อากาศร้อนขนาดนี้ อย่าว่าแต่คนเลยที่จะหน้ามืด! น้องหมาก็มีสิทธิ์เป็นได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่เราผู้เป็นเจ้าของต้องมาเรียนรู้เทคนิคการกู้ชีพน้องหมาของเราด้วยมือเปล่า!! เพื่อให้ทันท่วงทีในนาทีฉุกเฉินเมื่อน้องหมาหมดสติ ไม่ให้เป็นอันตรายถึงชีวิต
รู้ได้อย่างไรว่าน้องหมาหมดสติ
1.ใช้วิธีเรียกและเขย่าตัวสุนัขก่อนอันดับแรก
2.หากยังนิ่งเงียบ ไม่รู้สึกตัวให้ลองใช้มืออิงที่จมูกเพื่อเช็คลมหายใจ หรือลองสังเกตบริเวณหน้าอก และช่วงท้องว่ามีการขยับเขยื้อน พอง-ยุบไหม ถ้ามีแสดงว่ายังหายใจ
3.เพื่อให้แน่ใจว่าน้องหมายังมีโอกาสรอด ให้คลำดูชีพจรที่ข้อเท้าหน้าหรือหลังของน้องหมา,โคนขาหนีบของขาหลัง และช่วงอกของสุนัข
4.กรณีไม่พบการเต้นของชีพจร ให้ลองเช็คจุดสำคัญด้านอื่นฯ เช่น หากสีเหงือกม่วง รูม่านตาเริ่มขยายและตอบสนองต่อแสงช้าลง ให้รีบกู้ชีพน้องหมาทันทีด้วยวิธีดังนี้
เทคนิคชุบชีวิตสุนัขอย่างมือโปร
1.ตั้งสติไม่ตื่นตระหนกตกใจ
2.ทำช่องปากน้องหมาให้โล่ง ด้วยการเอาเศษอาหาร สิ่งแปลกปลอม น้ำลาย และสิ่งที่กีดขวางอยู่ในช่องปากออกให้หมด จากนั้นยืดคอให้ได้ระดับ เปิดปากให้กว้าง แล้วช่วยดึงลิ้นออกมาให้มากที่สุด
3.ช่วยผายปอดด้วยวิธี “ปากต่อจมูก” โดยการใช้มือกำรวบปากและคางน้องหมา แล้วเป่าลมเข้าปากน้องหมา ทุกๆ 3 - 5 วินาที (เวลาเป่าหนึ่งครั้งให้นับ 1 ) เมื่อเป่าลมไปได้ 12 - 20 ครั้ง หรือประมาณ 1 นาที ให้หยุดแล้วสังเกตว่า สามารถหายใจเองได้แล้วหรือยัง ถ้ายัง.. ก็ให้ทำต่อไป
4.ช่วยปั๊มหัวใจ กรณีคลำไม่พบชีพจร และพบว่าหัวใจหยุดเต้น ให้เราบีบนวดหัวใจของน้องหมาซึ่งอยู่บริเวณชายโครงด้านซ้าย ถัดจากขาหนีบหน้าซ้าย ติดกัน 5-10 ครั้ง สลับกับการผายปอด 1 ครั้ง โดยใน 1 นาทีเราควรปั๊มหัวใจให้ได้ประมาณ 80 - 120 ครั้ง เมื่อครบ 1 นาทีให้คลำตรวจชีพจรว่าเต้นหรือยัง แต่ถ้ายัง.. ให้ทำต่อไป
5.รีบพาส่งโรงพยาบาล พบสัตวแพทย์ หลังจากน้องหมาสามารถหายใจได้แล้ว หรือคลำพบการเต้นของชีพจรแล้วให้รีบนำส่งสัตวแพทย์ กรณีสุนัขยังนิ่งเฉย ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ให้ตั้งสติให้ดี จากนั้นควรรีบนำสุนัขไปโรงพยาบาล
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสวนหลวงสัตวแพทย์