วานนี้ (26 พ.ค.) นายกฤษณ์ ผาทอง นายกสมาคมผู้เพาะปลูก ผู้บ่มและผู้ค้ายาสูบ จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงกรณี ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการ ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.....ว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ ยังคงมีความขัดแย้งในหลายภาคส่วน เนื่องจาผู้ได้รับผลกระทบถูกตัดตอน และกีดกันออกจากการมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น โดยกระทรวงสาธารณสุขและกลุ่มเอ็นจีโอ ที่พยายามผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ โดยไม่ฟังเสียงทักท้วงจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยก่อนหน้านี้ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวได้ถูกสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตีกลับไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้พูดคุยกับภาคเกษตรและเอกชนเพิ่มเติม แต่ทางกระทรวงฯ ก็ยังคงดันร่างกฎหมายนี้กลับไปยังที่ประชุมครม. โดยไม่ได้รับฟังข้อกังวลจากชาวไร่ยาสูบ และร้านค้าปลีก หรือโชห่วยทั่วประเทศ แต่อย่างใด
"ชาวไร่ยาสูบผิดหวังต่อการตัดสินใจของครม. เพราะเราได้พยายามมาตลอดที่จะแสดงความเห็น และข้อกังวลในร่างกฎหมายที่ยังคงมีข้อบกพร่องอยู่มากนี้ หลายๆมาตรการมีปัญหา ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และละเมิดสิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพของเราด้วย" นายกฤษณ์ กล่าว
นายกฤษณ์ กล่าวด้วยว่า เชื่อว่าในการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบถึงความเห็นขัดแย้งต่างๆ และได้สั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องไปแก้ไขในชั้นคณะกรรมการกฤษฎีกา เพราะก่อนหน้านี้นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ก็ระบุว่า มติ ครม. ยังไม่ใช่กระบวนการสุดท้าย ยังต้องมีการตรวจสอบทบทวนจากหลายหน่วยอื่นๆ อีก ซึ่งกลุ่มที่เกี่ยวข้องยังสามารถแสดงความเห็นเพื่อการแก้ไขและทบทวนได้
"เราหวังว่ากฤษฎีกาจะปฏิบัติตามคำสั่งของท่านนายกฯ ประยุทธ์ และท่านรองนายกฯ ในการเปิดโอกาสให้เราได้แสดงความเห็นอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส รวมถึงแก้ไขประเด็นข้อกังวลด้วย" นายกฤษณ์ กล่าว
ขณะที่นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการสมาคมการค้ายาสูบไทย เปิดเผยว่า ร้านค้าปลีกหรือโชห่วยกว่า 500,000 รายทั่วประเทศ จะเป็นกลุ่มคนที่ต้องรับผลกระทบจากร่างกฎหมายฉบับนี้โดยตรง เพราะมีข้อห้ามทั้งเรื่องการแบ่งขาย การบังคับใช้ซองเรียบ กำหนดพื้นที่ห้ามร้านขายในภายหลัง การห้ามแสดงผลิตภัณฑ์ในร้าน ตลอดจนให้อำนาจรัฐมนตรีออกกฎหมายลูก หรือให้ดุลยพินิจเจ้าหน้าที่ลงโทษร้านค้า ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ซี่งทราบมาว่า กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ ต่างมีความเห็นแย้งต่อมาตรการต่างๆในร่างนี้ และไม่เห็นด้วย เพราะมีหลายมาตราซ้ำซ้อน และก้าวล่วงอำนาจของกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
"เราขอวิงวอนให้กฤษฎีกาฯ รวมทั้งสนช. ศึกษาผลกระทบอย่างรอบคอบ และปรึกษาหารือกับกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงโรงงานยาสูบอย่างใกล้ชิดไม่ควรปล่อยให้กฎหมายที่มีความสุดโต่ง และบีบคั้นเช่นนี้ถูกประกาศใช้" นางวราภรณ์ กล่าว
นายสมนึก ยิ้มปิ่น ผู้จัดการสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์ จ.สุโขทัย กล่าวเสริมว่า เรารู้สึกผิดหวังที่ครม. เร่งผ่านร่างกฎหมาย โดยไม่สนใจความเห็นคนรากหญ้า และเป็นความพยายามของกระทรวงสาธารณสุข ที่บีบให้ชาวไร่ยาสูบไปปลูกพืชอื่นๆ ซึ่งในความเป็นจริงไม่สามารถทำได้ในพื้นที่ของเรา แสดงให้เห็นว่า คนออกกฎหมายขาดความเข้าใจ และไม่สนใจชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไร่ เราจะสู้ไม่ถอยจนกว่ารัฐบาลจะได้ยินเสียงเราและแก้ไขปัญหาให้เรา
"ชาวไร่ยาสูบผิดหวังต่อการตัดสินใจของครม. เพราะเราได้พยายามมาตลอดที่จะแสดงความเห็น และข้อกังวลในร่างกฎหมายที่ยังคงมีข้อบกพร่องอยู่มากนี้ หลายๆมาตรการมีปัญหา ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และละเมิดสิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพของเราด้วย" นายกฤษณ์ กล่าว
นายกฤษณ์ กล่าวด้วยว่า เชื่อว่าในการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบถึงความเห็นขัดแย้งต่างๆ และได้สั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องไปแก้ไขในชั้นคณะกรรมการกฤษฎีกา เพราะก่อนหน้านี้นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ก็ระบุว่า มติ ครม. ยังไม่ใช่กระบวนการสุดท้าย ยังต้องมีการตรวจสอบทบทวนจากหลายหน่วยอื่นๆ อีก ซึ่งกลุ่มที่เกี่ยวข้องยังสามารถแสดงความเห็นเพื่อการแก้ไขและทบทวนได้
"เราหวังว่ากฤษฎีกาจะปฏิบัติตามคำสั่งของท่านนายกฯ ประยุทธ์ และท่านรองนายกฯ ในการเปิดโอกาสให้เราได้แสดงความเห็นอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส รวมถึงแก้ไขประเด็นข้อกังวลด้วย" นายกฤษณ์ กล่าว
ขณะที่นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการสมาคมการค้ายาสูบไทย เปิดเผยว่า ร้านค้าปลีกหรือโชห่วยกว่า 500,000 รายทั่วประเทศ จะเป็นกลุ่มคนที่ต้องรับผลกระทบจากร่างกฎหมายฉบับนี้โดยตรง เพราะมีข้อห้ามทั้งเรื่องการแบ่งขาย การบังคับใช้ซองเรียบ กำหนดพื้นที่ห้ามร้านขายในภายหลัง การห้ามแสดงผลิตภัณฑ์ในร้าน ตลอดจนให้อำนาจรัฐมนตรีออกกฎหมายลูก หรือให้ดุลยพินิจเจ้าหน้าที่ลงโทษร้านค้า ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ซี่งทราบมาว่า กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ ต่างมีความเห็นแย้งต่อมาตรการต่างๆในร่างนี้ และไม่เห็นด้วย เพราะมีหลายมาตราซ้ำซ้อน และก้าวล่วงอำนาจของกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
"เราขอวิงวอนให้กฤษฎีกาฯ รวมทั้งสนช. ศึกษาผลกระทบอย่างรอบคอบ และปรึกษาหารือกับกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงโรงงานยาสูบอย่างใกล้ชิดไม่ควรปล่อยให้กฎหมายที่มีความสุดโต่ง และบีบคั้นเช่นนี้ถูกประกาศใช้" นางวราภรณ์ กล่าว
นายสมนึก ยิ้มปิ่น ผู้จัดการสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์ จ.สุโขทัย กล่าวเสริมว่า เรารู้สึกผิดหวังที่ครม. เร่งผ่านร่างกฎหมาย โดยไม่สนใจความเห็นคนรากหญ้า และเป็นความพยายามของกระทรวงสาธารณสุข ที่บีบให้ชาวไร่ยาสูบไปปลูกพืชอื่นๆ ซึ่งในความเป็นจริงไม่สามารถทำได้ในพื้นที่ของเรา แสดงให้เห็นว่า คนออกกฎหมายขาดความเข้าใจ และไม่สนใจชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไร่ เราจะสู้ไม่ถอยจนกว่ารัฐบาลจะได้ยินเสียงเราและแก้ไขปัญหาให้เรา