ASTVผู้จัดการรายวัน - ที่ปรึกษารองนายกฯ ยันข่าว - ภาพที่สื่อไทย เสนอข่าว “บิ๊กจิ๋ว” ลงนามศึกษาคลองกระ ในนามรัฐบาลไทย - จีน ไม่จริง เผย ผู้ลงนามฝ่ายไทยเป็นแค่ “อดีตนักการเมืองอาวุโสคนดังคนหนึ่ง” ไม่ได้เกี่ยวข้องกับรัฐบาลไทย ส่วนฝ่ายจีนเป็นนักธุรกิจจีนคนหนึ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน รับมีการลงนามกันที่กรุงเทพฯ 10 พ.ค. แต่ข่าวไปเผยแพร่ที่ “กวางโจว” อ้างลงนาม 15 พ.ค. ด้าน นักวิชาการ ตปท. จี้ บัวแก้ว ตอบโต้รายงาน “ขุดคอคอดกระ” ด้าน รบ.จีน - ทูตไทย ในกวางโจว ปฏิเสธ MOU ขุดคอคอดกระกับไทย ไม่จริง
วานนี้ (19 พ.ค.) มีรายงานว่า หลังจากที่สื่อไทย เช่น เว็บไซต์มติชนออนไลน์ เว็บไซต์ประชาไทย รวมถึงสถานีโทรทัศน์ว๊อยซ์ทีวี ได้นำเสนอข่าว อ้างว่า ประเทศจีน และประเทศไทย มีการลงนามให้มีการศึกษาโครงการคลองกระ ที่กวางโจว เมื่อวันที่ 15 พ.ค. โดยมีรูป พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมลงนามเผยแพร่ไปตามสังคมออนไลน์นั้น
นายไพศาล พืชมงคล ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ในฐานะอุปนายกและเลขาธิการสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย - จีน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ตามรายงานข่าวทั้งในประเทศจีนและในประเทศไทยขณะนี้ว่ามีการลงนามให้มีการศึกษาโครงการคลองกระ ที่กวางโจว วันที่ 15 พฤษภาคม และเกิดการสอบถามกันอย่างกว้างขวางนั้น ได้ตรวจสอบแล้วไม่ใช่เป็นเรื่องของรัฐบาลไทย - จีน เพราะรัฐบาลไทย - จีน ยังไม่ได้มีการหารือกันแต่ประการใดเลย
“จากการตรวจสอบทั้งฝ่ายจีนและฝ่ายไทย พบว่า ผู้ลงนามฝ่ายไทยคืออดีตนักการเมืองอาวุโสคนดังคนหนึ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับรัฐบาลกับฝ่ายจีนเป็นนักธุรกิจจีนคนหนึ่งและไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับรัฐบาลจีน มีการลงนามกันที่กรุงเทพฯ วันที่ 10 พฤษภาคม 2558 และนำข่าวไปเผยแพร่ที่กวางโจวว่า มีการลงนามในวันที่ 15 พฤษภาคม”
หลังจากนั้น ก็กระจายข่าวออกไป ทำให้เกิดการสอบถามกัน จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าผู้ลงนามฝ่ายไทยก็ไม่ได้มีอำนาจในการอนุมัติหรืออนุญาตให้ศึกษาเรื่องโครงการคลองกระ ในขณะที่ผู้ลงนามฝ่ายจีนก็เป็นเอกชนที่ไม่ปรากฏฐานะชัดเจนว่าเป็นใคร เพียงแต่อ้างว่ามีเส้นสายในปักกิ่ง ซึ่งอ้างกันมากมายในขณะนี้ จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลจีนและรัฐบาลไทยจะต้องจับตามอง
เพราะเรื่องคลองกระเป็นเรื่องผลประโยชน์แห่งชาติที่สำคัญมากเป็นเรื่องยุทธศาสตร์สำคัญทั้งทางเศรษฐกิจและความมั่นคง มีผลต่อสันติภาพและความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าทำให้ถูกต้อง ทำให้ดี ก็จะบังเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ และภูมิภาคนี้อย่างใหญ่หลวง ซึ่งต้องระวังไม่ให้ผู้ไม่หวังดีนำไปหาประโยชน์ส่วนบุคคล ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติ
นายไพศาล ระบุว่า ขณะนี้มีขบวนการนายหน้าเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำธุรกิจบังหน้าหาประโยชน์ เช่นอ้างว่านำคณะนักลงทุนจีนมาลงทุนในประเทศไทย โดยเก็บเงินนักธุรกิจจีนเหล่านั้นในอัตราที่สูง แล้วอ้างว่าสามารถนำไปพบปะกับผู้นำในรัฐบาลหรือบุคคลสำคัญได้ แท้จริงแล้วเป็นเรื่องมาท่องเที่ยว กินข้าว ถ่ายรูป แล้วเอาไปลงหนังสือพิมพ์ หรือเอาไปอวดอ้างกัน ซึ่งมีลักษณะกลายพันธุ์มาจากทัวร์ศูนย์เหรียญนั่นเอง จนเกิดความรำคาญแก่คนในรัฐบาล จึงได้มีการป้องกันความวุ่นวายนี้
ด้วยมาตรการบางอย่าง ทำให้ขบวนการนายหน้าหน้าแตกไปหลายรายแล้ว ดังนั้นแม้ความจริงรัฐบาลจีนและนักธุรกิจจีนสนใจมาลงทุนในประเทศไทยซึ่งเป็นเรื่องที่ดีก็ต้องไม่เห่อเหิมจนกลายเป็นช่องว่างให้พวกทุจริตหาประโยชน์ได้
สำหรับสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย - จีน ยินดีที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และยินดีที่จะให้ความร่วมมือ พร้อมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้นักธุรกิจไทย - จีน ได้ร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ด้วย
*** จี้ บัวแก้ว โต้รายงานขุดคอคอดกระ
ก่อนหน้านั้น ช่วงเช้าวานนี้ (19 พ.ค.) เฟซบุ๊กส่วนตัว Noppanan Arunvongse Na Ayudhaya ของ ดร.นพนันท์ อรุณวงศ์ ณ อยุธยา นักวิชาการด้านการต่างประเทศ ตั้งข้อสังเกตต่อเรื่องนี้ว่า
หนังสือพิมพ์มติชนและสำนักข่าวประชาไท รายงานเรื่อง “สื่อแดนมังกรเสนอข่าว มีการร่วมลงนามขุด ′คอคอดกระ′ ในไทย ส่งผลประโยชน์ต่อการค้าจีน" โดยอ้างอิงจาก “Chinadailymail.com”
ทั้งๆ ที่ chinadailymail.com นั้นเป็นเพียงแค่ blog บน wordpress และไม่ใช่สื่อจีน เพียงแต่มีคำว่า china อยู่ในชื่อ และ chinadailymail.com นั้นอยู่ในกลุ่มเสนอข่าวต่อต้านรัฐบาลจีน
หลังจากตรวจสอบต่อไปจึงพบว่า chinadailymail.com นำข่าวมาจากกลุ่ม “จดหมายเหตุเทียนอันเหมิน” ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านจีนกลุ่มใหญ่เช่นกัน โดยทั้งสองแหล่งข่าวนั้นไม่มีรายละเอียดใดๆ นัก
แต่เพื่อความแน่ชัดจึงได้ตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไปยังสื่อทางการของจีนในประเทศจีนอีกชั้น และทำให้พบกับรายงานข่าวที่ตกตะลึง ซึ่งข่าวดังกล่าวนี้ไม่ปรากฎบนสื่อไทย แต่ปรากฏทั่วประเทศจีนตั้งแต่กลางดึกของเมื่อคืนวันที่ 19 พ.ค. 58 พร้อมภาพถ่ายหลักฐาน
โดยรายงานนั้นสรุปเนื้อหาใจความได้ดังนี้
“วันที่ 10 เมษายน ณ นครกวางเจา พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้บัญชาการกองทัพไทย ในฐานะประธาน Asia Union Group พร้อมด้วยอดีตรัฐมนตรีกลาโหมไทย ลงนามในบันทึกช่วยจำเรื่อง “ความร่วมมือขุดคอคอดกระ” กับ นายกั้วอี้ ประธานรัฐวิสาหกิจ China-Thailand Kra Infrastructure Investment & Development
