xs
xsm
sm
md
lg

ถก"แลนด์มาร์คเจ้าพระยา" คาดออกแบบเสร็จต.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (19 พ.ค.) มีการประชุมคณะอนุกรรมการโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านการออกแบบและภูมิสถาปัตย์ เพื่อวางแนวทางการทำงานให้เป็นไปตาม มติคณะรักฐมนตรี โดยเบื้องต้นการออกแบบเป็นหน้าที่หลักของสำนักโยธาธิการ กทม. และต้องแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้ โดย พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานอนุกรรมการโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านการออกแบบ และภูมิสถาปัตย์ เป็นประธานการประชุม คณะอนุกรรมการฯครั้งแรก เพื่อกำหนดกรอบระยะเวลา และแผนปฏิบัติการด้านการออกแบบและภูมิสถาปัตย์ โดยมีหน่วยงานราชการ สมาคมวิชาชีพ ทั้งด้านวิศวกรรม และสถาปัตยกรรม ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
พล.อ. ศิริชัย ระบุว่าวันนี้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับทราบแนวทางตามมติครม. ในเรื่องการออกแบบให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ซึ่งเน้นเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน และถือเป็นแลนมาร์คของกทม. และประเทศไทย นอกจากนี้จะรองรับการสัญจรทางจักรยานด้วย ซึ่งการออกแบบ มอบเป็นหน้าที่หลักของสำนักโยธาธิการกทม. มีกำหนดให้แล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้
ทั้งนี้ ตามกรอบที่มีการเสนอไป คือ การสร้างเส้นทางจักรยานตลอดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานพระปิ่นเกล้าฯ ถึงสะพานพระราม 7 โดยต้องมีการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA การทำความเข้าใจกับประชาชนที่จะได้รับผลกระทบด้วย โดยที่ผ่านมาประชาชนเข้าใจ และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ส่วนภาครัฐ นอกจากเวนคืนที่ดินแล้ว จะต้องหาที่อยู่แห่งใหม่ให้ด้วยหรือไม่ คงต้องพูดคุยกันต่อไป
สำหรับโครงการนี้ เป็นไปตาม มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 9 ธ.ค.57 ที่รับทราบแนวคิด และการปฏิบัติเบื้องต้นของโครงการ และให้กระทรวงมหาดไทย ตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาความเหมาะสม และจัดทำรายละเอียดการออกแบบก่อสร้าง รวมทั้งเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการ และเสนอต่อคณะรัฐมนตรีไปอีกครั้งเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 58 จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการโครงการฯ โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานกรรมการอำนวยการ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการที่เป็นกลไกในการขับเคลื่อนโครงการอีก 4 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการด้านการบริหารโครงการ ด้านการออกแบบและภูมิสถาปัตย์ ด้านกฎหมาย และด้านการประชาสัมพันธ์ โดยมีกรอบเวลาดำเนินการตั้งแต่ ปี 2558-2560 ใช้งบประมาณ 14,000 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศต่อไปในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น