พัทลุง - ผ่านไป 1 วัน หลังติดกล้อง 11 จุด บ้านลุงล้อม ยังไม่เกิดไฟปริศนา เจ้าหน้าที่เผยติดตั้งกล้องวงจรปิดต่ออีก 1 วัน เพื่อความชัดเจน ผู้ว่าฯ พัทลุง สั่งตรวจสอบคลิปบ้านเกิดเหตุ หลังสังคมโซเชียลกังขา หัวหน้าคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา เผยผลเก็บตัวอย่างในบ้านพบก๊าซติดไฟ 3 ชนิด รอผลพิสูจน์ทางฟิสิกส์อีกครั้งถึงสาเหตุ
วานนี้ (30 เม.ย.) ที่บ้านลุงล้อม ศักดิหวาน อายุ 63 ปี ในพื้นที่หมู่ 6 ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง บ้านที่เกิดไฟลุกไหม้ปริศนามากว่า 200 ครั้ง เจ้าหน้าที่นักวิชาการคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา ยังคงเร่งเก็บข้อมูลติดตามดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ทำการติดตั้งไว้เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 11 จุด โดยการเฝ้าดูมอนิเตอร์ เฝ้าสังเกตการณ์เพื่อดูตามจุดต่างๆ ที่ติดตั้งกล้องไว้ และจากการติดตั้งและเฝ้าสังเกตการณ์ผ่านไปเกือบตลอดทั้งวันวานนี้ก็ยังไม่พบมีไฟลุกไหม้แต่อย่างใด
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่นักวิชาการทางมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา ภาคธรณีวิทยา ยังได้เร่งสำรวจชั้นใต้ดินโดยการวัดความลึกความยาวด้วยเลเซอร์ ซึ่งมีการปล่อยกระแสไฟฟ้า 12 โวลต์ลงไปในความลึกใต้ผิวดินประมาณ 200 เมตร เพื่อวัดค่ากระแสไฟฟ้าและวัดค่าความต่างหาชั้นดิน หิน และแร่ธาตุในบริเวณพื้นที่รอบๆ บ้านเพื่อนำมาทำผลวิเคราะห์ทางฟิสิกส์
ดร.เปลื้อง สุวรรณมณี หัวหน้าคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา กล่าวว่า จากการเฝ้าติดตามกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยังไม่มีการประมวลผลใดๆ ออกมา แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังคงเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่อง และเตรียมวางแผนในการพิสูจน์อีกครั้ง โดยการนำเครื่องตรวจจับก๊าชภายในบ้านมาตรวจสอบอีกครั้งในช่วงเย็น
"จากการประเมินโดยคร่าวๆ เบื้องต้นคาดน่าจะมาจากก๊าชอะไรสักอย่าง หรือไม่ก็มีการทำปฏิกิริยาของแบคทีเรียบางชนิด แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้ากำลังเร่งพิสูจน์เพื่อความชัดเจนอีกครั้ง ในส่วนของคลิปที่มีการเผยแพร่ไปก่อนหน้านี้ เบื้องต้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้สั่งการในทางอำเภอนำคลิปภาพมาตรวจสอบอีกครั้งว่าจริงเท็จแค่ไหน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าสังเกตการณ์ บ้านลุงล้อม ตลอด 24 ชั่วโมง"
ส่วนบรรยากาศทั่วไปที่บ้านลุงล้อม ยังคงมีญาติและเพื่อนบ้านเดินทางมาให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง และยังเชื่อว่าไฟที่เกิดขึ้นยังเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเช่นเดิม รวมตลอดเวลา 1 เดือนกับ 10 วันไฟได้ลุกไหม้แล้ว 221 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์ไฟปริศนาต่ออีก 1 วัน เพื่อให้มีความชัดเจนในการกรณีที่เกิดขี้นก่อนจะสรุปผลการตรวจสอบให้กับทางจังหวัดต่อไป
ด้านนายล้อม ศักดิหวาน เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ตนรู้สึกเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และตนยังมีความมั่นว่าไม่น่าจะใช่ฝีมือของบุคคลภายในบ้าน
เวลา 17.00 น.ดร.เปลื่อง สุวรรณมณี หัวหน้าคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา ได้ร่วมกันแถลงข่าว หลังจากลงพื้นที่เก็บข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และเคมี โดยกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเก็บตัวอย่าง ผ่านโครงสร้างตามโจทย์ ที่ได้วางไว้ 4 ข้อ คือวัดอุณหภูมิ ภายในบ้านพบอยู่ระหว่าง 25 - 34 องศา โครงสร้างทางธรณีวิทยา
จากการเก็บตัวยังต้องนำไปพิสูจน์ในห้องปฎิบัติการอีกครั้ง ด้านเคมี พบก๊าซที่ก่อให้กิดไฟลุกไหม้ 3 ชนิด ประกอบด้วย 1 ก๊าซไนโตรเจน 2 ก๊าชมีเทน ซึ่งพบมากในห้องน้ำ ห้องครัว และผลของการตรวจตามเสื้อผ้าที่ถูกไฟไหม้พบว่า มีสารเบอร์ครอเรท ที่ติดไฟ ซึ่งในข้อมูลทางเคมียังไม่สามารถสรุปในวันนี้ได้ว่ามีปริมาณมากหรือน้อย แค่ไหน ส่วนสารฟอตฟอรัส ก็ยังตรวจพบในบริเวณบ้านเช่นกัน ซึ่งสะสารก๊าซที่พบหากมีอุณหภูมิที่เหมาะสมอาจเป็นเหตุให้เกิดไฟลุกไหม้ ทั้งนี้และทั้งนั้นต้องรอผลพิสูจน์ทางฟิสิกส์ในห้องปฎิบัติการอีกครั้ง
วานนี้ (30 เม.ย.) ที่บ้านลุงล้อม ศักดิหวาน อายุ 63 ปี ในพื้นที่หมู่ 6 ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง บ้านที่เกิดไฟลุกไหม้ปริศนามากว่า 200 ครั้ง เจ้าหน้าที่นักวิชาการคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา ยังคงเร่งเก็บข้อมูลติดตามดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ทำการติดตั้งไว้เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 11 จุด โดยการเฝ้าดูมอนิเตอร์ เฝ้าสังเกตการณ์เพื่อดูตามจุดต่างๆ ที่ติดตั้งกล้องไว้ และจากการติดตั้งและเฝ้าสังเกตการณ์ผ่านไปเกือบตลอดทั้งวันวานนี้ก็ยังไม่พบมีไฟลุกไหม้แต่อย่างใด
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่นักวิชาการทางมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา ภาคธรณีวิทยา ยังได้เร่งสำรวจชั้นใต้ดินโดยการวัดความลึกความยาวด้วยเลเซอร์ ซึ่งมีการปล่อยกระแสไฟฟ้า 12 โวลต์ลงไปในความลึกใต้ผิวดินประมาณ 200 เมตร เพื่อวัดค่ากระแสไฟฟ้าและวัดค่าความต่างหาชั้นดิน หิน และแร่ธาตุในบริเวณพื้นที่รอบๆ บ้านเพื่อนำมาทำผลวิเคราะห์ทางฟิสิกส์
ดร.เปลื้อง สุวรรณมณี หัวหน้าคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา กล่าวว่า จากการเฝ้าติดตามกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยังไม่มีการประมวลผลใดๆ ออกมา แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังคงเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่อง และเตรียมวางแผนในการพิสูจน์อีกครั้ง โดยการนำเครื่องตรวจจับก๊าชภายในบ้านมาตรวจสอบอีกครั้งในช่วงเย็น
"จากการประเมินโดยคร่าวๆ เบื้องต้นคาดน่าจะมาจากก๊าชอะไรสักอย่าง หรือไม่ก็มีการทำปฏิกิริยาของแบคทีเรียบางชนิด แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้ากำลังเร่งพิสูจน์เพื่อความชัดเจนอีกครั้ง ในส่วนของคลิปที่มีการเผยแพร่ไปก่อนหน้านี้ เบื้องต้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้สั่งการในทางอำเภอนำคลิปภาพมาตรวจสอบอีกครั้งว่าจริงเท็จแค่ไหน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าสังเกตการณ์ บ้านลุงล้อม ตลอด 24 ชั่วโมง"
ส่วนบรรยากาศทั่วไปที่บ้านลุงล้อม ยังคงมีญาติและเพื่อนบ้านเดินทางมาให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง และยังเชื่อว่าไฟที่เกิดขึ้นยังเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเช่นเดิม รวมตลอดเวลา 1 เดือนกับ 10 วันไฟได้ลุกไหม้แล้ว 221 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์ไฟปริศนาต่ออีก 1 วัน เพื่อให้มีความชัดเจนในการกรณีที่เกิดขี้นก่อนจะสรุปผลการตรวจสอบให้กับทางจังหวัดต่อไป
ด้านนายล้อม ศักดิหวาน เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ตนรู้สึกเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และตนยังมีความมั่นว่าไม่น่าจะใช่ฝีมือของบุคคลภายในบ้าน
เวลา 17.00 น.ดร.เปลื่อง สุวรรณมณี หัวหน้าคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา ได้ร่วมกันแถลงข่าว หลังจากลงพื้นที่เก็บข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และเคมี โดยกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเก็บตัวอย่าง ผ่านโครงสร้างตามโจทย์ ที่ได้วางไว้ 4 ข้อ คือวัดอุณหภูมิ ภายในบ้านพบอยู่ระหว่าง 25 - 34 องศา โครงสร้างทางธรณีวิทยา
จากการเก็บตัวยังต้องนำไปพิสูจน์ในห้องปฎิบัติการอีกครั้ง ด้านเคมี พบก๊าซที่ก่อให้กิดไฟลุกไหม้ 3 ชนิด ประกอบด้วย 1 ก๊าซไนโตรเจน 2 ก๊าชมีเทน ซึ่งพบมากในห้องน้ำ ห้องครัว และผลของการตรวจตามเสื้อผ้าที่ถูกไฟไหม้พบว่า มีสารเบอร์ครอเรท ที่ติดไฟ ซึ่งในข้อมูลทางเคมียังไม่สามารถสรุปในวันนี้ได้ว่ามีปริมาณมากหรือน้อย แค่ไหน ส่วนสารฟอตฟอรัส ก็ยังตรวจพบในบริเวณบ้านเช่นกัน ซึ่งสะสารก๊าซที่พบหากมีอุณหภูมิที่เหมาะสมอาจเป็นเหตุให้เกิดไฟลุกไหม้ ทั้งนี้และทั้งนั้นต้องรอผลพิสูจน์ทางฟิสิกส์ในห้องปฎิบัติการอีกครั้ง