**โผไม่พลิก “เสธ.แดง”พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 น้องเลิฟ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผงาดนั่งประธานกรรมการ ในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ดกองสลากฯ) ชุดใหม่ หลังมีกระแสข่าวหนาหูออกมาตลอด ตั้งแต่วันที่ “ดร.อู้”สมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เพื่อนซี้ วปอ.นายกฯ ที่ถูกส่งไปสังคายนาคนแรกยอมยกธงขาว ต่อสู้ในดินแดนสนธยาแห่งนี้ไม่ไหว เพราะเสือหมอบแมวเซามันเยอะ จนต้องเรียกใช้บริการทหารแทน
งานนี้ไม่ได้มาเดี่ยว “เสธ.แดง”ยังควงเกลอรัก เพื่อนนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 20 (ตท.20) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มาร่วมกันล้างบางมาเฟียในกองสลากฯ ด้วยกัน เช่นเดียวกับ พ.ท.หนุน ศันสนาคม พันโทอดีตผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ที่รู้จักมักจี่กับ “เสธ.แดง”มานานนม ก็โผล่มาร่วมงานกันอีกครั้ง ขณะที่พลเรือนหนึ่งเดียว ชื่อนี้ไม่เซอร์ไพร์สเท่าไหร่ นักวิชาการขาประจำด้านเศรษฐศาสตร์ ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้ว ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
เรียกว่า เป็นการยกแผงเก่าออกไป แล้วยกแผงใหม่เข้ามา เปลี่ยนทีมงาน โดยใช้บริการทหารเป็นหลักใหญ่ในการฟาดฟันกับเหล่ามาเฟีย ที่ยึดครองหากินกับกองสลากฯ มานานนม รัฐบาลกี่ชุดต่อกี่ชุด ผู้บริหารกี่คน ไม่มีใครกล้างัดข้อ เพราะสุดท้ายพ่ายยับตลอด จนสุดท้ายต้องกลายพันธุ์ เป็นเนื้อเดียวกันอยู่ร่ำไป แรงไม่แรง ขนาด“ดร.อู้”ข้าราชการรุ่นใหม่ไฟแรง สายตรง“บิ๊กตู่”ยังกระอัก
แต่งานนี้มิวายก็ถูกอดมองไม่ได้เหมือนกัน เพราะทหารในองคาพยพ “บิ๊กตู่”มีเยอะแยะ เหตุไฉนจึงเลือก “เสธ.แดง”ลูกชาย“บิ๊กจ๊อด”พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตประธานคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) จนถูกตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการปูนบำเหน็จให้กับน้องเลิฟคนนี้ หลังเป็นมือเป็นไม้ ช่วยงานสำคัญมาหลายงาน โดยเฉพาะการยึดอำนาจ 22 พฤษภาคม 2557 ตอนเป็น ผบ.พล.1 รอ. ซึ่งคุมกำลังรัฐประหาร หรือ เมื่อครั้งการควบคุมสถานการณ์การชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553 จนถูกเสื้อแดงกาหัวเป็นศัตรูลำดับต้นๆ
**ประธานบอร์ดกองสลากฯ ไม่ใช่เก้าอี้เล็กๆ นั่งอยู่บนผลประโยชน์มหาศาล พวกมูมมามทั้งหลายไขว่คว้าอยากจะมานั่งทั้งนั้น การเลือก “เสธ.แดง”น่าจะหวังใช้บริหารทหารที่รู้ทาง รู้ทัน เหล่ามาเฟียผู้มีอิทธิพลดีมาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจ หลังเคยมอบงานใหญ่ไปแล้วหนึ่งหน ตอนให้เข้าไปจัดระเบียบวินมอเตอร์ไซด์ จน “พี่ตู่”ชอบอกชอบใจในน้องรักคนนี้
ทว่าเปิดตัวดี ไม่สามารถการันตีว่างานจะออกมาดีด้วย อย่างที่รู้กัน กองสลากฯไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้ ต่อให้เป็นทหารก็ตาม ขนาด“บิ๊กตู่” ประกาศจะลดราคาสลากให้เหลือ 80 บาท เมื่อปีที่แล้ว แรกๆก็ทำท่าจะไปรอด สุดท้ายกลับมาอยู่ใบละ 110 –120 บาทเหมือนเดิม ยี่ปั๊วยังยืนยิ้มสลอน โกยเงินเข้ากระเป๋ากันสบายใจ ไม่ได้เกรงกลัวบารมีอะไรของรัฐบาลสีลายพรางเลยแม้แต่น้อย จากนี้จึงต้องดูว่า หลังจากเป็น“เสธ.แดง”กุมบังเหียนแล้วจะมีเอฟเฟ็กต์อะไรในวงการ แล้วตัวประธานบอร์ดคนใหม่ จะมีไอเดียอะไรมาสังคายนา
