เสียพลังงานกันมาหมาดๆ กับการเล่นน้ำช่วงสงกรานต์ วันนี้! ถึงเวลาเข้าครัวเปิบเมนูเสริมโปรตีนอย่างไข่ต้มกันแล้ว ขอรับรองว่าทุกท่านจะต้องติดใจแน่ๆ เพราะไม่ว่าจะชอบแบบไหน สุกเต็มที่ สุกนิดๆ หรือยางมะตูม ก็สามารถกำหนดระดับกันได้แบบไม่มีทางพลาดเลยทีเดียว ด้วยเทคนิคต้มไข่ขั้นเทพ เนรมิตความสุกได้ดั่งเทวดาเสก... มาครับ ตาม Feel Good มาเลย!
ขั้นแรก รู้จักกับน้ำหนักมาตรฐานของไข่กันก่อน
เบอร์ 0 = น้ำหนัก 70 กรัมขึ้นไป ต่อฟอง
เบอร์ 1 = น้ำหนัก 65 - 70 กรัมต่อฟอง
เบอร์ 2 = น้ำหนัก 60 - 65 กรัมต่อฟอง
เบอร์ 3 = น้ำหนัก 55 - 60 กรัมต่อฟอง
เบอร์ 4 = น้ำหนัก 50 - 55 กรัมต่อฟอง
เบอร์ 5 = น้ำหนัก 45 - 50 กรัมต่อฟอง
เตรียมตัวก่อนต้ม: วิธีเลือกซื้อ และเก็บไข่
1.ไข่เบอร์น้อยยิ่งลูกใหญ่
2.เลือกซื้อไข่ให้สดใหม่ โดยเลือกที่เปลือกสากๆ ลูกหนักๆ (หากซื้อในซุปเปอร์มาร์เก็ตให้ดูวันที่ผลิต MFG แล้วเลือกกล่องที่ดีที่สุด)
3.ก่อนต้ม นำไข่ออกมาวางเพื่อให้อยู่ในอุณหภูมิของห้อง (ห้ามนำไข่ที่อยู่ในตู้เย็นมาต้มเลย เพราะจะทำให้ไข่แตก)
4.ไข่ยิ่งใบใหญ่ ยิ่งต้องต้มนาน
ขั้นตอนในการต้ม
1.ล้างไข่ให้สะอาด
2.ต้มน้ำในหม้อให้เดือด ไฟปานกลาง >> สำคัญมาก ต้องต้มน้ำให้เดือดก่อนจะทำอย่างอื่นนะ !!
3.ใส่เกลือหรือน้ำมะนาว เพื่อช่วยไม่ให้เปลือกร้าวและไข่ไหลทะลักออกมา
4.ใส่ไข่ลงไป ... แล้วเริ่มจับเวลา! ดังนี้
เคล็ดลับการจับเวลา เพื่อกำหนดระดับความสุก!
ระยะเวลาที่ใช้ต้มไข่ เป็นตัวแปลสำคัญที่สุดในกำหนดระดับความสุกของไข่ ซึ่งมีดังนี้เลย !
4 นาที = ไข่แดงยางมะตูม
6 นาที = ไข่ต้มสุก ไข่แดงเป็นสีส้มเกือบสุก
8 นาที = ไข่ต้มสุกทั้งใบ ไข่แดงสุกแต่ยังเป็นสีส้ม
10 นาที = ไข่ต้มสุกมากทั้งใบ ไข่แดงสุกมากเป็นสีส้มอ่อน
* ไข่แดงมีอุณหภูมิต่ำกว่าไข่ขาว ดังนั้นไข่ขาวจะสุกเร็วกว่า
** ความสุกของไข่ขึ้นอยู่กับขนาดและอุณหภูมิของไข่ด้วย
รู้วิธีลวก และต้มไข่กันแบบง่ายๆ ไปแล้ว ทีนี้ไม่ว่าจะอยู่หอหรืออยู่บ้านก็คงแฮปปี้ เลือกความสุกของไข่ได้ตามคุณแล้ว! หรือถ้าคุณมีวิธีการต้มแบบอื่นๆ หรือชอบทานไข่แบบไหนก็เอามาแชร์กับเราได้ที่ Feel Good เลยนะ :)