00 แน่นอนว่าหากไม่มีเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่ห้างเซ็นทรัลฯสมุย เมื่อค่ำวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ก็ต้องถือว่าเทศกาลวันสงกรานต์ในปีนี้ เป็นปีที่คนไทยจะได้ฉลองกันอย่างสนุกสนาน และมีความสุขกันอย่างเต็มที่ หลังจากต้องเจอกับสภาพชุมนุม และการสลายการชุมนุมในช่วงเวลานี้ต่อเนื่องกันหลายปี อย่างไรก็ดี แม้ว่าโดยภาพรวมแล้วถือว่าไม่มีปัญหา ทุกอย่างยังควบคุมสถานการณ์ได้ ทำให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยว สาดน้ำกันสนุกกันทั่วประเทศ แม้แต่การท่องเที่ยวในเกาะสมุย และเกาะพะงัน ตามรายงานข่าวระบุว่าแม้จะเกิดเหตุระเบิดที่เกาะสมุยควันไม่ทันจาง แต่ก็มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศต่างเฮโลกันไปวันละนับหมื่นคน ดังนั้นถ้าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว ทุกอย่างก็จะสวยสดงดงามยิ่ง
00 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ต้องมาวิเคราะห์กันตามมาว่า "สาเหตุ" มาจากไหน และมีเป้าหมายอย่างไร และทำไมต้องเป็นที่ สมุย หากพิจารณากันทีละขั้นตอน ทีละเรื่อง ก็จะพอเห็นสาเหตุและแรงจูงใจได้ไม่ยาก เริ่มจากพื้นที่ก่อน ต้องรับรู้กันว่าพื้นที่เกาะสมุยเป็นแหล่งท่องเที่ยวในภาคใต้ ที่ร้อยวันพันปี จะไม่มีเหตุการณ์ในลักษณะแบบนี้ แม้กระทั่งในยุคที่พรรคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.)มีอิทธิพลในพื้นที่แถบนี้ ทั้งนครศรีฯ และสุราษฎร์ฯ ในหลายอำเภอเป็นพื้นที่อิทธิพล หรือสีแดง มีการเผาโรงพักเผาศาลากลางในยุคนั้น แต่เกาะสมุยจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเลย เพราะด้วยภูมิประเทศเป็นเกาะ จึงไม่เหมาะที่ฝ่ายต่อต้านรัฐจะยึดพื้นที่ เพราะหากจะยึดก็คงจะยึดภายหลังหากกระทำการหรือปฏิวัติในพื้นที่อื่นสำเร็จแล้ว ขณะเดียวกันด้วยสภาพเป็นเกาะดังกล่าว ชาวบ้านจึงอยู่กันแบบพี่น้อง ช่วยเหลือกัน จึงไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องความไม่เป็นธรรม หรือถูกเจ้าหน้าที่รัฐรังแกเหมือนกับในหลายพื้นที่ในยุคนั้น นั่นคือสภาพพื้นเพความเป็นมาในเกาะสมุย ก่อนจะถูกพัดพามาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในปัจจุบัน
00 การก่ออาชญากรรม ก็มีบ้าง ซึ่งไม่เกี่ยวกับแรงจูงใจทางการเมือง ดังนั้นการก่อเหตุที่ชั้นจอดรถในห้างเซ็นทรัลฯสมุย เมื่อ"ค่ำวันที่ 10 เม.ย." มันถือว่า "มีความหมาย" อย่างยิ่ง มีความหมายตรงที่ไม่ทันสิ้นเสียงระเบิดดีนักฝ่ายทหารที่ดูแลด้านความมั่นคง ก็สรุปตามมาทันทีว่าเป็น "ระเบิดการเมือง" แถมยังมีการ "จัดฉาก" ตบตาเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นให้เป็น "ฝีมือของโจรใต้" เสียด้วย แต่ถึงอย่างไรก็อาจจะโยงกันทางอ้อมเล็กน้อย นั่นก็คือ ฝ่ายจัดหามือระเบิดก็เป็นนักการเมืองสายอำนาจเก่าในพื้นที่ชายแดนใต้ พูดแค่นี้มันก็พอเห็นภาพกันแล้วนะว่าเป็นฝีมือพวกไหน !!