โดยมีสักขีพยานเป็นข้าราชการระดับสูงของไทยทั้งทหาร ตำรวจ สำนักราชเลขาธิการ และกรมราชองครักษ์”
ขอแนะนำว่า กระทรวงการต่างประเทศ ควรรีบออกแถลงการณ์ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเร็วครับ
อ้างอิงจาก :
1. สื่อแดนมังกรเสนอข่าว มีการร่วมลงนามขุด ′คอคอดกระ′ ในไทย ส่งผลประโยชน์ต่อการค้าจีนhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1431990333
2. 中泰开建克拉运河 大陆可摆脱“马六甲困局”( http://news.china.com/domes…/10000159/20150519/19706566.html
3. 中泰开建克拉运河绕开马六甲海峡 可破美国封锁 http://world.huanqiu.com/hot/2015-05/6469034.html
4. China Begins Building Strategically Important Kra Canal in Thailand https://tiananmenstremendousachievements.wordpress.com/…/k…/
5. China announces strategically important Kra Isthmus Canal in Thailand (http://chinadailymail.com/…/china-announces-strategically )
***นักวิชาการ ระบุ รบ.จีนปฏิเสธ MOU
ต่อมา เวลา 16.30 น. (วันที่ 19 พ.ค.) ในเฟซบุ๊กของ “ดร.นพนันท์” ระบุว่า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ปฏิเสธรายงานข่าวก่อนหน้านี้ที่ว่า รัฐบาลจีนลงนามไม่เป็นความจริง และรัฐบาลจีนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการลงนามใน MOU ดังกล่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่งและอัครราชทูตที่ปรึกษาพาณิชย์ได้ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธว่า รัฐบาลไทยไม่มีความเกี่ยวข้องกับการลงนามใน MOU ดังกล่าวเช่นกัน
โดยก่อนหน้านี้ สื่อมวลชนจีนรายงานการแถลงข่าวของ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ และ China-Thailand Kra Infrastructure Investment & Development ซึ่งลงนามร่วมกันใน MOU โครงการขุดคอคอดกระที่นครกวางเจา
***เว็บไซต์หลายสำนักข่าวในไทย ทยอยปลดข่าว
มีรายงานว่า หลายเว็บไซต์มีการนำเสนอข่าวอ้างว่า สื่อฮ่องกงเผย ไทย - จีน เตรียมลงทุน 9 แสนล้านบาท ขุดคอคอดกระ โดยอ้างข่าวจากเว็บไซต์โอเรนทัล เดลี่ ของฮ่องกง เปิดเผยว่า จีน และ ไทย ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ในการขุดคอคอดกระ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนเส้นทางสายใหม่แห่งใหม่และเส้นทางสายใหม่ทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 ของจีน
ต่อมาเว็บไซต์หลายสำนักข่าวได้ปลดข่าวออกทันทีหลังจากมีกระแสข่าวว่าไม่เป็นความจริง เช่น เว็บไซต์ประชาไท ที่เสนอข่าวเมื่อเวลา 02.29 น. ได้ปลดข่าวออก โดยชี้แจงข่าวพาดหัว “สื่อจีนเสนอข่าว ไทยร่วมลงนามขุด “คอคอดกระ” ส่งผลประโยชน์ต่อการค้าจีน” เผยแพร่เมื่อเวลา 02.29 น. วันที่ 19 พ.ค. นั้น ต่อมา ประชาไทตรวจสอบพบว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นจริง จึงถอนข่าวดังกล่าวออก และขออภัยผู้อ่านมา ณ ที่นี้