แผนการล้างบางพวกมาเฟียในกองสลากฯ จะเป็นอย่างไรเป็นแนวทางที่ต้องรอฟังว่า จะใหม่เอี่ยมอ่องหรือวิธีเดิมๆ นำมาเล่นแร่แปรธาตุกันใหม่ โดยเฉพาะการตั้ง“กองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม” เพื่อเอามาใช้ส่งเสริมการศึกษา และการวิจัยปัญหาเกี่ยวกับการพนัน สร้างการรู้เท่าทัน เพื่อป้องกันการติดการพนัน เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการพนัน แก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล แค่ออกมาแปบเดียวยังถูกแซวว่า ยกเหตุผลเสียสวยหรู แต่คลับคล้ายคลับคลากับแนวคิดนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ที่คิดทำหวยบนดิน ราวกับไปลอกข้อสอบเข้ามาเปลี่ยนหัว เปลี่ยนหาง
แนวทางมันกว้าง ครอบจักรวาล จนมองไม่เห็นว่าวิธีการจะเป็นอย่างไร แล้วสุดท้ายก็จะกลับไปสู่อีหรอบเดิมๆ วังวนธุรกิจการค้า ยังเป็นพวกขาใหญ่ ที่ได้เปรียบกว่าพวกตัวเล็กตัวน้อย ผูกขาดกินเรียบ แค่เปลี่ยนตัวละครเล่น ซึ่ง “เสธ.แดง” ที่ตั้งท่าจะแถลงรายละเอียดสัปดาห์หน้า คงต้องเคาะมาเลยว่า จะแก้ จะล้างบางกันอย่างไร ไม่เช่นนั้นจะถูกมองว่าเป็นการคั่นเวลาให้ทหารมาคุมเชิง ยืนแอคอาร์ตไปวันๆ แต่ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน พอรัฐบาลใหม่มา ก็กลับสู่สภาวะเดิมๆ เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ อีลุ่ยฉุยแฉก หรือไม่ก็รื้อระบบที่ทำไว้ไปเลย
** จะทำอย่างไรให้ราคา 80 บาท มันอยู่ที่ราคานี้ตลอด ไม่ใช่วาบหวิวเฉพาะช่วงที่มีการตีปี๊บ เอาจริงเอาจัง แต่พอผ่านไปสักระยะ ก็ค่อยๆ ขยับขึ้นสู่จุดเดิม ลำพังมายืนถือกระบองขู่ ก็ทำให้กลัวแค่ตอนนี้ที่มีกระบอง พอละกระบอง หมดอำนาจ เสือหมอบแมวเซา ก็กลับมาผงาด อย่างที่เห็นตัวอย่างอยู่ตำตาเมื่อปีที่แล้ว กลัวกันซะที่ไหน
นอกจากแนวทางที่ชัดเจนต้องกำหนดเวลาให้ชัดไปเลยว่า จะทำเมื่อไร ทำถาวร มีกติกาที่กดไว้ระยะยาว ไม่ใช่ประกาศท้ารบแต่บอกไม่ได้ว่าเมื่อไร เพราะเรื่องนี้มันเอาเปรียบคนยากคนจนมานานนม เวลาจะแก้ก็ติดปัญหาเป็นยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก หาว่าทำร้ายคนจน แบบนั้นคงไม่ได้ มันอะลุ้มอล่วยกันมานานพอมาแล้ว ยังมีช่องทางอื่นที่แก้ได้ โดยไม่ใช่มาขายเกินราคาโขกสับกันแบบนี้
ต้องเปิดเผยมาตรการป้องกันและปราบปรามที่ชัดเจน จะทำให้ราคาลดลงมาอย่างไร จะลงโทษพวกที่ฉวยโอกาสอย่างไร ถึงจะเกรงกลัวไม่กล้าทำ และไม่กล้าเข้ามาหากิน เปลี่ยนดินแดนสนธยาแห่งนี้ให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์เสียที
มีคนรอดูเยอะ และอยากเห็นการแก้ไขปัญหาที่เด็ดขาด ยิ่ง“บิ๊กตู่”แต่งตั้งทหารเข้ามา เลือกคนที่มีการอวยกันว่า ใจถึง พึ่งได้ กล้าได้ กล้าเสีย กล้าท้าชนกับพวกมาเฟีย พวกมีอิทธิพลอย่าง “เสธ.แดง”มาแล้ว ประชาชนยิ่งคาดหวังสูง รอดูเมื่อไรมันจะสำเร็จสักที ไม่มียุคไหนโอกาสดีเท่านี้อีกแล้ว ถ้าไม่ทำ คงต้องใช้คำว่ายิ่งกว่าเสียของเสียอีก
**อย่าทำให้คนมองว่า การตั้งน้องรักตัวเองเข้ามารอบนี้ แค่ถือปืนคุมเชิง เป้าหมายจริงๆ คือ หวังเพียงปูนบำเหน็จให้นายทหารที่ช่วยงานเหมือนกับการตั้งบอร์ดอื่นๆ ก่อนหน้านี้
งานนี้ไม่ได้มาเดี่ยว “เสธ.แดง”ยังควงเกลอรัก เพื่อนนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 20 (ตท.20) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มาร่วมกันล้างบางมาเฟียในกองสลากฯ ด้วยกัน เช่นเดียวกับ พ.ท.หนุน ศันสนาคม พันโทอดีตผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ที่รู้จักมักจี่กับ “เสธ.แดง”มานานนม ก็โผล่มาร่วมงานกันอีกครั้ง ขณะที่พลเรือนหนึ่งเดียว ชื่อนี้ไม่เซอร์ไพร์สเท่าไหร่ นักวิชาการขาประจำด้านเศรษฐศาสตร์ ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้ว ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
เรียกว่า เป็นการยกแผงเก่าออกไป แล้วยกแผงใหม่เข้ามา เปลี่ยนทีมงาน โดยใช้บริการทหารเป็นหลักใหญ่ในการฟาดฟันกับเหล่ามาเฟีย ที่ยึดครองหากินกับกองสลากฯ มานานนม รัฐบาลกี่ชุดต่อกี่ชุด ผู้บริหารกี่คน ไม่มีใครกล้างัดข้อ เพราะสุดท้ายพ่ายยับตลอด จนสุดท้ายต้องกลายพันธุ์ เป็นเนื้อเดียวกันอยู่ร่ำไป แรงไม่แรง ขนาด“ดร.อู้”ข้าราชการรุ่นใหม่ไฟแรง สายตรง“บิ๊กตู่”ยังกระอัก
แต่งานนี้มิวายก็ถูกอดมองไม่ได้เหมือนกัน เพราะทหารในองคาพยพ “บิ๊กตู่”มีเยอะแยะ เหตุไฉนจึงเลือก “เสธ.แดง”ลูกชาย“บิ๊กจ๊อด”พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตประธานคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) จนถูกตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการปูนบำเหน็จให้กับน้องเลิฟคนนี้ หลังเป็นมือเป็นไม้ ช่วยงานสำคัญมาหลายงาน โดยเฉพาะการยึดอำนาจ 22 พฤษภาคม 2557 ตอนเป็น ผบ.พล.1 รอ. ซึ่งคุมกำลังรัฐประหาร หรือ เมื่อครั้งการควบคุมสถานการณ์การชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553 จนถูกเสื้อแดงกาหัวเป็นศัตรูลำดับต้นๆ
**ประธานบอร์ดกองสลากฯ ไม่ใช่เก้าอี้เล็กๆ นั่งอยู่บนผลประโยชน์มหาศาล พวกมูมมามทั้งหลายไขว่คว้าอยากจะมานั่งทั้งนั้น การเลือก “เสธ.แดง”น่าจะหวังใช้บริหารทหารที่รู้ทาง รู้ทัน เหล่ามาเฟียผู้มีอิทธิพลดีมาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจ หลังเคยมอบงานใหญ่ไปแล้วหนึ่งหน ตอนให้เข้าไปจัดระเบียบวินมอเตอร์ไซด์ จน “พี่ตู่”ชอบอกชอบใจในน้องรักคนนี้
ทว่าเปิดตัวดี ไม่สามารถการันตีว่างานจะออกมาดีด้วย อย่างที่รู้กัน กองสลากฯไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้ ต่อให้เป็นทหารก็ตาม ขนาด“บิ๊กตู่” ประกาศจะลดราคาสลากให้เหลือ 80 บาท เมื่อปีที่แล้ว แรกๆก็ทำท่าจะไปรอด สุดท้ายกลับมาอยู่ใบละ 110 –120 บาทเหมือนเดิม ยี่ปั๊วยังยืนยิ้มสลอน โกยเงินเข้ากระเป๋ากันสบายใจ ไม่ได้เกรงกลัวบารมีอะไรของรัฐบาลสีลายพรางเลยแม้แต่น้อย จากนี้จึงต้องดูว่า หลังจากเป็น“เสธ.แดง”กุมบังเหียนแล้วจะมีเอฟเฟ็กต์อะไรในวงการ แล้วตัวประธานบอร์ดคนใหม่ จะมีไอเดียอะไรมาสังคายนา