00 "อำนาจเก่า" ในความหมายย่อมสื่อให้เข้าใจว่าเป็นพวก "ระบอบทักษิณ" และเมื่อนำมาปะติดปะต่อกับคำแถลงของรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ที่พูดเป็นนัยว่า เหตุระเบิดที่สมุย มีลักษณะเดียวกันกับเหตุระเบิดที่ทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอส กับห้างสยามพารากอน ก่อนหน้านี้ อีกทั้งการที่ทหารจับกุม "เอ็ม เสื้อแดง" ที่โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ราวกับว่ารู้เหตุการณ์ล่วงหน้า แม้ว่าต่อมาทางฝ่าย พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกตร. จะให้ข้อมูลว่าจากการสอบสวนผู้ต้องสงสัยที่จับกุมได้ดังกล่าวไม่น่าจะเกี่ยวกับเหตุการณ์ และไม่ใช่เป็นคนที่โพสต์ข้อความเอง แต่กำลังมีการสอบสวนขยายผลกันต่อไป เพราะถึงไม่ใช่นายเอ็มเป็นคนโพสต์ แต่คนอื่นที่โพสต์ก็ต้องรู้ !!
00 น่าสังเกตต่อมาก็คือ ก่อเหตุในวันที่ 10 เมษาฯ วันเดียวกับที่ใช้อาวุธถล่มทหาร ฆ่า พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ที่สี่แยกคอกวัว สองเป็นพื้นที่เกาะสมุย เป็นพื้นที่ที่ พระสุเทพ ปภากโร ประกาศก่อนหน้านี้ว่า จะใช้เป็นพื้นที่ในบั้นปลาย รวมไปถึงมีเหตุการณ์เพลิงใหม้ที่สหกรณ์โคออฟ ที่สุราษฎร์ฯ ซึ่งเปรียบเหมือนสัญญลักษณ์ของ พระสุเทพ ในอดีต มันก็น่าคิด ขณะเดียวกันอย่างที่มีการระบุในตอนต้นแล้วว่า งานนี้เป็นการจัดฉากว่าเป็นฝีมือโจรใต้ มีการแสดงให้เห็นว่า มีการปล้นรถจากยะลามาก่อเหตุ แต่ก็อย่างว่ามัน "ไม่เนียน" นั่นคือ ในเรื่องของพื้นที่ที่พยายามให้เห็นว่ากลุ่มโจรใต้ขยายอิทธิพลออกนอกพื้นที่มันก็ไม่สมเหตุสมผล เพราะเมื่อพิจารณาจากความเป็นไปได้อย่างมากก็น่าจะเป็นเพียงแค่หาดใหญ่ ก็น่าจะเข้าใจได้ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็เพียงแค่การ "รับจ้าง" ก่อเหตุ คือเป็นคนในพื้นที่ชายแดนใต้ แบบเฉพาะกิจเท่านั้น
00 อาการเหมือนกับสะดุ้งโหยง สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกับ "คนแดนไกล" ที่กำลังพูดถึงหรือเปล่า แต่รีบออกมาปฏิเสธทันควันหลังจาก พระสุเทพ ปภากโร ออกมาพูดว่าขอให้คนที่คิดร้ายต่อบ้านเมืองหยุดได้แล้ว ขออย่าใด้เห็นแก่เศษเงินของคนแดนไกล แต่เอาเป็นว่างานนี้ "รับไปเต็มๆ" ก็แล้วกัน !!