ส่วนเว็บไซต์มติชนได้ ปลดข่าวดังกล่าวออก โดยนำเสนอข่าวบทสัมภาษณ์ของนายไพศาลแทน ขณะที่ วอยซ์ทีวี ก็ปลดข่าวออกจากเว็บไซต์เช่นกัน
วานนี้ (19 พ.ค.) มีรายงานว่า หลังจากที่สื่อไทย เช่น เว็บไซต์มติชนออนไลน์ เว็บไซต์ประชาไทย รวมถึงสถานีโทรทัศน์ว๊อยซ์ทีวี ได้นำเสนอข่าว อ้างว่า ประเทศจีน และประเทศไทย มีการลงนามให้มีการศึกษาโครงการคลองกระ ที่กวางโจว เมื่อวันที่ 15 พ.ค. โดยมีรูป พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมลงนามเผยแพร่ไปตามสังคมออนไลน์นั้น
นายไพศาล พืชมงคล ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ในฐานะอุปนายกและเลขาธิการสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย - จีน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ตามรายงานข่าวทั้งในประเทศจีนและในประเทศไทยขณะนี้ว่ามีการลงนามให้มีการศึกษาโครงการคลองกระ ที่กวางโจว วันที่ 15 พฤษภาคม และเกิดการสอบถามกันอย่างกว้างขวางนั้น ได้ตรวจสอบแล้วไม่ใช่เป็นเรื่องของรัฐบาลไทย - จีน เพราะรัฐบาลไทย - จีน ยังไม่ได้มีการหารือกันแต่ประการใดเลย
“จากการตรวจสอบทั้งฝ่ายจีนและฝ่ายไทย พบว่า ผู้ลงนามฝ่ายไทยคืออดีตนักการเมืองอาวุโสคนดังคนหนึ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับรัฐบาลกับฝ่ายจีนเป็นนักธุรกิจจีนคนหนึ่งและไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับรัฐบาลจีน มีการลงนามกันที่กรุงเทพฯ วันที่ 10 พฤษภาคม 2558 และนำข่าวไปเผยแพร่ที่กวางโจวว่า มีการลงนามในวันที่ 15 พฤษภาคม”
หลังจากนั้น ก็กระจายข่าวออกไป ทำให้เกิดการสอบถามกัน จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าผู้ลงนามฝ่ายไทยก็ไม่ได้มีอำนาจในการอนุมัติหรืออนุญาตให้ศึกษาเรื่องโครงการคลองกระ ในขณะที่ผู้ลงนามฝ่ายจีนก็เป็นเอกชนที่ไม่ปรากฏฐานะชัดเจนว่าเป็นใคร เพียงแต่อ้างว่ามีเส้นสายในปักกิ่ง ซึ่งอ้างกันมากมายในขณะนี้ จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลจีนและรัฐบาลไทยจะต้องจับตามอง
เพราะเรื่องคลองกระเป็นเรื่องผลประโยชน์แห่งชาติที่สำคัญมากเป็นเรื่องยุทธศาสตร์สำคัญทั้งทางเศรษฐกิจและความมั่นคง มีผลต่อสันติภาพและความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าทำให้ถูกต้อง ทำให้ดี ก็จะบังเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ และภูมิภาคนี้อย่างใหญ่หลวง ซึ่งต้องระวังไม่ให้ผู้ไม่หวังดีนำไปหาประโยชน์ส่วนบุคคล ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติ
นายไพศาล ระบุว่า ขณะนี้มีขบวนการนายหน้าเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำธุรกิจบังหน้าหาประโยชน์ เช่นอ้างว่านำคณะนักลงทุนจีนมาลงทุนในประเทศไทย โดยเก็บเงินนักธุรกิจจีนเหล่านั้นในอัตราที่สูง แล้วอ้างว่าสามารถนำไปพบปะกับผู้นำในรัฐบาลหรือบุคคลสำคัญได้ แท้จริงแล้วเป็นเรื่องมาท่องเที่ยว กินข้าว ถ่ายรูป แล้วเอาไปลงหนังสือพิมพ์ หรือเอาไปอวดอ้างกัน ซึ่งมีลักษณะกลายพันธุ์มาจากทัวร์ศูนย์เหรียญนั่นเอง จนเกิดความรำคาญแก่คนในรัฐบาล จึงได้มีการป้องกันความวุ่นวายนี้
ด้วยมาตรการบางอย่าง ทำให้ขบวนการนายหน้าหน้าแตกไปหลายรายแล้ว ดังนั้นแม้ความจริงรัฐบาลจีนและนักธุรกิจจีนสนใจมาลงทุนในประเทศไทยซึ่งเป็นเรื่องที่ดีก็ต้องไม่เห่อเหิมจนกลายเป็นช่องว่างให้พวกทุจริตหาประโยชน์ได้
สำหรับสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย - จีน ยินดีที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และยินดีที่จะให้ความร่วมมือ พร้อมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้นักธุรกิจไทย - จีน ได้ร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ด้วย
*** จี้ บัวแก้ว โต้รายงานขุดคอคอดกระ
ก่อนหน้านั้น ช่วงเช้าวานนี้ (19 พ.ค.) เฟซบุ๊กส่วนตัว Noppanan Arunvongse Na Ayudhaya ของ ดร.นพนันท์ อรุณวงศ์ ณ อยุธยา นักวิชาการด้านการต่างประเทศ ตั้งข้อสังเกตต่อเรื่องนี้ว่า
หนังสือพิมพ์มติชนและสำนักข่าวประชาไท รายงานเรื่อง “สื่อแดนมังกรเสนอข่าว มีการร่วมลงนามขุด ′คอคอดกระ′ ในไทย ส่งผลประโยชน์ต่อการค้าจีน" โดยอ้างอิงจาก “Chinadailymail.com”
ทั้งๆ ที่ chinadailymail.com นั้นเป็นเพียงแค่ blog บน wordpress และไม่ใช่สื่อจีน เพียงแต่มีคำว่า china อยู่ในชื่อ และ chinadailymail.com นั้นอยู่ในกลุ่มเสนอข่าวต่อต้านรัฐบาลจีน
หลังจากตรวจสอบต่อไปจึงพบว่า chinadailymail.com นำข่าวมาจากกลุ่ม “จดหมายเหตุเทียนอันเหมิน” ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านจีนกลุ่มใหญ่เช่นกัน โดยทั้งสองแหล่งข่าวนั้นไม่มีรายละเอียดใดๆ นัก
แต่เพื่อความแน่ชัดจึงได้ตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไปยังสื่อทางการของจีนในประเทศจีนอีกชั้น และทำให้พบกับรายงานข่าวที่ตกตะลึง ซึ่งข่าวดังกล่าวนี้ไม่ปรากฎบนสื่อไทย แต่ปรากฏทั่วประเทศจีนตั้งแต่กลางดึกของเมื่อคืนวันที่ 19 พ.ค. 58 พร้อมภาพถ่ายหลักฐาน
โดยรายงานนั้นสรุปเนื้อหาใจความได้ดังนี้
“วันที่ 10 เมษายน ณ นครกวางเจา พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้บัญชาการกองทัพไทย ในฐานะประธาน Asia Union Group พร้อมด้วยอดีตรัฐมนตรีกลาโหมไทย ลงนามในบันทึกช่วยจำเรื่อง “ความร่วมมือขุดคอคอดกระ” กับ นายกั้วอี้ ประธานรัฐวิสาหกิจ China-Thailand Kra Infrastructure Investment & Development
โดยมีสักขีพยานเป็นข้าราชการระดับสูงของไทยทั้งทหาร ตำรวจ สำนักราชเลขาธิการ และกรมราชองครักษ์”
