เปิดเผยว่า ขณะนี้ในส่วนของการสอบสวนนั้นมีความคืบหน้าไปมากและพยานหลักฐานต่างๆ เพียงพอที่จะเอาผิดต่อกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ ส่วนนายณัฐภัทร แสงทอง หรือโกมิ๊ก หนึ่งในผู้ต้องหาเครือข่ายค้ามนุษย์ใน จ.ระนอง ซึ่งถูกจับกุมที่ประเทศพม่าขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประสานขอนำตัวกลับมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในจำนวนผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคนล่าสุดนั้น คือ พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก อดีตผู้บังคับการจังหวัดทหารบกชุมพร และอดีตผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยถูกแจ้ง 3 ข้อหาคือสมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ โดยกระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์โดยกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันเรียกค่าไถ่

ทั้งนี้ จากการสอบสวนขยายผลเจ้าหน้าที่พบหลักฐานสำคัญที่เชื่อมโยงไปยัง พล.ท.มนัส คือ สลิปการโอนเงินของ นายสุวรรณ แสงทอง หรือโกหนุ่ย เครือข่ายค้ามนุษย์ใน จ.ระนองที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้แล้วพบว่า มีการโอนไปยังบัญชีของ พล.ท.มนัส โดยตรง และในวันนี้ยังตรงกับวันคล้ายวันเกิดของ พล.ท.มนัส คงแป้น ด้วย โดยเกิดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2499

***ผบ.ทบ.สั่งพักราชการ "มนัส"

เมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ ว่าได้มีการติดตามข้อมูลมาระยะหนึ่งแล้วโดยทางกองทัพบกได้ประสานความร่วมมือกับทางตำรวจ ซึ่งตนได้ให้นโยบายไว้แล้วว่า หากมีกำลังพลผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องผิดกฎหมาย จะดำเนินการโดยเด็ดขาด ใครผิดจะไม่ให้การสนับสนุน หรือช่วยเหลือใดๆ ดังนั้น เมื่อตำรวจมีข้อมูลความเชื่อมโยงก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายและดำเนินการโดยเด็ดขาด

พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า สำหรับเรื่องของการออกหมายจับ คงจะต้องดำเนินการตามระเบียบของกระทรวงกลาโหม เพราะมีขั้นตอนอยู่ว่า หากถึงขั้นออกหมายจับ เราก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนด้วยกันพักราชการ นอกจากนี้ ถ้ามีผลกระทบต่อเรื่องการทำคดีความต่างๆ ก็จะสั่งการไม่ให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเข้าไปในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง หากมีข้อมูลหลักฐาน ก็ต้องว่าไปตามนั้นโดยทาง พล.ท.มนัส ก็ต้องต่อสู้ตามกฎหมายต่อไป

" เรื่องนี้ ผมรับทราบมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผย การออกหมายจับพล.ท.มนัส จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจ เพราะให้ตำรวจรวบรวมหลักฐานเต็มที่ เพื่อดำเนินคดีให้รัดกุมเรียบร้อยเท่านั้นเอง เมื่อตำรวจมั่นใจ สามารถออกหมายจับได้ ก็ดำเนินการตามขั้นตอน หากผิดต้องเป็นไปตามผิด คงต้องเป็นการต่อสู้ให้ข้อมูลของพล.ท.มนัส ว่าจะมีข้อมูลที่สามารถต่อสู้อย่างไรได้ หากพล.ท.มนัส ผิด กองทัพคงไม่เข้าไปช่วยเหลือใดๆ กองทัพบกจะมีการสอบสวนเพื่อเอาผิดทางวินัยตามขั้นตอนต่อไป" พล.อ.อุดมเดช กล่าว

พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่าไม่ว่าจะเป็นกำลังพลคนใดก็ตาม ที่เข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องการค้ามนุษย์ จะต้องดำเนินการเฉียบขาด ทั้งนี้ทางกองทัพบก คงจะตั้งคณะกรรมการจากกองทัพภาคที่ 4 เพื่อสอบสวนทางด้านวินัย ส่วนการดำเนินคดีอาญาก็ต้องทำควบคู่กันไป เพราะทางกองทัพบก ก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยว่า พล.ท.มนัส มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร หรือมีใครเข้าไปเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการมาถึงขนาดนี้ คงมีข้อมูลมากสมควร ซึ่งเรายังให้โอกาส พล.ท.มนัส เพื่อต่อสู้ตามสิทธิ

พล.อ.อุดมเดช กล่าวอีกว่า หากผลการสอบสวนยืนยันว่า พล.ท.มนัส เข้าไปเกี่ยวข้องจริง และเป็นคดีอาญา ก็คงต้องปลดออกจากราชการ หากกำลังพลดี ก็ต้องดูแล เพราะได้ทำงานมายังเหน็ดเหนื่อยในการดูแลอธิปไตยตามแนวชายแดน และดูแลเรื่องความไม่สงบเรียบร้อยภายใน ดังนั้น คนที่เข้ามาแอบแฝงอยู่ เราก็ต้องให้ออกจากราชการไป แต่กรณีของ พล.ท.มนัส เราจะต้องให้โอกาสในเรื่องสิทธิการต่อสู้ทางด้านกฎหมาย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อ พล.ท.มนัส เพื่อสอบถามถึงประเด็นดังกล่าวโดยได้รับคำตอบเพียงสั่นๆ ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง พร้อมทั้งปฏิเสธที่จะตอบคำถามอื่นๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พล.ท.มนัส เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในพื้นที่ภาคใต้ อาทิ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 25 กรมทหารราบที่ 25 ตั้งแต่ปี 2548 ถึง 2549 ขณะที่เมื่อปี 2550 ได้ประจำอยู่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในช่วงปี 2551 ถึงปี 2552 ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 จ.สงขลา และผู้บังคับการจังหวัดทหารบกชุมพร ก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก.
กำลังโหลดความคิดเห็น