ASTVผู้จัดการรายวัน – ผ่าโลกโซเชียล ปี58 เฟซบุ๊คครองใจคนไทยสูงสุด คนใช้งานร่วม 35 ล้านคน เจาะลึกวัยรุ่นหมกมุ่นโลกออนไลน์มากสุด ตะลึงเพศที่สามเปิดเผยตัวในโลกออนไลน์สูงขึ้น ภาคธุรกิจกลุ่มสถาบันการเงินใช้เฟซบุ๊คสร้างกระแสและเพิ่มยอดขายสูงสุด จับตาไลฟ์บรอดคาส “Vine” โซเชียลตัวใหม่มาแรง ส่ง “Social ALARM” เคล็ดไม่ลับทะลวงโลกออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ
นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โซเชียล อิงค์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการเข้าถึงในการใช้สื่อดิจิตอลในประเทศไทยในปี 2558 พบว่า จากจำนวนประชากรทั้งหมด 64.9 ล้านคน มีผู้เข้าถึงและใช้งานอินเทอร์เน็ต 35 ล้านคน เพิ่มขึ้น 47% และมีผู้เข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดีย 34 ล้านคน เติบโตขึ้น 42%
ขณะที่จำนวนมือถือที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มีกว่า 97 ล้านเครื่อง โตกว่าปีก่อน 15% โดยมีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียผ่านทางมือถือจริง ราว 30 ล้านเครื่อง โตจากปีก่อน 36%
ทั้งนี้เมื่อเจอะลึกลงไปในสื่อโซเชียลยอดนิยมของคนไทยมี 5 สื่อที่นิยมใช้งานมากสุด คือ 1.เฟซบุ๊ค 35 ล้านคน โตขึ้น 34% 2.อินสตาแกรม 2 ล้านคน โตขึ้น 172% โดยมีการโพสต์รูปกว่า 99 ล้านรูป และวิดีโอ 7 ล้านคลิป 3. ไลน์ 33 ล้านคน โตขึ้น 38% 4.ทวิตเตอร์ 4.5 ล้านคน แอกทีฟ 3.5 ล้านคน และ 5.ยูทูป 3.3 ล้านคลิป เฉลี่ยมีการโพสต์คลิป 377 คลิปต่อชั่วโมง
ขณะที่เฟซบุ๊คเป็นสื่อโซเชียลที่มีความนิยมและใช้งานมากสุด โดยพบว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีผู้ใช้งานรวมกว่า 1,390 ล้านคน ประเทศไทยติดอันดับ 9 ที่มีผู้ใช้งาน 35 ล้านคน คิดเป็น 51% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ โดยอันดับหนึ่งคือ อเมริกา มีผู้ใช้งานกว่า 190 ล้านคน คิดเป็น 59% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ขณะที่สิงคโปร์ มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊คมากสุดเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศ หรือมีผู้ใช้งานกว่า 5.5 ล้านคน คิดเป็น 98% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ
โดยเฉพาะในประเทศไทย มีจำนวนผู้ใช้งานเฟซบุ๊คเพิ่มขึ้น 34.62%เทียบกับปีที่ผ่านมา และ 5 เมืองหลักที่มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊คสูงสุด คือ 1. กรุงเทพฯ 20 ล้านคน 2. เชียงใหม่ 9.8 แสนคน 3. นครราชสีมา 7.8 แสนคน 4. นนทบุรี 6 แสนคน และ 5.ชลบุรี 5.4 แสนคน โดยในจำนวนผู้ใช้งานทั้งหมด ระบุสถานะอย่างหลากหลาย
อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่า มีจำนวนผู้ชายที่รักผู้ชายด้วยกันกว่า 3.3 แสนคน และมีกลุ่มผู้หญิงที่รักผู้หญิงด้วยกันกว่า 6.62 แสนคน หรือรวมแล้วมีจำนวนกลุ่มเพศที่สามกว่า 9 แสนถึง 1 ล้านคน คิดเป็น 2.83% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งกลุ่มดังกล่าวที่นิยมใช้งานเฟซบุ๊คมากสุด อายุระหว่าง 19-20 ปี จากตัวเลขที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นถึงสถานการณ์ว่าอีก 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีเพศที่สามที่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุจำนวนมาก
เมื่อเทียบจำนวนผู้ใช้งานเฟซบุ๊คทั้งหมด ยังพบด้วยว่า คนไทยอายุ 19 ปี เป็นกลุ่มที่ใช้งานเฟซบุ๊คมากที่สุด ขณะที่คนกรุงเทพฯอายุ 24-28 ปี เป็นกลุ่มที่ใช้งานเฟซบุ๊คมากสุด ส่วนในต่างจังหวัดเป็นกลุ่มอายุ 18-20 ปี ที่ใช้งานเฟซบุ๊คมากที่สุด
