ASTVผู้จัดการรายวัน - วงการเพลงครึ่งปีแรกเงียบ เหตุลูกค้าแห่ลงโฆษณาทีวีดิจิตอล เชื่อครึ่งปีหลังกระเตื้องด้วยภาครัฐอัดงบฟื้นประเทศ “อาร์เอส” บริหารความเสี่ยง ชู “วัน สต็อป เซอร์วิส” ลุยตลาดเพลงตั้งแต่ต้นน้ำ มั่นใจรายได้โต 30% ทะลุ 1,350 ล้านบาท
นายศุภชัย นิลวรรณ กรรมการผู้อำนวยการ ธุรกิจเพลง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจเพลงในสถานการณ์ปัจจุบันจะต้องมีการบริหารความเสี่ยงให้ดี จากเดิมที่ผู้ประกอบการจะมุ่งหารายได้ช่องทางใดช่องทางหนึ่ง อย่างในอดีตที่ผ่านมา อาจจะไม่สามารถอยู่ได้ในปัจจุบัน เห็นได้จากช่วงต้นปีที่ผ่านมาภาพรวมธุรกิจเพลงอาจจะไม่ค่อยดีมากนัก เนื่องจากลูกค้าหันไปลงโฆษณาในสื่อทีวีดิจิตอลเป็นหลัก แต่ในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้น จากการที่ภาครัฐเริ่มจัดสรรงบประมาณเข้ามาในระบบเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ในส่วนของอาร์เอส ปีนี้พร้อมที่จะดำเนินธุรกิจเพลงตามกลยุทธ์ที่เรียกว่า วันสต็อปเซอร์วิส ซึ่งได้เริ่มมาตั้งแต่ 1-2 ปีก่อน หลังจากนี้จะเน้นใช้กลยุทธ์ดังกล่าวควบคู่การใช้กลยุทธ์คัสโตเมอร์ โอเรียนเต็ด มุ่งเน้นความต้องการของลูกค้า สร้างคอนเทนต์ทำให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าในแง่คนฟังเพลงหรือลูกค้าในแง่พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่มุ่งเน้นใช้กลยุทธ์มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง เป็นหัวหอกทำตลาด
“การบริหารธุรกิจเพลงหลังจากนี้จะต้องทำแบบ 360 องศา โดยการต่อยอดสร้างรายได้ในทุกช่องทาง เริ่มตั้งแต่การเขียนเพลง ตัวศิลปิน อีเวนต์ และสื่อที่นำเสนอ ซึ่งได้เริ่มจากกลุ่มศิลปินอาร์สยามไปบ้างแล้ว เช่น ใบเตย อาร์สยาม กับกาแฟ เพียว ถือเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้เพลงมีรายได้เข้ามาตั้งแต่ยังไม่เริ่มออกอากาศ”
โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะมีการเปิดตัวเพลงใหม่กว่า 100 เพลง ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เช่น ใบเตย, ฟิล์ม รัฐภูมิ, จ๊ะ, กระแต, หวาย, ขนมจีน, ธามไท, เนโกะ จัมพ์, Thank You, Black jack, หลวงไก่, บ่าววี, จินตหรา พูนลาภ, กุ้ง สุธิราช ฯลฯรวมทั้งยังเตรียมจัดอีเวนต์ใหญ่หลายงาน เช่น สบายดีสัญจร, ลูกทุ่งเฟลติวัลปี 5
จากปัจจุบันอาร์เอสมีค่ายเพลงในเครือ 4 ค่าย คือ 1.กามิกาเซ่ ได้รับการพัฒนาเป็นมากกว่าค่ายเพลงเข้าสู่การเป็นเอนเตอร์เทนเมนท์ คอมมูนิตี้ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายวัยทีนอายุ 12-18 ปี 2.เยส มิวสิค ค่ายที่นำเสนองานเพลงหลากรูปแบบจากหลายศิลปิน เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายอายุ 17-40 ปี 3.การ์เด้นท์ มิวสิค ค่ายที่นำเสนอเพลงฟังสบายจากนักร้องที่มีความสามารถ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายอายุ 17-40 ปี และ 4.อาร์สยาม ค่ายเพลงลูกทุ่งวาไรตี้ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายอายุ 15-50 ปี
ขณะที่ธุรกิจสื่อที่ต่อยอดจากธุรกิจเพลง ประกอบด้วย คือ 1.ช่องสบายดีทีวี 2.ช่องยู แชนแนล 3.สบายดีเรดิโอ โดยตั้งเป้ารายได้รวมสิ้นปีนี้อยู่ที่ 1,350 ล้านบาท โต 30 % แบ่งสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจเพลง 40% ธุรกิจเกี่ยวเนื่องอย่างธุรกิจสื่อทั้งทีวี วิทยุ และธุรกิจอีเวนต์ 60% ขณะที่ปีก่อนโตเพียง 15% หรือมีรายได้ที่ 1,035 ล้านบาท
