ตร. ร่วมกับ ปปง. ค้นบ้านเครือข่ายยูฟัน 3 หลัง ยึดเพิ่มกว่า 70 ล้านบาท เจ้าตัวแจงหลังทราบหมายจับขอเข้ามอบตัวเอง ยืนยันเป็นเพียงสมาชิกลงทุนด้วยความบริสุทธิ์ใจ พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจ จนท.เผยขณะนี้ยึดทรัพย์ในคดีแชร์ลูกโซ่ได้กว่า 671 ล้านบาท ระบุออกหมายจับแล้ว 13 ราย จับได้แล้ว 7 อยู่ระหว่างหลบหนีอีก 6 ราย
วานนี้ (26 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ.เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุด เพื่อยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายแชร์ลูกโซ่บริษัทยูฟัน
โดยจุดแรกเป็นบ้านเลขที่ 78/40 ซึ่งอยู่ระหว่างตกแต่งภายใน มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านแกรนด์ แบงคอก บูเลอวาร์ด รัชดา-รามอินทรา 2 เป็นบ้านของ น.ส.พีรญา หาญพรม หรือเอ๋ อายุ 27 ปี สมาชิกลำดับต้นของบริษัท ยูฟัน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 787/2558 ลงวันที่ 25 เม.ย.58 ฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พบรถหรูยี่ห้อโตโยต้า MRS สีแดง หมายเลขทะเบียน ฆล 1 กทม. สีแดง จำนวน 1 คัน
จุดที่ 2 บ้านเลขที่ 78/9 ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านเดียวกัน มูลค่าประมาณ 20 ล้าน ซึ่งภายในบ้านอยู่ระหว่างการตกแต่ง ไม่มีทรัพย์สิน หรือของมีค่าใดๆ
พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวว่า จากการตรวจค้นบ้านเลขที่ 78/40 และ 78/9 ซึ่งเจ้าของบ้านได้ร่วมธุรกิจของยูฟัน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ทำการอายัดไว้ และประสานไปยัง ปปง.เพื่ออายัดทรัพย์ไปขายทอดตลาด เพื่อนำเงินที่ได้มาเฉลี่ยคืนผู้เสียหายในคดีดังกล่าว ส่วนทรัพย์สินต่างๆ ที่ได้มาจากการกระทำความผิดของยูฟันนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตัดสินให้คืนของแก่ผู้เสียหาย แต่จะไม่ตัดสิทธิผู้เป็นเจ้าของ โดยสามารถนำหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ว่า ทรัพย์สินที่ถูกยึดได้มาด้วยความชอบธรรม
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้บริหารบริษัทยูฟัน ตนอยากจะพบ และเจรจาเพื่อให้ผู้บริหารของยูฟันออกมาชี้แจงว่า เป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในทางกลับกัน ทางผู้บริหารของยูฟันได้ชี้แจงผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า ธุรกิจของตนถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ทางเจ้าหน้าที่จึงมั่นใจว่าทางยูฟันเป็นธุรกิจผิดกฎหมายจริง
อย่างไรก็ตาม ช่วงวันที่ 25-26 เม.ย. เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดทรัพย์สินของ น.ส.พีรญา และนายรัฐวิชญ์ ฐิติอรุณวัฒน์ หรือโน้ต อายุ 34 ปี ได้กว่า 127 ล้านบาท และจะประสานไปยัง ปปง. เพื่ออายัดทรัพย์สินต่อไป
ด้าน น.ส.พีรญา กล่าวว่า ภายหลังที่ทราบว่าถูกออกหมายจับ ได้เดินทางขอเข้ามอบตัวเพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดีต่อบริษัท ยูฟัน ไทยแลนด์จำกัด ยืนยันว่า สมาชิกหลายคนเข้ามาร่วมลงทุนด้วยความบริสุทธิ์ใจ โดยตน และเพื่อนเป็นเพียงสมาชิกเท่านั้น ซึ่งตนยินดีที่จะให้ความร่วมมือทุกออย่างในกระบวนการยุติธรรม และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หรือแม้กระทั่งการตรวจค้นบ้านในวันนี้ ตนมั่นใจว่าเงินที่ใช้ซื้อบ้านได้มาจากน้ำพักน้ำแรง ในความเป็นจริงแล้วทางผู้บริหารบริษัทยูฟัน จะต้องออกมาชี้แจงเพื่อไขข้อสงสัย หรือเพื่อยืนยันการประกอบธุรกิจว่าบริสุทธิ์ ไม่ใช่ให้สมาชิกมาชี้แจงเอง
