xs
xsm
sm
md
lg

“สรยุทธ” ดวงซวย

เผยแพร่:   โดย: สุนันท์ ศรีจันทรา

การบุกรุกเขตป่าสงวนบริเวณของ “โบนันซ่า” เป็นจุดเริ่มต้นการตรวจสอบพื้นที่ป่าบริเวณเขาใหญ่อีกครั้ง ทำให้ที่ดินในโครงการดังๆ และที่ดินของคนดังๆ ถูกหางเลขกันเป็นแถว รวมทั้งนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรช่อง 3

ที่ดินของนายสรยุทธมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 8 ไร่ อยู่ในโครงการมูนแดนซ์ โดยเป็นที่ดินจัดสรร แต่ถูกชี้ว่า เป็นที่ดินรุกเขตป่าไม้ถาวร และอยู่ในข่ายที่จะถูกยึด เช่นเดียวกับที่ดินของ “โบนันซ่า”

เอกสารสิทธิ์ที่ดินที่นายสรยุทธครอบครองต้องรอการพิสูจน์ว่า ออกมาโดยถูกต้องหรือไม่ และนายสรยุทธไม่ใช่ผู้ที่จะพิสูจน์ความถูกผิด แต่เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ถ้าเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง ที่ดินไม่ได้รุกป่า นายสรยุทธก็ครอบครองที่ดินต่อไป แต่ถ้าเอกสารสิทธิ์ออกมาโดยมิชอบ ที่ดินก็จะถูกยึดคืนเป็นของรัฐ นายสรยุทธสามารถเรียกร้องความเสียหายกับผู้ที่ขายที่ดิน จะได้คืนหรือไม่สุดแล้วแต่

ตั้งแต่มีข่าวที่ดินของนายสรยุทธบุกรุกป่า ไม่มีใครโจมตีนายสรยุทธเท่าไหร่ ได้แต่คิดกันว่า เจ้าสรยุทธซวยอีกแล้ว

ซวยเหมือนนายวิกรม กรมดิษฐ์ ซึ่งมีที่ดินผืนใหญ่บนเขาใหญ่ ซวยเหมือนโครงการคีรีมายา และอีกหลายโครงการที่กำลังถูกตรวจสอบการบุกรุกป่า

เพราะคนที่ซื้อที่ดินบริเวณเขาใหญ่ ต้องซื้อที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง มีหลักฐานทางราชการยืนยัน ส่วนเอกสารสิทธิ์จะออกโดยมิชอบหรือไม่ คงไม่มีใครไปตรวจสอบ หรือตรวจสอบจากหน่วยงานที่ออก คงได้รับคำยืนยันความถูกต้อง

นายสรยุทธ นายวิกรม หรือคนดังอีกมากมายที่ไปสร้างสวรรค์บนเขาใหญ่ คงอยู่ในอารมณ์เดียวกัน ที่ดินมีโฉนดถูกต้อง จะกลัวทำไม

กรณีที่ดินกว่า 8 ไร่ ติดถนนธนะรัชต์ ที่ถูกระบุว่า บุกรุกป่า แตกต่างจากคดีทุจริต อสมท เพราะคดีทุจริตใน อสมท นายสรยุทธถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด และคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว

แต่กรณีที่ดินในโครงการจัดสรรมูนแดนซ์ จะโจมตีนายสรยุทธไม่ได้ เพราะถือเป็นผู้บริสุทธิ์ และตกเป็นเหยื่อของขบวนการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบด้วยซ้ำ

ถ้าปล่อยให้การชี้ถูกชี้ผิดที่ดินที่ครอบครองเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายสรยุทธจะตกอยู่ในฐานะผู้ที่ควรได้รับความเห็นอกเห็นใจ

แต่นายสรยุทธกลับออกมาตีโพยตีพาย ใช้รายการของตัวเองอธิบายความเป็นมาของที่ดินเสียยืดยาว เพื่อโน้มน้าวให้สาธาณชนเห็นว่า ที่ดินในโครงการมูนแดนซ์ที่ซื้อมามีเอกสารสิทธิ์ครอบครองโดยถูกต้อง และกรมที่ดินยืนยัน แต่ไม่ยอมพูดถึงข้อมูลของหน่วยงานอื่นที่เห็นแย้ง

พล.อ.สุรยทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี แทบเป็นแทบตายมาแล้ว ในการครอบครองที่ดิน 21 ไร่ บนเขายายเที่ยง จนต้องรีบประกาศคืนที่ดิน แต่ก็ยื้อการถือครองอยู่นานจนต้านทานกระแสโจมตีไม่ไหว

นายสรยุทธกำลังเดินตามรอยพล.อ.สุรยุทธ์ โดยแสดงตัวชัดว่า ต้องการครอบครองที่ดินไว้ และออกแรงเต็มที่เพื่อยืนยันในกรรมสิทธิ์ แม้ต้องใช้เวลาในรายการตัวเองสู้เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง เสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์แต่ฝ่ายตัวเองก็ตาม

การใช้รายการตัวเองเป็นกระบอกเสียงเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ทำให้คนที่เห็นใจในโชคชะตาของนายสรยุทธ เกิดความรู้สึกหมั่นไส้ และมีกระแสโจมตีตามมาทันที

เพราะแม้จะเข้าใจว่า นายสรยุทธหวงแหนที่ดินแปลงนี้ ไม่อยากจะสูญเสีย เสียดายเงินที่ทุ่มเทลงไป ทั้งการซื้อที่ดินและเงินในการพัฒนา ซึ่งน่าจะอยู่ในระดับหลายสิบล้านบาท แต่การอาศัยความเป็นสื่อสร้างกระแสความชอบธรรมให้ตัวเอง การพยายามบิดเบือนเรื่องผิดให้เป็นถูก พยายามเปลี่ยนดำให้เป็นขาว ทำให้สังคมยอมรับพฤติกรรมไม่ได้

ทำไมจึงไม่รอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกด้าน สรุปความผิดถูกออกมาก่อน ทำไมจึงอ้างอิงเฉพาะเอกสารของกรมที่ดิน และทำไมจึงไม่พูดถึงหลักฐานการตรวจสอบของกรมป่าไม้

การตีโพยตีพายออกฤทธิ์ออกเดชเพื่อครอบครองที่ดินบนเขาใหญ่ เป็นการตอกย้ำพฤติกรรมของนายสรยุทธ เป็นการยืนยันการทุจริตใน อสมท ย้ำให้เห็นว่า การถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเป็นสิ่งที่ชอบแล้ว

นายสรยุทธเป็นพิธีกรที่รวยที่สุดของประเทศไทย และชีวิตที่เหลือยังสามารถโกยเงินได้อีกไม่รู้เท่าไหร่ แต่สาเหตุที่ดวงซวยบ่อยๆ ไม่ได้เกิดจากอะไร นอกจากความเห็นแก่ได้ หรือเข้าข่าย “งก” คงว่าได้

ความ “งก” จึงพาไปสู่ความ “ซวย” น่าเสียดายแทนจริงๆ ดังก็ดัง รวยก็รวย ถ้ามีจุดยืนความเป็นสื่อที่ดีสักนิด ชีวิตจะไปได้สวย ไม่ใช่ดวงซวยซ้ำซวยซ้อน แถมมีคนรอถล่มซ้ำเต็มไปหมด จนงานนี้ “สรยุทธ” เละตุ้มเป๊ะไปแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น