นายศุภชัย นิลวรรณ กรรมการผู้อำนวยการ ธุรกิจเพลง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจเพลงในสถานการณ์ปัจจุบันจะต้องมีการบริหารความเสี่ยงให้ดี จากเดิมที่ผู้ประกอบการจะมุ่งหารายได้ช่องทางใดช่องทางหนึ่ง อย่างในอดีตที่ผ่านมา อาจจะไม่สามารถอยู่ได้ในปัจจุบัน เห็นได้จากช่วงต้นปีที่ผ่านมาภาพรวมธุรกิจเพลงอาจจะไม่ค่อยดีมากนัก เนื่องจากลูกค้าหันไปลงโฆษณาในสื่อทีวีดิจิตอลเป็นหลัก แต่ในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้น จากการที่ภาครัฐเริ่มจัดสรรงบประมาณเข้ามาในระบบเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ในส่วนของอาร์เอส ปีนี้พร้อมที่จะดำเนินธุรกิจเพลงตามกลยุทธ์ที่เรียกว่า วันสต็อปเซอร์วิส ซึ่งได้เริ่มมาตั้งแต่ 1-2 ปีก่อน หลังจากนี้จะเน้นใช้กลยุทธ์ดังกล่าวควบคู่การใช้กลยุทธ์คัสโตเมอร์ โอเรียนเต็ด มุ่งเน้นความต้องการของลูกค้า สร้างคอนเทนต์ทำให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าในแง่คนฟังเพลงหรือลูกค้าในแง่พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่มุ่งเน้นใช้กลยุทธ์มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง เป็นหัวหอกทำตลาด
“การบริหารธุรกิจเพลงหลังจากนี้จะต้องทำแบบ 360 องศา โดยการต่อยอดสร้างรายได้ในทุกช่องทาง เริ่มตั้งแต่การเขียนเพลง ตัวศิลปิน อีเวนต์ และสื่อที่นำเสนอ ซึ่งได้เริ่มจากกลุ่มศิลปินอาร์สยามไปบ้างแล้ว เช่น ใบเตย อาร์สยาม กับกาแฟ เพียว ถือเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้เพลงมีรายได้เข้ามาตั้งแต่ยังไม่เริ่มออกอากาศ”
โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะมีการเปิดตัวเพลงใหม่กว่า 100 เพลง ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เช่น ใบเตย, ฟิล์ม รัฐภูมิ, จ๊ะ, กระแต, หวาย, ขนมจีน, ธามไท, เนโกะ จัมพ์, Thank You, Black jack, หลวงไก่, บ่าววี, จินตหรา พูนลาภ, กุ้ง สุธิราช ฯลฯรวมทั้งยังเตรียมจัดอีเวนต์ใหญ่หลายงาน เช่น สบายดีสัญจร, ลูกทุ่งเฟลติวัลปี 5
จากปัจจุบันอาร์เอสมีค่ายเพลงในเครือ 4 ค่าย คือ 1.กามิกาเซ่ ได้รับการพัฒนาเป็นมากกว่าค่ายเพลงเข้าสู่การเป็นเอนเตอร์เทนเมนท์ คอมมูนิตี้ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายวัยทีนอายุ 12-18 ปี 2.เยส มิวสิค ค่ายที่นำเสนองานเพลงหลากรูปแบบจากหลายศิลปิน เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายอายุ 17-40 ปี 3.การ์เด้นท์ มิวสิค ค่ายที่นำเสนอเพลงฟังสบายจากนักร้องที่มีความสามารถ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายอายุ 17-40 ปี และ 4.อาร์สยาม ค่ายเพลงลูกทุ่งวาไรตี้ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายอายุ 15-50 ปี
ขณะที่ธุรกิจสื่อที่ต่อยอดจากธุรกิจเพลง ประกอบด้วย คือ 1.ช่องสบายดีทีวี 2.ช่องยู แชนแนล 3.สบายดีเรดิโอ โดยตั้งเป้ารายได้รวมสิ้นปีนี้อยู่ที่ 1,350 ล้านบาท โต 30 % แบ่งสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจเพลง 40% ธุรกิจเกี่ยวเนื่องอย่างธุรกิจสื่อทั้งทีวี วิทยุ และธุรกิจอีเวนต์ 60% ขณะที่ปีก่อนโตเพียง 15% หรือมีรายได้ที่ 1,035 ล้านบาท