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามคดีดังกล่าวอยากขอให้ประชาชนที่เป็นสมาชิกของยูฟัน รีบมาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อที่จะได้กันตัวไว้เป็นผู้เสียหาย เพราะคดีความดังกล่าวมีความเกี่ยวเนื่องกับคดีแพ่ง ซึ่งศาลจะสั่งให้ชดใช้ คือ จะได้รับชดเชยค่าเสียหายของทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ยึดไป ซึ่ง ปปง.จะดำเนินการตรวจสอบคดีนี้เป็นพิเศษ โดยการนำของกลางที่ยึดได้จากธุรกิจยูฟันไปขายทอดตลาด เพื่อนำทรัพย์สินมาคืนผู้เสียหาย หรือแม้กระทั่งทรัพย์สินที่อยู่ต่างประเทศ ทางเจ้าหน้าที่จะประสานไปยังหน่วยงานต่างประเทศ เพื่อยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมายมาดำเนินการในประเทศไทยต่อไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้มาตรวจค้นเป้าหมายที่ 3 เป็นบ้านพักของ นายอภิณัฐ แสงกล้า หรือณัฐ มูลค่ากว่า 17 ล้านบาท บริเวณบ้านเลขที่ 299/383 หมู่บ้านมัณฑนา ถนนสุขาภิบาล 5 แขวง/เขตสายไหม กทม. ซึ่งอยู่ระหว่างการตกแต่ง จึงทำการอายัดไว้เพื่อตรวจสอบ โดยก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินของ นายอภิณัฐ ไปแล้วกว่า 38 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 55 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การดำเนินคดีกับเครือข่ายบริษัทยูฟันนั้น ได้ออกหมายจับไปแล้ว 13 คน สามารถควบคุมตัวได้ 7 คน และอยู่ระหว่างหลบหนีอีก 6 คน โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้ 48 ชั่วโมง หลังจากนั้น จะนำตัวไปฝากขังที่ศาล
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่วนอีก 2 คน ได้ติดต่อเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่สามารถประกันตัวได้ หรือการประกันตัวแต่ละครั้งจะต้องอยู่ในการพิจารณาของศาล สำหรับมูลค่าทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดจากเครือข่ายบริษัทยูฟัน ขณะนี้มีมูลค่ากว่า 671 ล้านบาท หลังจากนี้ต้องประสาน ปปง. เพื่อยึดอายัดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบต่อไป.
วานนี้ (26 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ.เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุด เพื่อยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายแชร์ลูกโซ่บริษัทยูฟัน
โดยจุดแรกเป็นบ้านเลขที่ 78/40 ซึ่งอยู่ระหว่างตกแต่งภายใน มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านแกรนด์ แบงคอก บูเลอวาร์ด รัชดา-รามอินทรา 2 เป็นบ้านของ น.ส.พีรญา หาญพรม หรือเอ๋ อายุ 27 ปี สมาชิกลำดับต้นของบริษัท ยูฟัน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 787/2558 ลงวันที่ 25 เม.ย.58 ฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พบรถหรูยี่ห้อโตโยต้า MRS สีแดง หมายเลขทะเบียน ฆล 1 กทม. สีแดง จำนวน 1 คัน
จุดที่ 2 บ้านเลขที่ 78/9 ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านเดียวกัน มูลค่าประมาณ 20 ล้าน ซึ่งภายในบ้านอยู่ระหว่างการตกแต่ง ไม่มีทรัพย์สิน หรือของมีค่าใดๆ
พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวว่า จากการตรวจค้นบ้านเลขที่ 78/40 และ 78/9 ซึ่งเจ้าของบ้านได้ร่วมธุรกิจของยูฟัน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ทำการอายัดไว้ และประสานไปยัง ปปง.เพื่ออายัดทรัพย์ไปขายทอดตลาด เพื่อนำเงินที่ได้มาเฉลี่ยคืนผู้เสียหายในคดีดังกล่าว ส่วนทรัพย์สินต่างๆ ที่ได้มาจากการกระทำความผิดของยูฟันนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตัดสินให้คืนของแก่ผู้เสียหาย แต่จะไม่ตัดสิทธิผู้เป็นเจ้าของ โดยสามารถนำหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ว่า ทรัพย์สินที่ถูกยึดได้มาด้วยความชอบธรรม
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้บริหารบริษัทยูฟัน ตนอยากจะพบ และเจรจาเพื่อให้ผู้บริหารของยูฟันออกมาชี้แจงว่า เป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในทางกลับกัน ทางผู้บริหารของยูฟันได้ชี้แจงผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า ธุรกิจของตนถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ทางเจ้าหน้าที่จึงมั่นใจว่าทางยูฟันเป็นธุรกิจผิดกฎหมายจริง
อย่างไรก็ตาม ช่วงวันที่ 25-26 เม.ย. เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดทรัพย์สินของ น.ส.พีรญา และนายรัฐวิชญ์ ฐิติอรุณวัฒน์ หรือโน้ต อายุ 34 ปี ได้กว่า 127 ล้านบาท และจะประสานไปยัง ปปง. เพื่ออายัดทรัพย์สินต่อไป
ด้าน น.ส.พีรญา กล่าวว่า ภายหลังที่ทราบว่าถูกออกหมายจับ ได้เดินทางขอเข้ามอบตัวเพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดีต่อบริษัท ยูฟัน ไทยแลนด์จำกัด ยืนยันว่า สมาชิกหลายคนเข้ามาร่วมลงทุนด้วยความบริสุทธิ์ใจ โดยตน และเพื่อนเป็นเพียงสมาชิกเท่านั้น ซึ่งตนยินดีที่จะให้ความร่วมมือทุกออย่างในกระบวนการยุติธรรม และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หรือแม้กระทั่งการตรวจค้นบ้านในวันนี้ ตนมั่นใจว่าเงินที่ใช้ซื้อบ้านได้มาจากน้ำพักน้ำแรง ในความเป็นจริงแล้วทางผู้บริหารบริษัทยูฟัน จะต้องออกมาชี้แจงเพื่อไขข้อสงสัย หรือเพื่อยืนยันการประกอบธุรกิจว่าบริสุทธิ์ ไม่ใช่ให้สมาชิกมาชี้แจงเอง
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามคดีดังกล่าวอยากขอให้ประชาชนที่เป็นสมาชิกของยูฟัน รีบมาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อที่จะได้กันตัวไว้เป็นผู้เสียหาย เพราะคดีความดังกล่าวมีความเกี่ยวเนื่องกับคดีแพ่ง ซึ่งศาลจะสั่งให้ชดใช้ คือ จะได้รับชดเชยค่าเสียหายของทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ยึดไป ซึ่ง ปปง.จะดำเนินการตรวจสอบคดีนี้เป็นพิเศษ โดยการนำของกลางที่ยึดได้จากธุรกิจยูฟันไปขายทอดตลาด เพื่อนำทรัพย์สินมาคืนผู้เสียหาย หรือแม้กระทั่งทรัพย์สินที่อยู่ต่างประเทศ ทางเจ้าหน้าที่จะประสานไปยังหน่วยงานต่างประเทศ เพื่อยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมายมาดำเนินการในประเทศไทยต่อไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้มาตรวจค้นเป้าหมายที่ 3 เป็นบ้านพักของ นายอภิณัฐ แสงกล้า หรือณัฐ มูลค่ากว่า 17 ล้านบาท บริเวณบ้านเลขที่ 299/383 หมู่บ้านมัณฑนา ถนนสุขาภิบาล 5 แขวง/เขตสายไหม กทม. ซึ่งอยู่ระหว่างการตกแต่ง จึงทำการอายัดไว้เพื่อตรวจสอบ โดยก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินของ นายอภิณัฐ ไปแล้วกว่า 38 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 55 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การดำเนินคดีกับเครือข่ายบริษัทยูฟันนั้น ได้ออกหมายจับไปแล้ว 13 คน สามารถควบคุมตัวได้ 7 คน และอยู่ระหว่างหลบหนีอีก 6 คน โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้ 48 ชั่วโมง หลังจากนั้น จะนำตัวไปฝากขังที่ศาล
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่วนอีก 2 คน ได้ติดต่อเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่สามารถประกันตัวได้ หรือการประกันตัวแต่ละครั้งจะต้องอยู่ในการพิจารณาของศาล สำหรับมูลค่าทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดจากเครือข่ายบริษัทยูฟัน ขณะนี้มีมูลค่ากว่า 671 ล้านบาท หลังจากนี้ต้องประสาน ปปง. เพื่อยึดอายัดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบต่อไป.