00 ขณะเดียวกันมองอีกมุมหนึ่งเหตุการณ์วางระเบิดที่เกาะสมุยคราวนี้มันเหมือนกับการตีแสกหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ที่เรียกร้องให้คนไทยเลิกทะเลาะเลิกขัดแย้งกันได้อีกครั้ง เพราะถ้าข้อสันนิษฐานข้อมูลโยงใยกับเหตุการณ์ระเบิดในเมืองกรุง เป็นฝีมือของกลุ่มอำนาจเก่า เพราะในความเป็นจริงที่ผ่านมา มีแต่คนกลุ่มนี้กลุ่มเดียวเท่านั่นที่ก่อเหตุป่วน คนไทยกลุ่มอื่นไม่ทำแบบนี้ ไม่มีกลุ่มติดอาวุธ ไม่ปลุกระดม ไม่ล้มเจ้า และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ป่วนเพื่อล็อกเป้าหมายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาล และคสช. อย่างเดียว !!
00 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ต้องมาวิเคราะห์กันตามมาว่า "สาเหตุ" มาจากไหน และมีเป้าหมายอย่างไร และทำไมต้องเป็นที่ สมุย หากพิจารณากันทีละขั้นตอน ทีละเรื่อง ก็จะพอเห็นสาเหตุและแรงจูงใจได้ไม่ยาก เริ่มจากพื้นที่ก่อน ต้องรับรู้กันว่าพื้นที่เกาะสมุยเป็นแหล่งท่องเที่ยวในภาคใต้ ที่ร้อยวันพันปี จะไม่มีเหตุการณ์ในลักษณะแบบนี้ แม้กระทั่งในยุคที่พรรคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.)มีอิทธิพลในพื้นที่แถบนี้ ทั้งนครศรีฯ และสุราษฎร์ฯ ในหลายอำเภอเป็นพื้นที่อิทธิพล หรือสีแดง มีการเผาโรงพักเผาศาลากลางในยุคนั้น แต่เกาะสมุยจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเลย เพราะด้วยภูมิประเทศเป็นเกาะ จึงไม่เหมาะที่ฝ่ายต่อต้านรัฐจะยึดพื้นที่ เพราะหากจะยึดก็คงจะยึดภายหลังหากกระทำการหรือปฏิวัติในพื้นที่อื่นสำเร็จแล้ว ขณะเดียวกันด้วยสภาพเป็นเกาะดังกล่าว ชาวบ้านจึงอยู่กันแบบพี่น้อง ช่วยเหลือกัน จึงไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องความไม่เป็นธรรม หรือถูกเจ้าหน้าที่รัฐรังแกเหมือนกับในหลายพื้นที่ในยุคนั้น นั่นคือสภาพพื้นเพความเป็นมาในเกาะสมุย ก่อนจะถูกพัดพามาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในปัจจุบัน
00 การก่ออาชญากรรม ก็มีบ้าง ซึ่งไม่เกี่ยวกับแรงจูงใจทางการเมือง ดังนั้นการก่อเหตุที่ชั้นจอดรถในห้างเซ็นทรัลฯสมุย เมื่อ"ค่ำวันที่ 10 เม.ย." มันถือว่า "มีความหมาย" อย่างยิ่ง มีความหมายตรงที่ไม่ทันสิ้นเสียงระเบิดดีนักฝ่ายทหารที่ดูแลด้านความมั่นคง ก็สรุปตามมาทันทีว่าเป็น "ระเบิดการเมือง" แถมยังมีการ "จัดฉาก" ตบตาเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นให้เป็น "ฝีมือของโจรใต้" เสียด้วย แต่ถึงอย่างไรก็อาจจะโยงกันทางอ้อมเล็กน้อย นั่นก็คือ ฝ่ายจัดหามือระเบิดก็เป็นนักการเมืองสายอำนาจเก่าในพื้นที่ชายแดนใต้ พูดแค่นี้มันก็พอเห็นภาพกันแล้วนะว่าเป็นฝีมือพวกไหน !!
