xs
xsm
sm
md
lg

คลังจี้ลดดบ.กดค่าบาทอ่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - "สมหมาย" แนะแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยนโยบาย ส่งสัญญาณดอกเบี้ยขาลง เพื่อกดดันเงินบาทให้อ่อนค่า เผยคลัง ชู 3 มาตรการพัฒนากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

นายสมหมาย ภาษี รมว.คลังกล่าวถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาในขณะนี้ว่า ตามทฤษฎีควรจะลดดอกเบี้ยซ้ำอีก เพื่อส่งสัญญาณดอกเบี้ยขาลงอย่างชัดเจน เพื่อกดให้เงินบาทอ่อนค่าลงมา อย่างไรก็ดี ขึ้นอยู่กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะไปพิจารณา
"ผมเคยพูดไปแล้วว่าตามทฤษฎีจะให้เงินบาทอ่อน ก็ควรต้องฉีดยาแรงซ้ำลด 0.25% แล้วอีก 45 วันก็ลดอีกเพื่อส่งสัญญาณดอกเบี้ยขาลง" รมว.คลังกล่าวและว่า ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ กระทรวงการคลังจะแถลงผลงาน 6 เดือน และแถลงข่าวร่วมกับบริษัทที่ยื่นขอจดทะเบียนประกอบธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ที่ได้รับใบอนุญาตแล้ว 3 ราย
นายสมหมายยังเปิดเผยถึงมาตรการเพื่อสนับสนุนและพัฒนากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (กทบ.) ว่า กระทรวงการคลังจะเข้าไปมีบทบาทสนับสนุนในการเร่งแก้ไขปัญหาและการสนับสนุนเงินทุนอย่างเต็มที่ผ่านสถาบันการเงินของรัฐ ทั้งธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) พิจารณาแล้วเห็นควรดำเนินมาตรการเพื่อสนับสนุนและพัฒนากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อทำให้เครือข่ายของกองทุนหมู่บ้านฯ มีศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ
โดยเฉพาะการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจในระดับฐานราก จึงควรมีการสนับสนุนกองทุนหมู่บ้านฯ ที่มีความเข้มแข็งให้สามารถขยายกิจการได้ ฟื้นฟูกองทุนหมู่บ้านฯ ที่ยังมีความอ่อนแอ และปรับปรุงการบริหารจัดการและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการสร้างรายได้และขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งมาตรการดังกล่าวประกอบด้วยการดำเนินการ 3 ส่วน ดังนี้
1. การปรับปรุงกฎหมายและระเบียบเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงแก่กองทุนหมู่บ้านฯ เห็นควรพิจารณาปรับปรุง พ.ร.บ. กองทุนหมู่บ้านฯ และระเบียบ กทบ. เพื่อให้การดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านฯ มีความมั่นคงมากขึ้น เช่น การเพิ่มบทบัญญัติเกี่ยวกับการยกระดับกองทุนหมู่บ้านฯ เป็นสถาบันการเงินชุมชนเพื่อเศรษฐกิจพอเพียง การปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านในเรื่ององค์ประกอบ คุณสมบัติ และหลักเกณฑ์การคัดเลือกคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน พร้อมทั้ง การปรับปรุงระเบียบ กทบ. เกี่ยวกับกระบวนการกู้ยืม แบบของสัญญาเงินกู้ยืมและสัญญาค้ำประกันการกู้ยืม การให้มีหลักเกณฑ์การค้ำประกันการกู้ยืมที่รัดกุมยิ่งขึ้น พร้อมทั้งสนับสนุนให้กองทุนหมู่บ้านฯ ใช้หลักประกันอื่นนอกเหนือจากบุคคลค้ำประกัน การกำหนดรูปแบบและเกณฑ์การกันเงินสำรองเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากกำไรสุทธิจากการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านฯ การดำเนินการเพื่อขอยกเว้นเงินจัดสรรจากรัฐบาล (บัญชี 1) ไม่ให้เป็นสินทรัพย์ที่เจ้าหนี้ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองใช้ในการบังคับคดี (การขัดทรัพย์) เป็นต้น
2. การปรับปรุงการบริหารจัดการกองทุนหมู่บ้านฯ และ สทบ. เห็นควรปรับปรุงรูปแบบการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านฯ และ สทบ. ในเรื่องการบริหารจัดการ เช่น การพัฒนาระบบบัญชีและระบบการบริหารจัดการเงินของกองทุนหมู่บ้านฯ ทุกกองทุนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน การผลักดันการจดทะเบียนกองทุนหมู่บ้านฯ ให้ดำเนินการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลให้ครบทุกแห่ง การให้ความรู้ทางการเงินแก่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและสมาชิกเป็นเกณฑ์การรับการสนับสนุนเงินทุนในอนาคต เป็นต้น
3. การสนับสนุนด้านเงินทุนแก่กองทุนหมู่บ้านฯ พิจารณาเพิ่มทุนสนับสนุนแก่กองทุนหมู่บ้านฯ จำแนกตามศักยภาพของกองทุนหมู่บ้านฯ โดยแบ่งเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้ 3.1 เพิ่มทุนให้แก่กองทุนหมู่บ้านฯ ระยะที่ 3 ในส่วนที่เหลือ จำนวน 19,825 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกองทุนหมู่บ้านฯ ที่ได้รับการประเมินศักยภาพในระดับพอใช้ (C) และควรปรับปรุง (D) โดยให้กองทุนหมู่บ้านฯ แก้ไขปัญหาอุปสรรคและพัฒนาตนเอง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการรับจัดสรรเงินเพิ่มทุน ทั้งนี้ แบ่งกองทุนหมู่บ้านฯ ที่ยังไม่ได้รับจัดสรรเงินเพิ่มทุน ระยะที่ 3 เป็น 2 กลุ่ม โดยให้ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. เป็นพี่เลี้ยงดูแลกองทุนหมู่บ้านฯ ในกลุ่มที่ได้รับการประเมินศักยภาพในระดับพอใช้ (C) และระดับควรปรับปรุง (D) อย่างใกล้ชิด
3.2 สนับสนุนเงินทุนต่อยอดแก่กองทุนหมู่บ้านฯ ที่ได้รับการประเมินศักยภาพในระดับดีมาก (A) หรือระดับดี (B) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 59,874 แห่ง ให้ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. สนับสนุนวงเงินสินเชื่อรวม 40,000 ล้านบาท หรือธนาคารละ 20,000 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาการสนับสนุน 2 ปี เพื่อให้กองทุนหมู่บ้านฯ กู้ยืมเป็นเงินทุนต่อยอด สำหรับให้สมาชิกกู้ยืมเพื่อการลงทุน การสร้างรายได้ การใช้จ่ายยามจำเป็นฉุกเฉิน การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 5 ต่อปี และมีระยะเวลาการกู้ยืมไม่เกิน 5 ปี ทั้งนี้ วงเงินการกู้ยืมสำหรับกองทุนหมู่บ้านฯ แต่ละแห่งให้ขึ้นอยู่กับศักยภาพของกองทุนหมู่บ้านฯ แต่ไม่เกินข้อกำหนดของสถาบันการเงิน.
กำลังโหลดความคิดเห็น