สุราษฎร์ธานี - ผบ.ตร.ลงพื้นที่เกาะสมุย ติดตาม และตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สมุย ระบุไม่เชื่อมโยงกับเหตุเพลิงไหม้โคออป ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะ และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ด้านผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ ระบุ ไม่กระทบท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวไม่ได้เช็กเอาต์ออก และยกเลิกการจองห้องพักโรงแรมแต่อย่างใด ส่วนห้างฯ ปิดดำเนินการ 3 วัน ให้เจ้าหน้าที่เก็บข้อมูล และตรวจสอบรอยร้าวจากแรงระเบิด
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้ (11 เม.ย.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและที่ปรึกษา (สบ 10) นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.เกื้อกูล อินนาจักร ผู้บังคับการจังหวัดทหารบก สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามความคืบหน้า และตรวจสอบพื้นที่ที่เหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล สมุย และเหตุเพลิงไหม้สหกรณ์สุราษฎร์ธานี หรือโคออป สุราษฎร์ธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา (10 เม.ย.)
โดยได้รับฟังรายงานสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่ ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.ของวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา รถยนต์คนที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์กระบะมาสด้า ทะเบียน กข 4892 ยะลา เขียนโลโก้ข้างประตู “องค์การบริหารตำบลละแอ” ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 31 มี.ค. คนร้าย จำนวน 7-8 คน แต่งกายคล้ายทหารพรานก่อเหตุดักปล้นรถยนต์กระบะจาก นายอับดุลรอซะ ดูมีแด พนักงานขับรถ อบต.ละแอ ไปที่บริเวณข้างทางป่าละเมาะ สามแยกบ้านคละ ต.ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา และจับมัดแอบไว้ข้างทางป่าละเมาะ ก่อนที่จะนำมาสวมทะเบียนปลอมเป็น กย 5618 ชลบุรี และนำมาก่อเหตุที่เกาะสมุยดังกล่าว
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบภายในบริเวณลานจอดรถของห้างเช็นทรัล สมุย จุดเกิดเหตุ โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนและบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ และก่อนที่จะประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ว่า ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ตรวจสอบข้อมูลก่อน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ EOD หรือเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ทำงานอีกสักระยะหนึ่ง แต่ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
“เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นที่สมุยนี้ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว ซึ่งจุดนี้เชื่อว่าเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการและควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างแน่นอน”
ผบ.ตร.ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า เหตุการณ์ระเบิดที่ลานจอดรถของห้างเซ็นทรัล กับเหตุเพลิงไหม้โคออป สุราษฎร์ธานีนั้น ไม่เป็นการเชื่อมโยงการก่อเหตุของคนร้ายแต่อย่างใด โดยที่ห้างเซ็นทรัลนั้น เป็นคาร์บอมบ์ตามที่ทราบกันแล้ว ส่วนที่โคออป ในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ หรือไฟฟ้าลัดวงจร ไม่เกี่ยวข้องต่อการสร้างสถานการณ์แต่อย่างใด จุดนี้จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ทำงานเก็บพยานหลักฐานสักระยะหนึ่งก่อนจึงจะทราบได้ว่าเกิดจากอะไร
“อยากจะขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานสักระยะหนึ่งก่อนเพื่อตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเช็กภาพกล้องวงจรปิด เช็กประวัติพนักงานของห้างเซ็นทรัล สมุย ทั้งหมดว่ามีใครที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร หรือระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างสถานการณ์ แต่ในเบื้องต้นนั้นเป็นคาร์บอมบ์แน่นอน และยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะสามารถสรุปคดีได้ทั้งหมดเมื่อใด แต่ในเบื้องต้นยืนยันว่า ทั้ง 2 เหตุการณ์ไม่มีความเชื่อมโยงกันแต่อย่างใด”
ด้าน นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 จุด เมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่ได้กระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเกาะสมุยแต่อย่างใด เพราะจากการสอบถามผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยวไม่ได้เช็กเอาต์ออก และยกเลิกการจองห้องพักในการเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะสมุย หลังเกิดเหตุการณ์ รวมไปถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ ในช่วงสงกรานต์ก็ยังมีตามปกติ
ส่วนห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล นั้น จะต้องปิดดำเนินการไปก่อนในเบื้องต้น 3 วัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เก็บพยานหลักฐานทั้งหมด รวมไปถึงตรวจสอบความมั่นคงของอาคารอีกด้วย เพราะแรงระเบิดดังกล่าวทำให้กระจกของร้านค้าแตก และมีรอยร้าวเกิดขึ้นอีกด้วย