00 "อำนาจเก่า" ในความหมายย่อมสื่อให้เข้าใจว่าเป็นพวก "ระบอบทักษิณ" และเมื่อนำมาปะติดปะต่อกับคำแถลงของรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ที่พูดเป็นนัยว่า เหตุระเบิดที่สมุย มีลักษณะเดียวกันกับเหตุระเบิดที่ทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอส กับห้างสยามพารากอน ก่อนหน้านี้ อีกทั้งการที่ทหารจับกุม "เอ็ม เสื้อแดง" ที่โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ราวกับว่ารู้เหตุการณ์ล่วงหน้า แม้ว่าต่อมาทางฝ่าย พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกตร. จะให้ข้อมูลว่าจากการสอบสวนผู้ต้องสงสัยที่จับกุมได้ดังกล่าวไม่น่าจะเกี่ยวกับเหตุการณ์ และไม่ใช่เป็นคนที่โพสต์ข้อความเอง แต่กำลังมีการสอบสวนขยายผลกันต่อไป เพราะถึงไม่ใช่นายเอ็มเป็นคนโพสต์ แต่คนอื่นที่โพสต์ก็ต้องรู้ !!
00 น่าสังเกตต่อมาก็คือ ก่อเหตุในวันที่ 10 เมษาฯ วันเดียวกับที่ใช้อาวุธถล่มทหาร ฆ่า พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ที่สี่แยกคอกวัว สองเป็นพื้นที่เกาะสมุย เป็นพื้นที่ที่ พระสุเทพ ปภากโร ประกาศก่อนหน้านี้ว่า จะใช้เป็นพื้นที่ในบั้นปลาย รวมไปถึงมีเหตุการณ์เพลิงใหม้ที่สหกรณ์โคออฟ ที่สุราษฎร์ฯ ซึ่งเปรียบเหมือนสัญญลักษณ์ของ พระสุเทพ ในอดีต มันก็น่าคิด ขณะเดียวกันอย่างที่มีการระบุในตอนต้นแล้วว่า งานนี้เป็นการจัดฉากว่าเป็นฝีมือโจรใต้ มีการแสดงให้เห็นว่า มีการปล้นรถจากยะลามาก่อเหตุ แต่ก็อย่างว่ามัน "ไม่เนียน" นั่นคือ ในเรื่องของพื้นที่ที่พยายามให้เห็นว่ากลุ่มโจรใต้ขยายอิทธิพลออกนอกพื้นที่มันก็ไม่สมเหตุสมผล เพราะเมื่อพิจารณาจากความเป็นไปได้อย่างมากก็น่าจะเป็นเพียงแค่หาดใหญ่ ก็น่าจะเข้าใจได้ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็เพียงแค่การ "รับจ้าง" ก่อเหตุ คือเป็นคนในพื้นที่ชายแดนใต้ แบบเฉพาะกิจเท่านั้น
00 อาการเหมือนกับสะดุ้งโหยง สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกับ "คนแดนไกล" ที่กำลังพูดถึงหรือเปล่า แต่รีบออกมาปฏิเสธทันควันหลังจาก พระสุเทพ ปภากโร ออกมาพูดว่าขอให้คนที่คิดร้ายต่อบ้านเมืองหยุดได้แล้ว ขออย่าใด้เห็นแก่เศษเงินของคนแดนไกล แต่เอาเป็นว่างานนี้ "รับไปเต็มๆ" ก็แล้วกัน !!
00 ขณะเดียวกันมองอีกมุมหนึ่งเหตุการณ์วางระเบิดที่เกาะสมุยคราวนี้มันเหมือนกับการตีแสกหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ที่เรียกร้องให้คนไทยเลิกทะเลาะเลิกขัดแย้งกันได้อีกครั้ง เพราะถ้าข้อสันนิษฐานข้อมูลโยงใยกับเหตุการณ์ระเบิดในเมืองกรุง เป็นฝีมือของกลุ่มอำนาจเก่า เพราะในความเป็นจริงที่ผ่านมา มีแต่คนกลุ่มนี้กลุ่มเดียวเท่านั่นที่ก่อเหตุป่วน คนไทยกลุ่มอื่นไม่ทำแบบนี้ ไม่มีกลุ่มติดอาวุธ ไม่ปลุกระดม ไม่ล้มเจ้า และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ป่วนเพื่อล็อกเป้าหมายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาล และคสช. อย่างเดียว !!