00 เวลานี้หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็ต้องบอกว่า การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำลังเข้าสู่ช่วงท้ายๆ ก่อนที่จะมีการสรุปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพราะการส่งความคิดเห็นเพื่อเสนอแก้ไขจากองค์กรต่างๆได้เสร็จสิ้นไปแล้ว แต่ที่น่าสังเกตก็คือ แต่ละองค์กรต่างมีข้อเสนอให้แก้ไขมากมายหลายประเด็น แต่ที่น่าจับตาก็คือ การเสนอแก้ไขของ ครม. ที่มีมากนับร้อยประเด็น ซึ่งนี่แหละน่าจะมีน้ำหนักมากที่สุด ขณะเดียวกันที่น่าสนใจก็คือ ไม่แตะประเด็น"นายกฯคนนอก" ทำให้มั่นใจว่า จะต้องคงไว้ในประเด็นดังกล่าวค่อนข้างแน่
00 เรื่อง "นายกฯคนนอก" น่าจะกลายเป็นเงื่อนไขของพวก "นักเลือกตั้ง" ขี้ข้าประชาธิปไตยจอมปลอมนำมาปลุกระดม ป่วนนับจากนี้เป็นต้นไป ข้ออ้างที่หยิบยกขึ้นมาก็คือ เป็นการเตรียมการเอาไว้เพื่อรองรับคนในคสช. อย่างน้อยที่จะแสดงให้เห็นภาพก่อนก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นแหละ อย่างไรก็ดี ในเรื่องแบบนี้สามารถดับกระแสได้ไม่ยาก หากมีการอธิบายกันแบบชัดถ้อยชัดคำอย่างเปิดเผย นั่นคือ การโหวตในสภาโดยส.ส. เป็นอำนาจของตัวแทนประชาชนที่จะตัดสินใจ ขณะเดียวกันยังเหมือนกับเป็นการเปิดช่องทางฉุกเฉินเอาไว้ แต่อย่างไรก็ดี ในที่สุดแล้วหากมีการ "ตัดทิ้ง" ไปก็แล้วแต่ ไม่เห็นต้องซีเรียสอะไร เพราะเชื่อว่าสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากนี้คงจะ"กลับบ้าน" แล้ว ส่วนคนอื่นๆ หากคิดจะเข้ามาด้วยช่องทางดังกล่าว มันก็ไม่น่าสนใจแล้ว เพราะมองดูแล้วบอกตรงๆว่า "ไม่ได้เรื่องสักคน"
00 น่าสังเกตก็คือ เวลานี้บรรดาขี้ข้า ทักษิณ ชินวัตร เริ่มโหมโรงจองคิวป่วนกันแบบพร้อมเพรียง เท่าที่เห็นก็มี ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ออกมาประดิษฐ์ประดอยวาทะขึ้นมาแล้ว อ้างว่า รธน.ไม่มีหลักประกันเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน และจับจ้องไปที่นายกฯ คนนอก ที่ไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง ก็ว่ากันไป แต่ขอบอกให้รู้กันว่า นาทีนี้ชาวบ้านเขาหูตาสว่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และของเก่าที่ใครทำอะไรกันไว้รอ "คิดบัญชี" กันอีกรอบ ไม่มีทางลอยนวลได้ง่ายๆหรอก !!
00 กระแสเรียกร้องเรียกค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว ที่มีมูลค่าประเมินในเบื้องต้นกว่า 7 แสนล้านบาท เริ่มดังมากขึ้น อย่างน้อยก็เป็นเนื้อเป็นหนังหลังจาก เลขาฯมูลนิธิชัยพัฒนา สุเมธ ตันติเวชกุล กระทุ้งว่า คนที่ทำผิดพลาดจากโครงการดังกล่าว มีข้าวค้างสต็อกกว่า 18 ล้านตัน ก็ต้องรับผิดชอบ ส่วนจะเป็นใครบ้างนั้น หากนึกไม่ออกก็ลองมองไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่ามีใครบ้างที่กำลังถูกฟ้องอาญา ขึ้นบัญชีไว้แล้วก็มี "นักประชาธิปไตยคนสวย" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บุญทรง เตริยาภิรมย์ ภูมิ สาระผล รวมทั้งอดีต ขรก.กระทรวงพาณิชย์ ที่ร่วมขบวนการ เชื่อว่าอีกไม่นาน คงจะมีการฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งตามมาแน่นอน !!
00 ออกมาขัดคอกันแบบมีเหตุผลเหมือนกัน สำหรับ ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ที่เตือนว่า การขายหุ้นของกระทรวงการคลังเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ในโครงการรับจำนำข้าวนั้น "ได้ไม่คุ้มเสีย" อีกทั้งชี้ว่าเป็นเงินจำนวนเล็กน้อย ไม่คุ้มกับเครดิตของประเทศที่ถูกมองในแง่ลบ เมื่อมีเสียงเตือนออกมาแบบนี้ ก็น่าจะทำให้ รมว.คลัง คนปัจจุบัน สมหมาย ภาษี ที่กำลังหน้ามืดกับการหาเงินมาชดเชยความเสียหาย จะหันกลับมาทบทวนใหม่หรือไม่ นอกเหนือจากการออกพันธบัตรจำนวน 2 ล้านล้านบาท ระยะเวลา 20 ปี ที่ใช้หนี้กันชั่วลูกชั่วหลาน !!
00 เรื่อง "นายกฯคนนอก" น่าจะกลายเป็นเงื่อนไขของพวก "นักเลือกตั้ง" ขี้ข้าประชาธิปไตยจอมปลอมนำมาปลุกระดม ป่วนนับจากนี้เป็นต้นไป ข้ออ้างที่หยิบยกขึ้นมาก็คือ เป็นการเตรียมการเอาไว้เพื่อรองรับคนในคสช. อย่างน้อยที่จะแสดงให้เห็นภาพก่อนก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นแหละ อย่างไรก็ดี ในเรื่องแบบนี้สามารถดับกระแสได้ไม่ยาก หากมีการอธิบายกันแบบชัดถ้อยชัดคำอย่างเปิดเผย นั่นคือ การโหวตในสภาโดยส.ส. เป็นอำนาจของตัวแทนประชาชนที่จะตัดสินใจ ขณะเดียวกันยังเหมือนกับเป็นการเปิดช่องทางฉุกเฉินเอาไว้ แต่อย่างไรก็ดี ในที่สุดแล้วหากมีการ "ตัดทิ้ง" ไปก็แล้วแต่ ไม่เห็นต้องซีเรียสอะไร เพราะเชื่อว่าสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากนี้คงจะ"กลับบ้าน" แล้ว ส่วนคนอื่นๆ หากคิดจะเข้ามาด้วยช่องทางดังกล่าว มันก็ไม่น่าสนใจแล้ว เพราะมองดูแล้วบอกตรงๆว่า "ไม่ได้เรื่องสักคน"
00 น่าสังเกตก็คือ เวลานี้บรรดาขี้ข้า ทักษิณ ชินวัตร เริ่มโหมโรงจองคิวป่วนกันแบบพร้อมเพรียง เท่าที่เห็นก็มี ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ออกมาประดิษฐ์ประดอยวาทะขึ้นมาแล้ว อ้างว่า รธน.ไม่มีหลักประกันเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน และจับจ้องไปที่นายกฯ คนนอก ที่ไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง ก็ว่ากันไป แต่ขอบอกให้รู้กันว่า นาทีนี้ชาวบ้านเขาหูตาสว่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และของเก่าที่ใครทำอะไรกันไว้รอ "คิดบัญชี" กันอีกรอบ ไม่มีทางลอยนวลได้ง่ายๆหรอก !!
00 กระแสเรียกร้องเรียกค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว ที่มีมูลค่าประเมินในเบื้องต้นกว่า 7 แสนล้านบาท เริ่มดังมากขึ้น อย่างน้อยก็เป็นเนื้อเป็นหนังหลังจาก เลขาฯมูลนิธิชัยพัฒนา สุเมธ ตันติเวชกุล กระทุ้งว่า คนที่ทำผิดพลาดจากโครงการดังกล่าว มีข้าวค้างสต็อกกว่า 18 ล้านตัน ก็ต้องรับผิดชอบ ส่วนจะเป็นใครบ้างนั้น หากนึกไม่ออกก็ลองมองไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่ามีใครบ้างที่กำลังถูกฟ้องอาญา ขึ้นบัญชีไว้แล้วก็มี "นักประชาธิปไตยคนสวย" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บุญทรง เตริยาภิรมย์ ภูมิ สาระผล รวมทั้งอดีต ขรก.กระทรวงพาณิชย์ ที่ร่วมขบวนการ เชื่อว่าอีกไม่นาน คงจะมีการฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งตามมาแน่นอน !!
00 ออกมาขัดคอกันแบบมีเหตุผลเหมือนกัน สำหรับ ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ที่เตือนว่า การขายหุ้นของกระทรวงการคลังเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ในโครงการรับจำนำข้าวนั้น "ได้ไม่คุ้มเสีย" อีกทั้งชี้ว่าเป็นเงินจำนวนเล็กน้อย ไม่คุ้มกับเครดิตของประเทศที่ถูกมองในแง่ลบ เมื่อมีเสียงเตือนออกมาแบบนี้ ก็น่าจะทำให้ รมว.คลัง คนปัจจุบัน สมหมาย ภาษี ที่กำลังหน้ามืดกับการหาเงินมาชดเชยความเสียหาย จะหันกลับมาทบทวนใหม่หรือไม่ นอกเหนือจากการออกพันธบัตรจำนวน 2 ล้านล้านบาท ระยะเวลา 20 ปี ที่ใช้หนี้กันชั่วลูกชั่วหลาน !!
