xs
xsm
sm
md
lg

ชี้พิรุธ"แม้ว"ทวีตหลังบึ้มสมุย กลัวติดร่างแห แย้มส่งซิกเจรจาทหาร-ภูเก็ตคุมเข้ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-"สมชาย" อัด"แม้ว" กินปูนร้อนท้อง กลัวถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย กรณีทวีตแขวะ"พระสุเทพ" ด้าน "สมศักดิ์ เจียม" ระบุทวีตแรกในรอบ 1 ปี มีนัยการเมือง พุ่งเป้าโจมตี "สุเทพ"-ปชป." หวังปูทางเจรจา-ผูกมิตร-เอาใจทหาร "ไก่อู" สวนกลับอดีต ส.ส.ยะลา ชี้ตำรวจทหารทำหน้าที่เข้มแข็ง ช่วยคนดีอุ่นใจ มีแต่คนคิดร้ายที่รำคาญใจ “ถาวร” ปูด 3 นักการเมืองฝ่ายตรงข้าม คสช.-พวกเสียผลประโยชน์ โยงคาร์บอมบ์สมุย ผบ.ตร.ให้น้ำหนักนักการเมืองมีเอี่ยว ผู้ว่าฯ ภูเก็ตไม่ประมาท โลกออนไลน์แชร์คาร์บอมบ์ ประสานตำรวจตรวจเข้ม

จากกรณีเมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @ThaksinLive ข้อความว่า "ถึงพระสุเทพ (ปภากโร (เทือกสุบรรณ) อดีตเลขาธิการ กปปส.) เราหยุดมานานแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด ท่านบอกท่านบวชแล้ว 9 เดือน อย่าบวชแต่กาย เพียงนุ่งผ้าเหลือง และโกนหัวเท่านั้น ควรเอาใจไปบวชด้วย เพราะท่านมุสาเป็นประจำ นึกว่านุ่งผ้าเหลืองแล้วจะเลิกมุสา เรารู้จักกันดีพอนะ"

ต่อมาเมื่อวานนี้ (15 เม.ย.) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยแสดงความเห็นถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ ข้อความตอบโต้กรณี พระสุเทพ ปภากโร หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาระบุว่า เหตุการณ์ คาร์บอมบ์ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ว่าเป็นฝีมือของคนที่อยู่ต่างประเทศ

โดยมีใจความว่า "มีคนสงสัยว่าทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ จึงต้องส่งข้อความนี้กล่าวหาพระสุเทพ ในทัศนะของผม พ.ต.ท.ทักษิณ อาจกังวลที่สุด คือ เรื่องการถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย เพราะกลัวถูกซัดทอด โยงใยว่าเป็นผู้สั่งการ บงการเหตุการณ์วางระเบิดเเละเผาที่เซ็นทรัลสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งจะทำให้เกิดเงื่อนไขที่อาจมีการสั่งตามมาตรา 44 หรือดีเอสไอ ที่กำลังรื้อฟื้นคดีวันที่ 10 เม.ย.2553 พลิกคดี ตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ต้องหาหมายเลข 1 ในคดีก่อการร้ายอีกครั้ง หรือถูกส่งศาล เพื่อขอหมายจับส่งผ่านตำรวจสากล ซึ่งจะทำให้การเคลื่อนไหวในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และอีกหลายประเทศทั่วโลก ไม่สะดวกสบาย และไม่ได้รับการต้อนรับเหมือนก่อน คำอธิบายที่ใช้ชี้เเจงต่อ CFR ที่ไปร่วมก็ยากขึ้น"

นายสมชาย โพสต์อีกด้วยว่า ขณะที่ท่าทีสหรัฐฯ เองก็เริ่มเข้าใจขึ้น หลังจากที่โดนรัฐบาลปรับท่าทีทางการทูต กระชับสัมพันธ์กับรัสเซียเเละจีนมากขึ้น การเตรียมส่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ มาไทยอีกครั้ง หลังปล่อยให้ เเพทริก เมอร์ฟรีย์ อุปทูต คุมอำนาจเบ็ดเสร็จอยู่นานไม่เป็นผลดีต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้