ขณะที่ช่วงเวลาการโพสต์บนเฟซบุ๊คจะเป็นช่วงเวลา 10.00-15.00 น. และเมื่อรวมการใช้สื่อโซเชียลอื่นๆ อย่าง อินสตาแกรม ที่มีการโพสต์มากสุดตั้งแต่ 21.00 น.เป็นต้นไป รวมถึงทวิตเตอร์มีการแชร์มากสุดอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนไทยเป็นกลุ่มที่มีการเล่นโซเชียลมีเดียตลอดทั้งวัน
ส่วนในแง่ของภาคธุรกิจทั้งกลุ่มอาหาร, เครื่องดื่ม,ยานยนต์, สื่อสาร/ไอที และสถาบันการเงิน นิยมเลือกใช้เฟสบุคเพื่อการประชาสัมพันธ์และเพิ่มยอดขายมากที่สุด ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มสถาบันการเงิน เป็นกลุ่มที่โพสต์คอนเทนต์ลงบนเฟซบุ๊คแล้วมีผู้แชร์ต่อสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน 6% รองลงมาคือกลุ่ม เครื่องดื่ม 4% ขณะที่ยานยนต์และอาหารมีการแชร์ต่อ 3% ส่วนเครื่องดื่มที่มีการแชร์สูงนั้น มองว่าจากแคมเปญชิงรางวัลของกลุ่ม ชาเขียว นั่นเอง
อย่างไรก็ตามจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น และการพัฒนาของ4G ส่งผลให้ทิศทางของสื่อโซเชียลกำลังก้าวเข้าสู่โลกของไลฟ์บรอดคแคส ในเรื่องของการถ่ายทอดสด หรือ ไลฟ์ วิดีโอ แชร์ริ่ง ซึ่งมีความเป็นเรียลไทม์ และสตรีมมิ่ง มากยิ่งขึ้น ซึ่งในขณะนี้มีโปรแกรมโซเชียลที่เป็นลักษณะของไลฟ์บรอดคแคสแล้วหลายตัว เช่น Periscope by Twitter, Meerat และVine โดยเฉพาะ Vine กำลังเริ่มเป็นที่รู้จักของคนไทยและเริ่มมีคนดังที่เป็นคนธรรมดาแต่มีคนกดติดตามสูงมาก ถือเป็นโปรแกรมที่น่าจับตาในปี2558 นี้
นายภาวุธ กล่าวสรุปว่า จากตัวเลขของผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์โซเชียลมีเดียที่จะทำให้ภาคธุรกิจประสบความสำเร็จ คือ Social ALARM ประกอบด้วย 1.A-Analysis Market การทำการวิเคราะห์ตลาด ว่าตลาดในภาพรวมนั้นเป็นอย่างไร 2.L-Listening Insight ฟังเสียงผู้บริโภคบนโซเชียลมีเดียเพื่อหาความต้องการที่แท้จริง 3.A-Action วิธีการนำไปปฏิบัติ มีวิธีการอย่างไรเพื่อให้ประสบความสำเร็จตามที่วางแผนไว้ 4.R-Real time Trends ต้องอยู่ในกระแสขณะนั้น ไม่ล้าสมัย และ 5.M-Measurement การประเมินผลที่ถูกต้อง สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกิจกรรม
นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โซเชียล อิงค์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการเข้าถึงในการใช้สื่อดิจิตอลในประเทศไทยในปี 2558 พบว่า จากจำนวนประชากรทั้งหมด 64.9 ล้านคน มีผู้เข้าถึงและใช้งานอินเทอร์เน็ต 35 ล้านคน เพิ่มขึ้น 47% และมีผู้เข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดีย 34 ล้านคน เติบโตขึ้น 42%
ขณะที่จำนวนมือถือที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มีกว่า 97 ล้านเครื่อง โตกว่าปีก่อน 15% โดยมีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียผ่านทางมือถือจริง ราว 30 ล้านเครื่อง โตจากปีก่อน 36%
ทั้งนี้เมื่อเจอะลึกลงไปในสื่อโซเชียลยอดนิยมของคนไทยมี 5 สื่อที่นิยมใช้งานมากสุด คือ 1.เฟซบุ๊ค 35 ล้านคน โตขึ้น 34% 2.อินสตาแกรม 2 ล้านคน โตขึ้น 172% โดยมีการโพสต์รูปกว่า 99 ล้านรูป และวิดีโอ 7 ล้านคลิป 3. ไลน์ 33 ล้านคน โตขึ้น 38% 4.ทวิตเตอร์ 4.5 ล้านคน แอกทีฟ 3.5 ล้านคน และ 5.ยูทูป 3.3 ล้านคลิป เฉลี่ยมีการโพสต์คลิป 377 คลิปต่อชั่วโมง
ขณะที่เฟซบุ๊คเป็นสื่อโซเชียลที่มีความนิยมและใช้งานมากสุด โดยพบว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีผู้ใช้งานรวมกว่า 1,390 ล้านคน ประเทศไทยติดอันดับ 9 ที่มีผู้ใช้งาน 35 ล้านคน คิดเป็น 51% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ โดยอันดับหนึ่งคือ อเมริกา มีผู้ใช้งานกว่า 190 ล้านคน คิดเป็น 59% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ขณะที่สิงคโปร์ มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊คมากสุดเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศ หรือมีผู้ใช้งานกว่า 5.5 ล้านคน คิดเป็น 98% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ
โดยเฉพาะในประเทศไทย มีจำนวนผู้ใช้งานเฟซบุ๊คเพิ่มขึ้น 34.62%เทียบกับปีที่ผ่านมา และ 5 เมืองหลักที่มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊คสูงสุด คือ 1. กรุงเทพฯ 20 ล้านคน 2. เชียงใหม่ 9.8 แสนคน 3. นครราชสีมา 7.8 แสนคน 4. นนทบุรี 6 แสนคน และ 5.ชลบุรี 5.4 แสนคน โดยในจำนวนผู้ใช้งานทั้งหมด ระบุสถานะอย่างหลากหลาย
อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่า มีจำนวนผู้ชายที่รักผู้ชายด้วยกันกว่า 3.3 แสนคน และมีกลุ่มผู้หญิงที่รักผู้หญิงด้วยกันกว่า 6.62 แสนคน หรือรวมแล้วมีจำนวนกลุ่มเพศที่สามกว่า 9 แสนถึง 1 ล้านคน คิดเป็น 2.83% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งกลุ่มดังกล่าวที่นิยมใช้งานเฟซบุ๊คมากสุด อายุระหว่าง 19-20 ปี จากตัวเลขที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นถึงสถานการณ์ว่าอีก 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีเพศที่สามที่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุจำนวนมาก
เมื่อเทียบจำนวนผู้ใช้งานเฟซบุ๊คทั้งหมด ยังพบด้วยว่า คนไทยอายุ 19 ปี เป็นกลุ่มที่ใช้งานเฟซบุ๊คมากที่สุด ขณะที่คนกรุงเทพฯอายุ 24-28 ปี เป็นกลุ่มที่ใช้งานเฟซบุ๊คมากสุด ส่วนในต่างจังหวัดเป็นกลุ่มอายุ 18-20 ปี ที่ใช้งานเฟซบุ๊คมากที่สุด
ขณะที่ช่วงเวลาการโพสต์บนเฟซบุ๊คจะเป็นช่วงเวลา 10.00-15.00 น. และเมื่อรวมการใช้สื่อโซเชียลอื่นๆ อย่าง อินสตาแกรม ที่มีการโพสต์มากสุดตั้งแต่ 21.00 น.เป็นต้นไป รวมถึงทวิตเตอร์มีการแชร์มากสุดอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนไทยเป็นกลุ่มที่มีการเล่นโซเชียลมีเดียตลอดทั้งวัน
ส่วนในแง่ของภาคธุรกิจทั้งกลุ่มอาหาร, เครื่องดื่ม,ยานยนต์, สื่อสาร/ไอที และสถาบันการเงิน นิยมเลือกใช้เฟสบุคเพื่อการประชาสัมพันธ์และเพิ่มยอดขายมากที่สุด ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มสถาบันการเงิน เป็นกลุ่มที่โพสต์คอนเทนต์ลงบนเฟซบุ๊คแล้วมีผู้แชร์ต่อสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน 6% รองลงมาคือกลุ่ม เครื่องดื่ม 4% ขณะที่ยานยนต์และอาหารมีการแชร์ต่อ 3% ส่วนเครื่องดื่มที่มีการแชร์สูงนั้น มองว่าจากแคมเปญชิงรางวัลของกลุ่ม ชาเขียว นั่นเอง
อย่างไรก็ตามจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น และการพัฒนาของ4G ส่งผลให้ทิศทางของสื่อโซเชียลกำลังก้าวเข้าสู่โลกของไลฟ์บรอดคแคส ในเรื่องของการถ่ายทอดสด หรือ ไลฟ์ วิดีโอ แชร์ริ่ง ซึ่งมีความเป็นเรียลไทม์ และสตรีมมิ่ง มากยิ่งขึ้น ซึ่งในขณะนี้มีโปรแกรมโซเชียลที่เป็นลักษณะของไลฟ์บรอดคแคสแล้วหลายตัว เช่น Periscope by Twitter, Meerat และVine โดยเฉพาะ Vine กำลังเริ่มเป็นที่รู้จักของคนไทยและเริ่มมีคนดังที่เป็นคนธรรมดาแต่มีคนกดติดตามสูงมาก ถือเป็นโปรแกรมที่น่าจับตาในปี2558 นี้
นายภาวุธ กล่าวสรุปว่า จากตัวเลขของผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์โซเชียลมีเดียที่จะทำให้ภาคธุรกิจประสบความสำเร็จ คือ Social ALARM ประกอบด้วย 1.A-Analysis Market การทำการวิเคราะห์ตลาด ว่าตลาดในภาพรวมนั้นเป็นอย่างไร 2.L-Listening Insight ฟังเสียงผู้บริโภคบนโซเชียลมีเดียเพื่อหาความต้องการที่แท้จริง 3.A-Action วิธีการนำไปปฏิบัติ มีวิธีการอย่างไรเพื่อให้ประสบความสำเร็จตามที่วางแผนไว้ 4.R-Real time Trends ต้องอยู่ในกระแสขณะนั้น ไม่ล้าสมัย และ 5.M-Measurement การประเมินผลที่ถูกต้อง สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกิจกรรม