แฉสารพัดปัญหาหนัง "เลิฟสุดจิ้น ฟินสุโค่ย" นายทุนฟ้องร้องโกงกันเองก่อนหนังขาดทุนยับจนไม่มีเงินจ่ายค่าแรงนักแสดง-ทีมงาน ด้านผู้กำกับ "กอล์ฟ ธัญญ์วาริน" เชื่อกรณีนักร้องดังญี่ปุ่นโพสต์ทวงค่าตัวไม่กระทบภาพรวมของอุตสาหกรรมหนังไทย
จากกรณีที่นักร้องดังแดนปลาดิบ "มาโกโตะ" แห่งวง "ลูซิเฟอร์" ได้ทวิตข้อความทวงเงินค่าตัวหลังจากมาร่วมแสดงในโปรเจกต์ภาพยนตร์เรื่อง "เลิฟสุดจิ้น ฟินสุโค่ย" ภาพยนตร์ไทยที่เข้าฉายบ้านเราไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557 จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์
โดยก่อนหน้าที่นักร้องดังจะออกมาโพสต์ข้อความดังกล่าว ทางนักแสดงไทยอย่าง “บี๋ สวิช เพชรวิเศษศิริ” เองก็เคยออกมาเปิดใจว่าตนเองยังไม่ได้รับเงินค่าตัวเป็นจำนวน 250,000 บาทจากการแสดงหนังเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันวานที่่ผ่านมาเมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง “กอล์ฟ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” ในฐานะของผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “เลิฟสุดจิ้น ฟินสุโค่ย” เจ้าตัวก็ได้เปิดเผยว่า
"กอล์ฟรับผิดชอบมาในส่วนของโปรดักชั่น เพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายส่วนที่เป็นค่าตัวกอล์ฟ และของทีมงานพวกตากล้อง ช่างไฟ ก็ยังได้ไม่ครบ ส่วนของกอล์ฟได้มาบ้างแต่ก็ยังเหลืออีกก้อนใหญ่มากๆ ก็เป็นหลักล้าน แต่ในส่วนของค่าตัวนักแสดงทางผู้สร้างเขาจัดการเอง เท่าที่รู้คือได้กันไปบ้างแต่ยังไม่ครบทั้งหมด"
รับปัญหามีมาโดยตลอดก่อนที่หนังจะเข้าฉายและขาดทุนยับ..."หนังลงทุนไปประมาณ 10 ล้าน แต่ได้รายได้กลับแค่ 5-6 ล้าน แล้วต้องแบ่งกับโรงหนังอีกมันก็เลยขาดทุนเยอะ ถามว่าอยากให้เขารับผิดชอบยังไง จริงๆ เราก็รอได้นะคะ แต่ก็อยากให้เขารับผิดชอบรายจ่ายที่มันต้องจ่าย เพราะกอล์ฟก็ไม่รู้จะเอาจากไหนไปจ่ายทีมงานเหมือนกัน ก็อยากให้เขารับผิดชอบตรงนี้"
"จริงๆ มันก็มีปัญหาตั้งแต่แรกแล้ว แต่เราคิดว่ามันได้ทำไปแล้วก็ทำให้มันจบไป ก็พยายามถ่ายหนังให้จบและคิดว่าถ่ายจบแล้วเขาจะเอาเงินมาให้แต่ก็ยังไม่เอามาให้ จนหนังฉายไปแล้วเขาก็ยังไม่เอามาให้ ซึ่งกอล์ฟก็ติดตามทวงถามอยู่เรื่อยๆ แล้วเขาก็ไม่ได้หนีไปไหนและเขาไม่ตั้งใจที่จะโกงนะคะเพียงแต่ว่าเขาไม่มีเงินมาให้ เราก็เลยยังไม่ได้ฟ้องเขา"
เผยอีกฝ่ายเป็นนายทุนหน้าใหม่ แถมยังมีปัญหาแตกคอกันอีก..."เขาเป็นผู้สร้างหน้าใหม่ เขาไม่เคยสร้างหนังมาก่อน แล้วในหุ้นส่วนเขาก็คือนายทุนทั้ง 3 คนก็มีปัญหาเรื่องการโกงกันเองด้วย มันก็เลยมากระทบถึงเรา ตอนแรกนายทุนมี 3 คนแต่มาตอนหลังเขามีเรื่องฟ้องร้องกันก็เลยเหลือแค่ 2 คน"
ส่วนกรณีที่ทางนักร้องวง "ลูซิเฟอร์" ออกมาโพสต์ทวงค่าตัวผ่านโลกออนไลน์จนคล้ายกับเป็นการประจานอุตสาหกรรมหนังบ้านเราไปด้วยนั้น เจ้าตัวเชื่อว่าแม้ภาพที่ออกมาจะดูไม่ดีแต่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
สำหรับบริษัท ฟิน โปรเจกต์ จำกัด ที่เป็นเจ้าของหนัง "เลิฟสุดจิ้น ฟินสุโค่ย" ได้จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2556 (ปัจจุบันยังดำเนินกิจการอยู่) ด้วยทุน 1 ล้านบาท ในหมวดหมู่ "การจัดการแสดงทางธุรกิจและการแสดงสินค้า" โดยมีผู้ลงชื่อเป็นคณะกรรมการ 3 คนด้วยกัน คือ 1.นางสาวจิดาภา นามโชติหิรัญ 2. นางสาวภัคกมล วิทยารางสกุล และ 3. นางสาวปุณยนุช วรนิธิพงศ์
จากกรณีที่นักร้องดังแดนปลาดิบ "มาโกโตะ" แห่งวง "ลูซิเฟอร์" ได้ทวิตข้อความทวงเงินค่าตัวหลังจากมาร่วมแสดงในโปรเจกต์ภาพยนตร์เรื่อง "เลิฟสุดจิ้น ฟินสุโค่ย" ภาพยนตร์ไทยที่เข้าฉายบ้านเราไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557 จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์
โดยก่อนหน้าที่นักร้องดังจะออกมาโพสต์ข้อความดังกล่าว ทางนักแสดงไทยอย่าง “บี๋ สวิช เพชรวิเศษศิริ” เองก็เคยออกมาเปิดใจว่าตนเองยังไม่ได้รับเงินค่าตัวเป็นจำนวน 250,000 บาทจากการแสดงหนังเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันวานที่่ผ่านมาเมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง “กอล์ฟ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” ในฐานะของผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “เลิฟสุดจิ้น ฟินสุโค่ย” เจ้าตัวก็ได้เปิดเผยว่า
"กอล์ฟรับผิดชอบมาในส่วนของโปรดักชั่น เพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายส่วนที่เป็นค่าตัวกอล์ฟ และของทีมงานพวกตากล้อง ช่างไฟ ก็ยังได้ไม่ครบ ส่วนของกอล์ฟได้มาบ้างแต่ก็ยังเหลืออีกก้อนใหญ่มากๆ ก็เป็นหลักล้าน แต่ในส่วนของค่าตัวนักแสดงทางผู้สร้างเขาจัดการเอง เท่าที่รู้คือได้กันไปบ้างแต่ยังไม่ครบทั้งหมด"
รับปัญหามีมาโดยตลอดก่อนที่หนังจะเข้าฉายและขาดทุนยับ..."หนังลงทุนไปประมาณ 10 ล้าน แต่ได้รายได้กลับแค่ 5-6 ล้าน แล้วต้องแบ่งกับโรงหนังอีกมันก็เลยขาดทุนเยอะ ถามว่าอยากให้เขารับผิดชอบยังไง จริงๆ เราก็รอได้นะคะ แต่ก็อยากให้เขารับผิดชอบรายจ่ายที่มันต้องจ่าย เพราะกอล์ฟก็ไม่รู้จะเอาจากไหนไปจ่ายทีมงานเหมือนกัน ก็อยากให้เขารับผิดชอบตรงนี้"
"จริงๆ มันก็มีปัญหาตั้งแต่แรกแล้ว แต่เราคิดว่ามันได้ทำไปแล้วก็ทำให้มันจบไป ก็พยายามถ่ายหนังให้จบและคิดว่าถ่ายจบแล้วเขาจะเอาเงินมาให้แต่ก็ยังไม่เอามาให้ จนหนังฉายไปแล้วเขาก็ยังไม่เอามาให้ ซึ่งกอล์ฟก็ติดตามทวงถามอยู่เรื่อยๆ แล้วเขาก็ไม่ได้หนีไปไหนและเขาไม่ตั้งใจที่จะโกงนะคะเพียงแต่ว่าเขาไม่มีเงินมาให้ เราก็เลยยังไม่ได้ฟ้องเขา"
เผยอีกฝ่ายเป็นนายทุนหน้าใหม่ แถมยังมีปัญหาแตกคอกันอีก..."เขาเป็นผู้สร้างหน้าใหม่ เขาไม่เคยสร้างหนังมาก่อน แล้วในหุ้นส่วนเขาก็คือนายทุนทั้ง 3 คนก็มีปัญหาเรื่องการโกงกันเองด้วย มันก็เลยมากระทบถึงเรา ตอนแรกนายทุนมี 3 คนแต่มาตอนหลังเขามีเรื่องฟ้องร้องกันก็เลยเหลือแค่ 2 คน"
ส่วนกรณีที่ทางนักร้องวง "ลูซิเฟอร์" ออกมาโพสต์ทวงค่าตัวผ่านโลกออนไลน์จนคล้ายกับเป็นการประจานอุตสาหกรรมหนังบ้านเราไปด้วยนั้น เจ้าตัวเชื่อว่าแม้ภาพที่ออกมาจะดูไม่ดีแต่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
สำหรับบริษัท ฟิน โปรเจกต์ จำกัด ที่เป็นเจ้าของหนัง "เลิฟสุดจิ้น ฟินสุโค่ย" ได้จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2556 (ปัจจุบันยังดำเนินกิจการอยู่) ด้วยทุน 1 ล้านบาท ในหมวดหมู่ "การจัดการแสดงทางธุรกิจและการแสดงสินค้า" โดยมีผู้ลงชื่อเป็นคณะกรรมการ 3 คนด้วยกัน คือ 1.นางสาวจิดาภา นามโชติหิรัญ 2. นางสาวภัคกมล วิทยารางสกุล และ 3. นางสาวปุณยนุช วรนิธิพงศ์