"การลงมือวางระเบิดคาร์บอมบ์ด้วยค่าจ้างที่ตามรายงานข่าว ระบุว่า 5 ล้านบาท พร้อมๆ การเผาสหกรณ์โคออฟ ที่สุราษฎร์พร้อมๆ กัน ไม่ใช่ฝีมือโจรกระจอก ย่อมมีผู้สั่งการ บงการ จ่ายท่อน้ำเลี้ยงเเน่นอน การจับกุมบางคน เเละได้ตัวพยาน พร้อมเบาะเเสที่สาวถึงขบวนการที่เชื่อมโยงกัน ย่อมทำให้เห็นภาพชายใจดำชัดเจนขึ้น ดังนั้น งานนี้ ปูนจึงร้อนท้อง อย่างช่วยไม่ได้ ต้องรีบสลัดข้อหาให้ได้ ก่อนความจริงจะมัดตัว ก็เท่านั้นเเหละครับ"นายสมชายระบุ

**"สมศักดิ์ เจียม"ชี้"แม้ว"หวังเจรจาทหาร

นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาโพสต์ข้อความโจมตีพระสุเทพ ว่า น่าสนใจ และน่าสะดุดใจดี สำหรับทวีตแรก ในเวลาเกือบ 1 ปี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และถ้าตนจำไม่ผิด เรียกได้ว่าเป็นการแสดงออกทางการเมืองอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังรัฐประหาร ถ้าไม่นับทวีตเมื่อ วันที่ 25 พ.ค.2557 ไม่กี่วันหลังรัฐประหารเพียงครั้งเดียว ซึ่งก็ไม่มีอะไรนักในตอนนั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาเกือบปี จะมีลักษณะของการ "ฝากเมสเสจ" หรือ "แหล่งข่าวเล่าว่า" นี่จึงเป็นครั้งแรก ที่ทำในชื่อตัวเองโดยตรงเลย

ทั้งนี้ การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เลือกที่จะออกมาในนามตัวเองโดยตรงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบปี "เป้า" คือ "อัดสุเทพ" ตนเคยตั้งข้อสังเกตประเด็นนี้มาก่อนว่า อย่างน้อยนับจากปี 2553 มา (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ) ทิศทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ (แล้วเลยทำให้บรรดา "กลไก" ต่างๆ เช่น เพื่อไทย นปช. ลงไปถึงระดับมวลชนเสื้อแดงจำนวนมาก) ออกมาในทาง "หาทางเจรจา-ผูกมิตร-เอาใจ ทหาร- xxx แต่อัดพรรคประชาธิปัตย์ (อภิสิทธิ์-สุเทพ)" ซึ่งตนเคยวิจารณ์ว่า นี่เป็นทิศทางประหลาด และผิดด้วย

"ไม่แน่ใจว่า ทวีตแรก การแสดงออกทางการเมืองอย่างเป็นทางการแรกในรอบเกือบ 1 ปี ภายใต้ คสช. อันนี้ จะใช่ตัวอย่างหนึ่งที่ยืนยันเรื่องนี้หรือไม่ (ยังต้องรอดูต่อไป) แต่โดยส่วนตัว คือรู้สึกว่าใช่ และชวนสะดุดใจมาก"

**พท.ซัด"พระสุเทพ"เขียนนิยาย

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พระสุเทพ หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่ม กปปส.ระบุ เหตุคาร์บอมบ์ เป็นฝีมือของคนที่อยู่ต่างประเทศ รวมถึง พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่พยายามอธิบายให้เชื่อมโยงกับบางฝ่ายว่า น่าแปลกใจ ที่ถึงวันนี้มือวางระเบิดคาร์บอมบ์ ยังไม่ได้ตัว และยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร แต่พระสุเทพ กลับรีบร้อนออกมาเขียนนิยายสรุปทันทีว่า ใครเป็นคนทำ หากพระสุเทพ รู้ตัวว่าใครเป็นคนทำ หรือจ้างวาน ให้ระบุชื่อมาเลย หากเกี่ยวข้องกับใคร เขาจะได้ฟ้องร้องได้ถูก หรือหากมีข้อมูลจริง ก็ควรส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ขอยืนยันว่า พวกเราไม่มีใครจิตใจสกปรกทำร้ายประเทศได้แบบนั้น