ขอแนะนำว่า กระทรวงการต่างประเทศ ควรรีบออกแถลงการณ์ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเร็วครับ
อ้างอิงจาก :
1. สื่อแดนมังกรเสนอข่าว มีการร่วมลงนามขุด ′คอคอดกระ′ ในไทย ส่งผลประโยชน์ต่อการค้าจีนhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1431990333
2. 中泰开建克拉运河 大陆可摆脱“马六甲困局”( http://news.china.com/domes…/10000159/20150519/19706566.html
3. 中泰开建克拉运河绕开马六甲海峡 可破美国封锁 http://world.huanqiu.com/hot/2015-05/6469034.html
4. China Begins Building Strategically Important Kra Canal in Thailand https://tiananmenstremendousachievements.wordpress.com/…/k…/
5. China announces strategically important Kra Isthmus Canal in Thailand (http://chinadailymail.com/…/china-announces-strategically )
***นักวิชาการ ระบุ รบ.จีนปฏิเสธ MOU
ต่อมา เวลา 16.30 น. (วันที่ 19 พ.ค.) ในเฟซบุ๊กของ “ดร.นพนันท์” ระบุว่า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ปฏิเสธรายงานข่าวก่อนหน้านี้ที่ว่า รัฐบาลจีนลงนามไม่เป็นความจริง และรัฐบาลจีนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการลงนามใน MOU ดังกล่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่งและอัครราชทูตที่ปรึกษาพาณิชย์ได้ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธว่า รัฐบาลไทยไม่มีความเกี่ยวข้องกับการลงนามใน MOU ดังกล่าวเช่นกัน
โดยก่อนหน้านี้ สื่อมวลชนจีนรายงานการแถลงข่าวของ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ และ China-Thailand Kra Infrastructure Investment & Development ซึ่งลงนามร่วมกันใน MOU โครงการขุดคอคอดกระที่นครกวางเจา
***เว็บไซต์หลายสำนักข่าวในไทย ทยอยปลดข่าว
มีรายงานว่า หลายเว็บไซต์มีการนำเสนอข่าวอ้างว่า สื่อฮ่องกงเผย ไทย - จีน เตรียมลงทุน 9 แสนล้านบาท ขุดคอคอดกระ โดยอ้างข่าวจากเว็บไซต์โอเรนทัล เดลี่ ของฮ่องกง เปิดเผยว่า จีน และ ไทย ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ในการขุดคอคอดกระ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนเส้นทางสายใหม่แห่งใหม่และเส้นทางสายใหม่ทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 ของจีน
ต่อมาเว็บไซต์หลายสำนักข่าวได้ปลดข่าวออกทันทีหลังจากมีกระแสข่าวว่าไม่เป็นความจริง เช่น เว็บไซต์ประชาไท ที่เสนอข่าวเมื่อเวลา 02.29 น. ได้ปลดข่าวออก โดยชี้แจงข่าวพาดหัว “สื่อจีนเสนอข่าว ไทยร่วมลงนามขุด “คอคอดกระ” ส่งผลประโยชน์ต่อการค้าจีน” เผยแพร่เมื่อเวลา 02.29 น. วันที่ 19 พ.ค. นั้น ต่อมา ประชาไทตรวจสอบพบว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นจริง จึงถอนข่าวดังกล่าวออก และขออภัยผู้อ่านมา ณ ที่นี้
ส่วนเว็บไซต์มติชนได้ ปลดข่าวดังกล่าวออก โดยนำเสนอข่าวบทสัมภาษณ์ของนายไพศาลแทน ขณะที่ วอยซ์ทีวี ก็ปลดข่าวออกจากเว็บไซต์เช่นกัน