xs
xsm
sm
md
lg

คลื่นมนุษย์แห่ส่งพ่อคูณ พระอาทิตย์ทรงกลด3ชม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คลื่นมหาชนกว่า 5 แสน ร่วมส่งสรีระสังขาร "หลวงพ่อคูณ" ให้คณะแพทยศาสตร์ มข. ระดมดอกบัว 300,000 ดอกแจกยังไม่พอ ด้านศิษยานุศิษย์ปลาบปลื้มพระอาทิตย์ทรงกลดเหนือศูนย์ประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษกกว่า 3 ชั่วโมง วางผ้าเช็ดหน้า-ของใช้ส่วนตัวบนถนนตลอด 4 กิโลเมตรให้ขบวนรถแล่นผ่าน เพื่อนำกลับไปขึ้นหิ้งบูชาที่บ้าน คณะแพทยศาสตร์นำบรรจุโลงสแตนเลสใช้น้ำยาดองร่าง 200 ลิตรเป็นเวลา 1 ปี ด้านการตรวจสอบทรัพย์สินวัดบ้านไร่เริ่มวันนี้ (25 พ.ค.)

เมื่อเวลา 06.00 น. วานนี้ (24 พ.ค.) ที่ศูนย์ประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) สถานที่บำเพ็ญกุศลสรีระสังขารพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พระราชปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น และพระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พล.ท.ธวัชชัย สุกปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสมศักดิ์ ปริสุทโธ เหมรานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

**จราจรติดขัดหนัก-เพิ่มดอกบัว3แสนดอก

ประกอบพิธีบรรพชา-อุปสมบท สามเณรและพระภิกษุ 109 รูป เพื่ออุทิศถวายแด่หลวงพ่อคูณ และร่วมจูงหีบบรรจุสรีระสังขาร จากศูนย์ประชุมไปยังภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข. เพื่อส่งมอบเข้าสู่กระบวนการจัดการเรียนการสอนนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ ตามที่ระบุได้ไว้ในพินัยกรรม ทั้งนี้ การจราจรโดยรอบศูนย์ประชุมติดขัดอย่างหนัก โดยเฉพาะในประตูทางเข้า มข. ตัดถนนมะลิวัลย์ กับประตูศรีฐาน ที่ตำรวจจราจรต้องปิดจุดกลับรถ เพื่อให้เกิดความคล่องตัว

นายชุมพร พารา ผู้อำนวยการกองสื่อสารองค์กร มข. กล่าวว่า ได้เพิ่มจำนวนดอกบัวเป็น 300,000 ดอก ให้เพียงพอต่อพิธีการตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในช่วงการถวายดอกบัวเพื่อขอขมาสรีระสังขาร ส่วนเงินบริจาครวม 7 วันในงานพิธีบำเพ็ญกุศลรวม 47,428,949.76 บาท ซึ่งจะสมทบกองทุนตึกสงฆ์อาพาธสำหรับใช้เป็นค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลพระภิกษุสงฆ์ ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ และค่าใช้จ่ายการจัดงานพิธีบำเพ็ญกุศลทั้ง 7 วัน

**ญาติโยมปลื้มบารมีอาทิตย์ทรงกลด3ชม.

เวลาประมาณ 11.00 น. ระหว่างพิธีถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์ เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกรดเหนือศูนย์ประชุม จนประชาชนที่มาร่วมงานต่างปลาบของหลวงพ่อคูณเป็นอย่างยิ่ง ผู้ที่อยู่นอกห้องประชุมต่างนำโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก ส่วนเส้นทางเคลื่อนขบวนสรีระสังขาร พบว่าร้านค้าริมถนนกว่า 50 ร้าน ต่างพร้อมใจกันปิดร้าน เพื่อร่วมสักการะหลวงพ่อคูณ ซึ่งแม่ค้าเปิดเผยว่ารู้สึกปลาบปลื้มมากที่ขบวนจะเคลื่อนผ่านหน้าร้าน ถือเป็นศิริมงคลกับร้านมาก น้อยคนนักที่จะได้มีโอกาสแบบนี้
ที่หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เวลา 09.30 น.ชาวนครราชสีมาขึ้นรถบัสโดยสาร 15 คัน ที่นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนคร จัดเตรียมไว้ให้เดินทางไปร่วมส่งมอบสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ขณะที่อำเภอต่างๆจัดเตรียมรถบัสไว้เช่นกันรวมกว่า 70 คัน ประชาชนกว่า 2,000 คน โดยนายสมัย หล่าสูงเนิน อายุ 32 ปี พนักงานโรงงานชาวอ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่ได้หยุดงาน จึงพาครอบครัวไปร่วมส่งสรีระสังขารหลวงพ่อ ซึ่งเป็นพระที่ให้คำสั่งสอนที่ดี และตั้งใจทำตามท่านโดยตนและครอบครัวจะไปบริจาคร่างกายที่คณะแพทยศาสตร์ มข. เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา อีกทั้งท่านเคยพูดว่าการบริจาคร่างกายเป็นการพ้นทุกข์ ซึ่งตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมาตนยึดมั่นในพระธรรมคำสอนที่หลวงพ่อคูณท่านเคยพูดไว้ คือ รักษาศีล 5 ทำให้ครอบครัวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี อบอุ่น แม้ไม่เคยเจอตัวจริงของท่าน เนื่องจากไม่มีเวลาไปกราบที่วัดบ้านไร่ แต่ได้กราบรูปเหมือนท่านก็ดีใจ และครั้งนี้มีความตั้งใจไปส่งท่านสู่นิพพาน

**ชาวด่านขุนทดขึ้นป้ายถวายความอาลัย

ส่วนที่อ.ด่านขุนทด ชาวด่านขุนทดได้ติดตั้งป้ายบริเวณหน้าสถานที่ราชการ ร้านค้า สะพานลอย และทางแยก ข้อความน้อมถวายความอาลัยแด่หลวงพ่อคูณ เทพเจ้าแห่งด่านขุนทด และขอแสดงความกตัญญูพระผู้ให้ ทำให้คนไทยทั่วประเทศรู้จักอ.ด่านขุนทด ซึ่งนายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา นายอำเภอด่านขุนทด กล่าวว่า ที่ผ่านมา หัวหน้าส่วนราชการและผู้นำชุมชนต้องเดินทางไปกลับโคราช-ขอนแก่น เพื่อสับเปลี่ยนกันร่วมเป็นเจ้าภาพสวดบำเพ็ยกุศลทุกคืน จนสถานการณ์เริ่มคลี่คลายขึ้น จึงได้นัดกันติดตั้งป้ายแสดงความไว้ สำหรับพิธีบำเพ็ญกุศลต่อหน้าหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อคูณที่ศาลาใต้พระอุโบสถวัดบ้านไร่ จะทำให้ครบตาม 100 วัน คือ ถึงวันที่ 23 ส.ค. จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมถวายความอาลัยได้ในเวลา 19.00น.ทุกวัน

เวลา 13.00 น. ที่ศูนย์ประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษก พล.ท.ธวัธ สุกปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย เริ่มพิธีทางศาสนาก่อนทำการเคลื่อนย้ายสรีระสังขาร โดยมีพระธรรมวรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา แสดงพระธรรมเทศนา พระสงค์ 123 รูป สวดมาติกา ทอดผ้าบังสุกุล ทั้งนี้ ขณะทำพิธีจนถึงเวลาประมาณ 14.30 น. ยังคงเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกรดอยู่เช่นเดิม

**5แสนร่วมส่งสรีระสังขารไปคณะแพทย์

เวลา 15.30 น. พระธรรมวรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนคราชสีมา พระเทพรัตนดิลก เจ้าคณะจังหวัดนคราชสีมา พระราชปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ประธานฝ่ายสงฆ์ นำพระภิกษุ-สามเณร 109 รูปร่วมจูงสรีระสังขารหลวงพ่อคูณจากชั้น 2 ศูนย์ประชุม ไปยังอาคารเรียนรวมอาคาร 7 ชั้น คณะแพทยศาสตร์ มข. โดยออกจากศูนย์ประชุมเลี้ยวซ้ายเข้าถนนกัลปพฤกษ์ ผ่านศูนย์พิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรภาค 4 เลี้ยวขวาผ่านวัดป่าอดุลยาราม เลี้ยวซ้ายสี่แยกถนนมิตรภาพตัดถนนกัลปพฤกษ์ ผ่านศูนย์หัวใจสิริกิตติ์ และเลี้ยวซ้ายเข้าโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร โดยมีพล.ท.ธวัช สุกปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น อดีตรัฐมนตรี อดีตส.ส. คณะศิษยานุศิษย์ และประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อคูณ ร่วมพิธีเคลื่อนย้ายสรีระสังขารตลอด 2 ข้างทาง 4-5 แสนคน

**แห่วางสิ่งของให้ขบวนรถผ่าน-เก็บบูชา

โดยตลอดระยะทาง 4 กิโลเมตรที่ขบวนเคลื่อนผ่าน ประชาชนที่มาร่วมขอขมาและไว้อาลัยทั้ง 2 ฝั่งถนน ต่างนำเอาผ้าเช็ดหน้า ผ้าขนหนู เสื้อ หมวก กระเป๋าสตางค์ บัตรประชาชน บัตรข้าราชการ มาวางไว้บนถนนตลอดเส้นทาง เพื่อให้รถที่บรรทุกสรีระหลวงพ่อคูรเหยียบผ่าน จะได้นำกลับไปกราบไหว้บูชา พร้อมเปล่งเสียงว่าสาธุ สาธุ สาธุ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลาประมาณ 11.00 น. ระหว่างพิธีถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์ เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกรดเหนือศูนย์ประชุม แต่ระหว่างเคลื่อนขบวนย้ายสรีระสังขาร ท้องฟ้ามืดครึ้ม มีเสียงฟ้าร้องหลายครั้ง และมีลมกระโชกแรงเป็นระยะๆ กระทั่งขบวนไปถึงคณะแพทยศาสตร์ เมื่อเวลา 16.00. น. ฝนได้ตกลงมาปรอยๆ ทำให้บริเวณดังกล่าวชุ่มเย็น ท้องฟ้าเริ่มแจ่มใส สร้างความประหลาดใจให้กับญาติโยมที่อยู่บริเวณคณะแพทยศาสตร์กว่า 1 หมื่นคน ซึ่งต่างเชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อคูณ

**แพทย์ใช้น้ำยา200ลิตรดองโลงสแตนเลส

ทั้งนี้ คณะแพทย์ พยาบาล นักศึกษา เจ้าหน้าที่ บุคลากรมารอรับสรีระสังขาร และนำขบวนเคลื่อนเข้าสู่ลิฟท์ชั้น 1 อาคารผู้ป่วยในขึ้นไปยังชั้น 6 โดยมีสารวัตรทหาร 8 นายเป็นผู้แบกโลงเย็นบรรจุสรีระสังขาร ขึ้นบันไดชั้น 6 มายังห้องพิพิธภัณฑ์ใหญ่ชั้น 7 จากนั้นพระสงฆ์ 10 รูปสวดมาติกาบังสกุล โดยมีพระธรรมวรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พล.ท.ธวัช สุกปรั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ทอดผ้าไตรบังสกุล และถวายเครื่องไทยธรรม จากนั้นทำพิธีกล่าวคำขอขมา พระธรรมวรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ได้ทำพิธีมอบสรีระสังขารพระเทพวิทยาคม ให้แก่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข.

ซึ่งการดองสรีระหลวงพ่อคูณ ทางคณะแพทย์นำสรีระสังขารบรรจุในโลงสแตนเลส แล้วนำน้ำยาดอง 200 ลิตร ที่มีส่วนผสมของฟีนอล กลีเซอรีน และน้ำเป็นส่วนสำคัญลงดองร่าง ซึ่งทางคณะแพทย์จะตรวจสอบสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อดูการทำปฏิกิริยาของน้ำยา โดยจะทำการดองร่างเป็นเวลา 1 ปี จากนั้นจะให้นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 และ 3 ทำการศึกษาตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรมต่อไป

ขณะที่ภายในศูนย์ประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษก หลังจากเคลื่อนย้ายสรีระสังขารหลวงพ่อคูณแล้ว มีการวางกำลังตำรวจเป็นแนวกั้นบริเวณที่เคยตั้งสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ เพราะเกรงว่าประชาชนจะเข้าไปแย่งชิงสิ่งของบริเวณจัดงานไปบูชา แต่ก็มีหลายคนไปขอดอกไม้ที่นำมากราบไหว้สรีระสังขารนำกลับไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยส่วนใหญ่บอกว่าจะนำไปวางไว้บนหิ้งพระที่บ้าน

**ผู้ว่าฯชี้ทรัพย์สินมีปัญหาเจออาญา-แพ่ง

ด้านนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงการตรวจสอบทรัพย์สินของหลวงพ่อคูณ และวัดบ้านไร่ ทราบว่าคณะกรรมการตรวจสอบที่พระเทพวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดตั้งขึ้น จะไปตรวจสอบรายละเอียดวันที่ 25 พ.ค.นี้ ซึ่งวัดบ้านไร่เป็นนิติบุคคล มีเจ้าอาวาสวัดเป็นผู้มีอำนาจ และตามกฎหมายระบุว่าทรัพย์สินที่พระภิกษุสงฆ์ได้มาระหว่างบวชให้ตกเป็นของวัด การบริหารจัดการก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการวัด ซึ่งหากตรวจสอบแล้วพบปัญหา สามารถดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทั้งคดีอาญาและทางแพ่ง และหากการตรวจสอบพบปัญหาหรือมีความขัดแย้งมาก ทางจังหวัดก็พร้อมเข้าไปช่วย

นายเกรียงไกร จารุทวี อดีตรองประธานกรรมการวัดบ้านไร่ ในฐานะผู้อำนวยการก่อสร้างวิหารเทพวิทยาคม หรือวิหารกลางน้ำ กล่าวว่า กรณีข่าวหนี้สินหลวงพ่อคูณซึ่งเป็นค่าก่อสร้างวิหารกว่า 95 ล้านบาทนั้น โดยหลักการเมื่อหลวงพ่อคูณละสังขาร กรรมการวัดบ้านไร่ก็สิ้นสภาพไปด้วย ซึ่งตนไม่สามารถก้าวล่วงได้ ควรรอให้กรรมการวัดชุดใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยชอบ ตรวจสอบทรัพย์สินและชี้แจง อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าตำแหน่งผู้อำนวยการวิหารนั้น หลวงพ่อคูณเห็นชอบและลงนามให้ตนปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง

**ศิษย์หลวงปู่สรวงประกาศขอเดินตามรอย

ที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ที่ตั้งสรีระสังขารของหลวงปู่สรวง เทพเจ้าของประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา หลวงพ่อพุฒ วายาโม เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา และเจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ ฝ่ายธรรมยุติ ซึ่งเป็นพระนักพัฒนาชื่อดังของจ.ศรีสะเกษ กล่าวถึงหลวงพ่อคูณว่า เป็นอริยสงฆ์อีกรูปหนึ่งของศาสนาพุทธ เปี่ยมล้นด้วยความเมตตากรุณาโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ สร้างสาธารณประโยชน์มากมาย เป็นพระผู้ให้ทุกสิ่งแม้แต่สรีระสังขาร นับว่าเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่พระสงฆ์ของไทย

อาตมาซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่สรวงที่ละสังขารไปนานแล้ว มีความชื่นชมและศรัทธาในแนวทางของหลวงพ่อคูณเป็นอย่างมาก จึงจะขอเจริญรอยตามหลวงพ่อคูณ โดยสร้างศูนย์พักฟื้นผู้ป่วยโรคมะเร็ง เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี บนเนื้อที่ 55 ไร่ใกล้กับวัดไพรพัฒนา ซึ่งประกอบด้วยอาคารผู้ป่วยขนาด 20 เตียง บ้านพักผู้ป่วยมะเร็ง บ้านพักแพทย์ พยาบาล พร้อมอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เพื่อใช้อุปโภค บริโภค รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งจะประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ปลายเดือนมิ.ย.นี้ ใช้งบประมาณ 59 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังจะก่อสร้างโรงเรียนการกุศลวัดไพรพัฒนา จัดการเรียนการสอนให้กับพระ เณร และลูกหลานของประชาชนให้ได้รับการศึกษาที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเป็นสถานที่อบรมพระ-เณรให้เป็นแบบอย่างที่ดี ออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งกำลังเร่งขออนุญาตให้ถูกต้องตามระเบียบ ซึ่งพุทธศาสนิกชนท่านใดต้องการสมทบทุนก่อสร้าง สามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาศรีสะเกษ เลขที่ 333-4-21099-8 ชื่อบัญชีมูลนิธิหลวงปู่สรวง หรือโทร. 084-832-6951.
กำลังโหลดความคิดเห็น