แผนการล้างบางพวกมาเฟียในกองสลากฯ จะเป็นอย่างไรเป็นแนวทางที่ต้องรอฟังว่า จะใหม่เอี่ยมอ่องหรือวิธีเดิมๆ นำมาเล่นแร่แปรธาตุกันใหม่ โดยเฉพาะการตั้ง“กองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม” เพื่อเอามาใช้ส่งเสริมการศึกษา และการวิจัยปัญหาเกี่ยวกับการพนัน สร้างการรู้เท่าทัน เพื่อป้องกันการติดการพนัน เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการพนัน แก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล แค่ออกมาแปบเดียวยังถูกแซวว่า ยกเหตุผลเสียสวยหรู แต่คลับคล้ายคลับคลากับแนวคิดนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ที่คิดทำหวยบนดิน ราวกับไปลอกข้อสอบเข้ามาเปลี่ยนหัว เปลี่ยนหาง
แนวทางมันกว้าง ครอบจักรวาล จนมองไม่เห็นว่าวิธีการจะเป็นอย่างไร แล้วสุดท้ายก็จะกลับไปสู่อีหรอบเดิมๆ วังวนธุรกิจการค้า ยังเป็นพวกขาใหญ่ ที่ได้เปรียบกว่าพวกตัวเล็กตัวน้อย ผูกขาดกินเรียบ แค่เปลี่ยนตัวละครเล่น ซึ่ง “เสธ.แดง” ที่ตั้งท่าจะแถลงรายละเอียดสัปดาห์หน้า คงต้องเคาะมาเลยว่า จะแก้ จะล้างบางกันอย่างไร ไม่เช่นนั้นจะถูกมองว่าเป็นการคั่นเวลาให้ทหารมาคุมเชิง ยืนแอคอาร์ตไปวันๆ แต่ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน พอรัฐบาลใหม่มา ก็กลับสู่สภาวะเดิมๆ เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ อีลุ่ยฉุยแฉก หรือไม่ก็รื้อระบบที่ทำไว้ไปเลย
** จะทำอย่างไรให้ราคา 80 บาท มันอยู่ที่ราคานี้ตลอด ไม่ใช่วาบหวิวเฉพาะช่วงที่มีการตีปี๊บ เอาจริงเอาจัง แต่พอผ่านไปสักระยะ ก็ค่อยๆ ขยับขึ้นสู่จุดเดิม ลำพังมายืนถือกระบองขู่ ก็ทำให้กลัวแค่ตอนนี้ที่มีกระบอง พอละกระบอง หมดอำนาจ เสือหมอบแมวเซา ก็กลับมาผงาด อย่างที่เห็นตัวอย่างอยู่ตำตาเมื่อปีที่แล้ว กลัวกันซะที่ไหน
นอกจากแนวทางที่ชัดเจนต้องกำหนดเวลาให้ชัดไปเลยว่า จะทำเมื่อไร ทำถาวร มีกติกาที่กดไว้ระยะยาว ไม่ใช่ประกาศท้ารบแต่บอกไม่ได้ว่าเมื่อไร เพราะเรื่องนี้มันเอาเปรียบคนยากคนจนมานานนม เวลาจะแก้ก็ติดปัญหาเป็นยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก หาว่าทำร้ายคนจน แบบนั้นคงไม่ได้ มันอะลุ้มอล่วยกันมานานพอมาแล้ว ยังมีช่องทางอื่นที่แก้ได้ โดยไม่ใช่มาขายเกินราคาโขกสับกันแบบนี้
ต้องเปิดเผยมาตรการป้องกันและปราบปรามที่ชัดเจน จะทำให้ราคาลดลงมาอย่างไร จะลงโทษพวกที่ฉวยโอกาสอย่างไร ถึงจะเกรงกลัวไม่กล้าทำ และไม่กล้าเข้ามาหากิน เปลี่ยนดินแดนสนธยาแห่งนี้ให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์เสียที
มีคนรอดูเยอะ และอยากเห็นการแก้ไขปัญหาที่เด็ดขาด ยิ่ง“บิ๊กตู่”แต่งตั้งทหารเข้ามา เลือกคนที่มีการอวยกันว่า ใจถึง พึ่งได้ กล้าได้ กล้าเสีย กล้าท้าชนกับพวกมาเฟีย พวกมีอิทธิพลอย่าง “เสธ.แดง”มาแล้ว ประชาชนยิ่งคาดหวังสูง รอดูเมื่อไรมันจะสำเร็จสักที ไม่มียุคไหนโอกาสดีเท่านี้อีกแล้ว ถ้าไม่ทำ คงต้องใช้คำว่ายิ่งกว่าเสียของเสียอีก
**อย่าทำให้คนมองว่า การตั้งน้องรักตัวเองเข้ามารอบนี้ แค่ถือปืนคุมเชิง เป้าหมายจริงๆ คือ หวังเพียงปูนบำเหน็จให้นายทหารที่ช่วยงานเหมือนกับการตั้งบอร์ดอื่นๆ ก่อนหน้านี้