** "ไก่อู"อัดกลับอดีตส.ส.ยะลา

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายซูกาโนร์ มะทา อดีต ส.ส. ยะลา ออกมาแสดงความเห็นว่า กรณีรถยนต์ที่ถูกขโมยจาก จ.ยะลา แล้วนำมาก่อเหตุคาร์บอมบ์ ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี แสดงว่า ด่านตรวจในพื้นที่ไร้ประสิทธิภาพ รวมทั้งเป็นการสร้างความรำคาญใจให้กับประชาชนในพื้นที่นั้น ว่า ประชาชนผู้บริสุทธิ์ และสุจริตชนในพื้นที่ ต่างรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจ รวมทั้งให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับเจ้าหน้าที่ น่าจะมีก็แต่ผู้มีคดีความติดตัว หรือผู้มีส่วนเกี่ยวพันกับการก่อความไม่สงบ ที่ไม่ต้องการให้หน่วยปฏิบัติการรักษาความปลอดภัย การกล่าวเช่นนี้เป็นการพูดจาแบบคนไร้จิตสำนัก และให้ท้ายเปิดช่องให้ผู้กระทำผิด

สำหรับความคืบหน้าของคดี ระเบิดที่ห้างเซนทรัลเฟสติวัล เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสเพิ่มเติม จากการสอบปากคำพยานหลายปากที่เห็นเหตุการณ์ปล้นรถ ทำให้ได้ข้อมูลสำคัญที่น่าจะนำไปสู่ตัวผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังได้ในไม่ช้า

** 3นักการเมืองใต้โยงคาร์บอมบ์

นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำ กปปส. กล่าวถึงกรณีที่หน่วยข่าวกรองในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตรวจสอบรายชื่อผู้วางแผนระเบิดลานจอดรถชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล สาขาเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พบว่าเชื่อมโยงกับอดีตนักการเมือง 3 คน ในภาคใต้ ว่า คดีนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คุมการสอบสวนเอง เชื่อว่าจะสามารถนำตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีได้ อย่างไรก็ตาม นักการเมืองบางคน ก็ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว

"ผมขอให้อดใจรอ เพราะกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ที่มีเครื่องมือในการติดตามสื่อสาร รวมถึงการจับเส้นทางการเงิน ซึ่งข้อมูลของ ผบ.ตร. และ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ ก็เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่ง 3 นักการเมืองที่เชื่อมโยงเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นนักการเมืองที่อยู่ตรงข้ามกับ คสช. และนักการเมืองที่สูญเสียผลประโยชน์ จึงขอให้อดใจรอภาครัฐ คาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้ เราจะได้ตัวผู้ที่กระทำความผิด" นายถาวรกล่าว

***ผบ.ตร.ให้น้ำหนักนักการเมืองเอี่ยว

วันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์ที่ลาดจอดรถห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อกลางดึกวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ตนยังคงให้น้ำหนักไปที่ประเด็นการเมือง เนื่องจากมีพยานหลักฐานว่ากลุ่มนักการเมืองที่มีชื่อเสียงที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ภาคใต้เป็นคนให้การสนับสนุนและช่วยเหลือการคนร้ายในการก่อเหตุครั้งนี้ แต่ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งและยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน

"ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา 44 เพราะตำรวจไม่สามารถสร้างหรือบิดเบือนพยานหลักฐานได้ และทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริง"พล.ต.อ.สมยศกล่าว

ส่วนการสอบสวน “เอ็ม เสื้อแดง” ให้ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน หากพบว่าเกี่ยวข้องก็ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนคพิจารณาว่าจะสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่

