ยะลา - ผู้การฯ ยะลา รุดสอบปากคำพนักงานขับรถ อบต.ละแอ อ.ยะหา หลังพบรถยนต์ที่ถูกปล้นถูกนำไปทำคาร์บอมที่ อ.เกาะสมุย เจ้าหน้าที่เร่งแกะรอยล่าคนร้าย
วันนี้ (11 เม.ย.) เวลา 09.10 น. ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 อ.ยะหา จ.ยะลา พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปพนวัฒน์ ขัตติยะวรานันท์ ผกก.สภ.ยะหา พ.ต.อ.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน ผกก.สืบสวนฯ ภ.จว.ยะลา ได้เดินทางมาร่วมประชุมกับ พันเอกธนุตม์ พิศาลสิทธิวัฒน์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 47 เพื่อซักถาม นายอับดุลราซะ ดูมีแด อายุ 52 ปี พนักงานขับรถ อบต.ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งเป็นผู้ขับรถกระบะ มาสด้า 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กข 4892 ยะลา ที่ถูกคนร้ายปล้นไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดพบว่าคนคันดังกล่าวไปก่อเหตุคาร์บอม ในพื้นที่ เกาะสมุย จ.สุราษฎรธานี คืนวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยนายอับดุลราซะ ดูมีแด ยังคงให้ปากคำวกวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังไม่ให้ข้อมูลใดๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อพนักงานสอบสวน
พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผบก.ภ.จว.ยะลา เปิดเผยว่า ในการเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อมาซักถาม พนักงานขับรถ อบต.ละแอ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากยังคงมีข้อสงสัยในหลายประเด็น ทางพนักงานสอบสวนยังไม่เชื่อคำให้การของนายอับดุลรอซะ ดูมีแด เนื่องจากเชื่อว่ายังให้การไม่เป็นประโยชน์ ส่วนเส้นทางการนำรถคันดังกล่าวออกนอกพื้นที่ ก็ยังตรวจสอบไม่ได้ เนื่องจากหลังเกิดเหตุ นายอับดุลรอซะ เดินทางมาแจ้งความหลังจากเกิดเหตุไปแล้ว 2 ชั่วโมง ให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามได้ ส่วนการประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ที่ เกาะสมุย ก็อยู่ในระหว่างการตรวจสอบหลักฐาน แต่ในเบื้องต้นยืนยันว่า รถคันที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ ที่สมุย เป็นรถคันเดียวกันที่ถูกปล้น จากพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา ในวันที่ 31 มี.ค.2558
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่รถยนต์กระบะที่ถูกปล้นไปจากพื้นที่ จ.ยะลา จนถูกนำไปก่อเหตุในพื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยเหตุผลใด และมีเป้าหมายใด อีกทั้งตรวจสอบเส้นทางการนำรถยนต์คันดังกล่าวออกจากพื้นที่ด้วยวิธีใด ที่สามารถหลบสายตา หรือจุดตรวจ ด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ ที่มีอยู่อย่างหนาแน่นไปได้ โดยเชื่อว่า กลุ่มที่ได้นำรถยนต์ออกจากพื้นที่ไป จะต้องมีการประสานงาน และติดต่อกันอย่างต่อเนื่องในเขตรอยต่อ จ.ยะลา และ จ.สงขลา โดยเชื่อว่า รถยนต์คันดังกล่าวที่ถูกปล้นไป ต้องถูกนำไปด้วยวิธีการขับขี่ไปตามเส้นทางที่ได้มีการเตรียมวางแผนไว้ แล้ว และอีกวิธีคือการนำรถยนต์กระบะใส่ตู้คอนเทรนเนอร์ และใช้รถยนต์บรรทุกไปยัง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
นอกจากนี้ หน่วยข่าวความมั่นคงฯ ยังวิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า การปล้นรถยนต์ไปจากพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา เพื่อไปก่อเหตุที่ อ.เกาะสมุย ในครั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่ามีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องโดยมีความร่วมมือกันหลายฝ่าย ทั้งกลุ่มผู้ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ กับกลุ่มผู้คิดต่างทางการเมือง เพื่อต้องการสร้างสถานการณ์ทางการเมือง อีกทั้งยังได้วิเคราะห์ว่า เหตุการณ์คาร์บอมที่ อ.เกาะสมุย ในครั้งนี้ มีลักษณะคล้ายคลึงกับการพบรถยนต์ที่ถูกปล้นไปและประกอบระเบิดด้วยถังแก๊ส แล้วนำไปจอดไว้ในเขตเทศบาลเมืองภูเก็ต จนเจ้าหน้าที่ไปพบว่า ระเบิดภายในรถยนต์ที่ประกอบไว้ไม่ทำงาน จึงได้ทำการเก็บกู้ไว้เมื่อหลายเดือนก่อน