เลย - ผู้ว่าฯ เลยดันโครงการ “สี่เหลี่ยมวัฒนธรรมล้านช้าง” เสนอขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อให้เป็นจังหวัดตัวอย่างเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านรับการเปิดประชาคมอาเซียน (AEC)
นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดเผยว่า ด้วยศักยภาพของเมืองเลยจังหวัดชายแดนมีอาณาเขตติดต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีวัฒนธรรมล้านช้างที่ยังดำรงคงอยู่อย่างโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์สืบเนื่องมาอย่างยาวนานกว่า 400 ปี เช่น สำเนียงภาษาพูด ภูมิสถาปัตย์ สถาปัตยกรรม ประเพณี วัฒนธรรม
ล่าสุดทางจังหวัดได้เสนอขอรับการสนับสนุนโครงการ “สี่เหลี่ยมวัฒนธรรมล้านช้าง” ต่อนางกอบกาญจน์ วัฒนวรากูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อให้เป็นจังหวัดตัวอย่างเพื่อการท่องเที่ยว ที่รองรับการเปิดประชาคมอาเซียนของภูมิภาคนี้
ทั้งนี้ หลังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับโครงการดังกล่าว เพราะสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่จะให้ภูมิภาคต่างๆ ได้ผลักดันการท่องเที่ยวเพื่อรองรับอาเซียน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะนำโครงการนี้เสนอรัฐบาลต่อไป
นายจิโรจน์กล่าวอีกว่า หากรัฐบาลสนับสนุนแผนงานโครงการ “สี่เหลี่ยมวัฒนธรรมล้านช้าง” ที่จังหวัดเลยเสนอไป สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาในลำดับต้นๆ คือ การพัฒนาด้านการคมนาคมขนส่งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ โดยเฉพาะการยกสถานะสนามบินเลยให้เป็นสนามบินศุลกากร ซึ่งขณะนี้ทราบว่าปลัดกระทรวงการคลังได้ลงนามในร่างการยกสถานะท่าอากาศยานเลยให้เป็นสนามบินศุลกากรเรียบร้อยแล้ว รอเพียงการเสนอเข้าสู่การประชุม ครม.
ในด้านการลงทุนภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจะมีเส้นทางการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นใน 4 มุมมองจะเกิดความร่วมมือระหว่างประเทศ 2 ประเทศ จะมีการแก้ระบบบางอย่างที่เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยว เช่น การแก้ไขกฎระเบียบหนังสือผ่านแดนชั่วคราว (Border Pass) ที่จะต้องมีการแก้ไขเพื่อเพิ่มระยะเวลาในการข้ามวันได้
หากแก้ไขข้อกำหนดนี้ได้จะทำให้ภูมิภาคนี้มีศักยภาพขึ้นมาทันที สามารถพัฒนาเพื่อแข่งขันกับภูมิภาคได้อย่างแน่นอน เพราะจะเกิดการเชื่อมโยงการตลาดการท่องเที่ยวร่วมกันระหว่าง หลวงพระบาง (สปป.ลาว)-เลย-อุดรธานี-หนองคาย-หนองบัวลำภู ในลักษณะภาคีเครือข่าย สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการเตรียมพร้อมก้าวสู่การรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวในประชาคมอาเซียน
