นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ข้าราชการระดับสูงของกระทรวง และระดับอธิบดี เร่งรัดทำผลงานตามนโยบายรัฐบาล ลงสู่เกษตรกรให้เห็นผลชัดเจน ภายใน 3 เดือน แต่จากนี้ไป หากยังไม่ปรับตัว อาจมีการโยกย้ายก่อน เพื่อจัดทัพใหม่ก่อนโยกย้ายเดือนต.ค. ซึ่งถ้างานไม่ออก งานไม่เข้าเป้า มีย้ายก่อนได้ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าหาเกษตรกร ทุ่มเทให้มากขึ้น และลงพื้นที่เพื่อแก้ไขได้ตรงจุด อาจจะไม่ได้หยุดเสาร์ - อาทิตย์ ทั้งนี้ อธิบดีส่วนใหญ่ เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเข้ามาในยุคนี้
"นายกรัฐมนตรีให้การบ้านกระทรวงเกษตรฯ ทำงานมีเป้าที่ชัดเจนคือ ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของเกษตรกร และประชาชน โดยไม่ก่อหนี้ระยะยาวเป็นตัวชี้วัด เน้นปรับโครงสร้างการผลิตสินค้าเกษตรทุกชนิด เป็นการผลิตสินค้าเกษตรแปลงใหญ่ มุ่งลดต้นทุนการผลิต เพิ่มคุณภาพ หาช่องทางแข่งขันด้านตลาดในประเทศ และต่างประเทศ " นายชวลิต กล่าว
นายชวลิต กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการปรับโครงสร้างเกษตรแปลงใหญ่ ขณะนี้ได้ผ่านกระบวนคัดเลือกแปลงประมาณ 1 - 5 พันไร่ ทุกจังหวัด 200 แห่งทั่วประเทศ เป็นการขับเคลื่อนแบบบูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นเจ้าภาพ ร่วมกลุ่มผลิตภาคกลางเป็นข้าว ภาคใต้เป็นยาง และปาล์ม ภาคเหนือเป็นลำไย ภาคอีสานเป็นมันสำปะหลัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยหาเครื่องจักรกล เทคโนโลยี เรื่องจัดหาแหล่งน้ำ ปรังปรุงดิน กระจายสินค้าผ่านระบบสหกรณ์ โดยใช้งบประมาณเจียดจากงบปกติแต่ละหน่วยงานมา 30 % เพราะปรับเป้าการใช้งบปี 58 ใหม่ เน้นให้ความสำคัญโครงการนี้ลำดับต้นๆ
"นายกรัฐมนตรีให้การบ้านกระทรวงเกษตรฯ ทำงานมีเป้าที่ชัดเจนคือ ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของเกษตรกร และประชาชน โดยไม่ก่อหนี้ระยะยาวเป็นตัวชี้วัด เน้นปรับโครงสร้างการผลิตสินค้าเกษตรทุกชนิด เป็นการผลิตสินค้าเกษตรแปลงใหญ่ มุ่งลดต้นทุนการผลิต เพิ่มคุณภาพ หาช่องทางแข่งขันด้านตลาดในประเทศ และต่างประเทศ " นายชวลิต กล่าว
นายชวลิต กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการปรับโครงสร้างเกษตรแปลงใหญ่ ขณะนี้ได้ผ่านกระบวนคัดเลือกแปลงประมาณ 1 - 5 พันไร่ ทุกจังหวัด 200 แห่งทั่วประเทศ เป็นการขับเคลื่อนแบบบูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นเจ้าภาพ ร่วมกลุ่มผลิตภาคกลางเป็นข้าว ภาคใต้เป็นยาง และปาล์ม ภาคเหนือเป็นลำไย ภาคอีสานเป็นมันสำปะหลัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยหาเครื่องจักรกล เทคโนโลยี เรื่องจัดหาแหล่งน้ำ ปรังปรุงดิน กระจายสินค้าผ่านระบบสหกรณ์ โดยใช้งบประมาณเจียดจากงบปกติแต่ละหน่วยงานมา 30 % เพราะปรับเป้าการใช้งบปี 58 ใหม่ เน้นให้ความสำคัญโครงการนี้ลำดับต้นๆ