***ออนไลน์แชร์เตือนคาร์บอมบ์ภูเก็ต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเชียลได้มีการแชร์ข้อความเตือนว่าจะมีคาร์บอมบ์เกิดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต หลังจากได้เกิดคาร์บอมบ์ ที่ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล เฟสติวัล สมุย เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยข้อความที่มีการแชร์กันนั้น ระบุว่า การข่าวจากหน่วยข่าวกรองบอกว่าจะมีการบอมที่ภูเก็ต 2 จุด คือ ในตัวเมืองภูเก็ตและหาดป่าตอง ทุกคนอย่าไปเที่ยวห้างสรรพสินค้าในช่วงนี้ พร้อมทั้งระบุว่าได้รับแจ้งจากสายข่าว ให้เฝ้าระวังและจับตารถยนต์ต้องสงสัยที่กลุ่มคนร้ายจะใช้ก่อเหตคาร์บอมบ์ เป็นรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส มีจุดสังเกตที่ฝากระโปรงดำ ตัวถังจะเป็นโทนสีขาวครีม เข้ามาในภูเก็ต พวกที่จะทำคือพวกแดงฮาร์ดคอร์ ทุกจุดในภูเก็ตตั้งจุดตรวจแล้ว และจะวางระเบิดตามจุด

***ผู้ว่าฯ-ตำรวจไม่ประมาทสั่งเช็กถี่ยิบ

นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตนทราบเรื่องดังกล่าวมา 2-3 วันแล้ว โดยมีการส่งเข้ามาทางไลน์ และตนได้ปรึกษากับหน่วยข่าวกรองของทหารแล้วว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ทำไลน์ดังกล่าวขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้ประมาทแม้ว่าจะเป็นเรื่องไปจริงก็ตาม จึงได้ประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจทางรถยนต์ที่ภูเก็ตบริเวณด่านตรวจท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภเก็ต ให้เข้มงวดมากที่สุด รวมทั้งเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และยังได้ประสานไปยังผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต และศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ให้เพิ่มความเข้มงวดและตรวจค้นรถทุกคันที่จะเข้ามาจอดภายในห้างอย่างละเอียด หากมีอะไรผิดสังเกตุสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบได้ทันที

พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า หลังจากตนเองได้เห็นข้อความดังกล่าวได้สั่งการให้ด่านตรวจเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจค้นรถทุกคันที่จะเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต และให้ตรวจอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม ในส่วนพื้นที่ป่าตองก็สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจเข้มเช่นเดียวกัน ในส่วนห้างสรรพสินค้านั้นก็ให้ รปภ.ของห้างตรวจเข้มอีกด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้รถต้องสงสัยเข้ามาในพื้นที่

อย่างไรก็ตาม ที่บริเวณด่านตรวจท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นทางเข้า-ออก เกาะภูเก็ตโดยทางรถยนต์เพียงทางเดียวนั้น เจ้าหน้าที่ประจำด่านได้ตรวจรถยนต์ที่ผ่านด่านเข้ามอย่างเข้มงวด หากพบรถยนต์คันใดมีลักษณะใกล้เคียงกับรถต้องสงสัยที่ถูกขโมยมาจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือคนขับมีพฤติกรรมเป็นที่สงสัย ทางเจ้าหน้าที่จะเรียกมาตรวจค้นอย่างละเอียดทุกคัน ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเหมือนที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

เช่นเดียวกับที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ รปภ จะตรวจเข้มรถที่เข้ามาในห้าง ทั้งการสแกนวัตถุระเบิด วัตถุต้องสงสัย เปิดกระโปรงรถเพื่อตรวสอบ แต่บรรยากาศภายในห้างสรรพสินค้าก็ยังคึกคัก มีประชาชนมาจับจ่ายเลือกซื้อสินค้า รับประทานอาหาร ดูภาพยนตร์กันอย่างคึกคัก เนื่องจากเป็นช่วงสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาว เหมือนกับห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ที่มีการตรวจรถเข้าออกอย่างเข้มงวดเช่นกัน

ในขณะที่บรรยากาศตามบริเวณชายหาดต่างๆ ของภูเก็ต ก็คราครั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติมานอนอาบแดดและทำกิจกรรมบนชายหาด หรือเที่ยวดื่มกินในยามค่ำคืน การแชร์คำเตือนในโลกโซเชียลไม่ได้ส่งผลกระทบกับท่องเที่ยวของภูเก็ตมากนัก
กำลังโหลดความคิดเห็น