ASTVผู้จัดการรายวัน-"บิ๊กป๊อก" แนะขอโทษประชาชน ไล่ไปอยู่บนดอยหนีน้ำท่วม "ประวิตร"โบ้ยไปถามเจ้าตัวเอง ด้าน "สุขุมพันธ์"อ้างพูดเล่น หากอยากด่า ให้ด่าตัวเอง ยันไม่กังวลนายกฯ สั่งสอบ กทม. ชี้การระบายน้ำดีขึ้นมาก พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังจุดเสี่ยงเต็มที่ ล่าสุดเจอโลกโซเซียลป่วน แชร์ว่อนผู้บริหารปาร์ตี้ ปล่อยคนกรุงผจญน้ำท่วม "อุเทน" แนะทางแก้ หาทางให้น้ำไป หาที่ให้น้ำอยู่
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับมือฝนตกหนัก ให้เปรียบเหมือนเป็นฤดูฝน โดยให้มีการดูแลอุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อมใช้งาน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มในพื้นที่จุดเสี่ยงในเขตรับผิดชอบ และจัดบุคลากรเจ้าหน้าที่ประจำจุด เพื่อเฝ้าระวัง รวมทั้งให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกประชาชนขณะที่ฝนตกหนักและมีน้ำขังรอระบายในจุดต่างๆ อย่างเต็มเวลา
ส่วนกรณีที่ฝนตกหนักเมื่อคืนวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่า มีปริมาณฝนเฉลี่ย 80-120 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง แต่กทม. สามารถระบายน้ำได้เร็วกว่าในอดีต โดยฝนตกเวลา 20.30 น. ระบายน้ำในถนนสายหลักได้แห้งหมด 23.00 น. โดยเฉพาะในซอยแอนเน็ก ถ.พหลโยธินและศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ ซึ่งในอดีตเคยใช้เวลาระบายน้ำนาน 4-5 ชั่วโมง แต่ กทม. สามารถระบายน้ำให้แห้งได้ในเวลา 1-2 ชั่วโมง
นอกจากนี้ กทม. จะเชิญหน่วยงานที่ดูแลและก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคและการสร้างรถไฟฟ้า เช่น องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย รถไฟฟ้าบีทีเอส กรมทางหลวงชนบท การไฟฟ้านครหลวง มาร่วมหารือ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะพื้นที่ก่อสร้างเป็นอุปสรรคในการระบายน้ำ
"อยากให้ประชาชนวางใจ เพราะเหตุการณ์ 2 วันที่ผ่านมา ชัดเจนว่า กทม. แก้ปัญหาได้ในเวลาที่เร็วกว่าอดีต ประชาชนกังวลได้ เป็นห่วงได้ แต่อย่าคิดว่า กทม. ไม่พร้อม บางทีพูดเล่นบ้าง ทีเล่นทีจริงบ้าง แล้วยกคำพูดนั้นให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ จะทำอย่างนั้น ผมไม่ว่า แต่ขอให้เกียรติลูกน้องผม เพราะทำงานหนัก โดยการรายงานข่าวดีๆ จะด่าผมเมื่อไรก็ได้"ม.ร.ว.สุขุมพันธ์กล่าว
ทั้งนี้ การระบุดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ได้ออกมาพูดว่า "เมืองน้ำ เมืองฝน ไม่อยากได้น้ำก็ไปอยู่บนดอย" และมีการนำคำพูดไปแชร์ผ่านโลกโซเซียล
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ปัญหาภัยแล้งยังมีอยู่ การพร่องน้ำต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ต้องช่วยเหลือเกษตรกร โดยกทม. จะดูแลทั้ง 2 ด้าน ทั้งประชาชนและเกษตรกร
ส่วนกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจสอบการทำงานของกทม. เกี่ยวกับการรับมือน้ำท่วม ยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไร รัฐบาลตรวจสอบการทำงานได้ ไม่กังวล ไม่มีอะไรปิดบัง แต่หากดูในระยะ 6 ปีที่ผ่านมา กทม. ระบายน้ำได้แห้งเร็วขึ้น บางเส้นที่เคยท่วมประจำ ก็ไม่ท่วม ซึ่งได้ชี้แจงไปแล้ว รวมถึงข้อจำกัดในการทำงาน
***โพสต์กลอนให้กำลังใจสำนักระบายน้ำ
วันเดียวกันนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ "ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร" โดยมีใจความว่า "สวัสดีครับพี่น้องประชาชนที่เคารพ วันนี้ผมมีข้อความเล็กๆ จากความรู้สึกของเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ (สนน.) ที่ส่งมาให้กำลังใจผม และฝากผมให้ช่วยส่งผ่านเฟซของผมถึงพี่น้องประชาชน เราสัญญาครับว่าเราจะทำงานให้หนักยิ่งขึ้น เพื่อบรรเทาความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนให้เร็วที่สุด พร้อมกับโพสต์กลอนฝากให้กำลังใจ "คนสู้น้ำ"
***"ประวัตร"สั่ง กทม.ชี้แจงประชาชน
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประสานงานกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ว่า ผู้ว่าฯ กทม. ได้ชี้แจงแล้ว รวมถึงแนวทางการแก้ปัญหาหากเกิดน้ำท่วมขังในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก ส่วนกรณีที่ผู้ว่าฯ กทม.ระบุว่าถ้าไม่อยากน้ำท่วมให้ไปอยู่บนดอยนั้น ตนก็ไม่รู้ ต้องไปถามท่านเอง แต่ท่านก็พยายามแก้ปัญหาอยู่
"ผมก็คุยกับท่านไปแล้วว่าจะดำเนินการอะไร ต้องชี้แจงประชาชนให้รับทราบว่าหากเกิดปัญหาแบบนี้ จะแก้ปัญหาอย่างไร เมื่อประชาชนทราบ ก็ไม่ด่า แต่ถ้าเขาไม่รู้ เขาก็ด่า แต่คงไม่จำเป็นต้องบอกว่าท่านต้องเอาน้ำออกเพื่อให้น้ำแห้ง เมื่อแห้งแล้วต้องเช็ด คงไม่ใช่ คนละเรื่อง ท่านเป็นผู้บริหาร ท่านรู้หมด"พล.อ.ประวิตรกล่าว
***"บิ๊กป๊อก"แนะขอโทษไล่อยู่บนดอย
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ระบุให้ประชาชนยอมรับในชะตากรรม เพราะกรุงเทพฯ เป็นเมืองน้ำในที่ลุ่ม ถ้าไม่อยากมีน้ำท่วมต้องไปอยู่บนดอยว่า เข้าใจว่าผู้ว่าฯ กทม. คงไม่ได้หมายความตามที่พูด แต่ตนเห็นว่าท่านต้องออกมาขอโทษประชาชนต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และเร่งแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก เพียงแค่ท่านออกมาขอโทษและรีบแก้ไข เชื่อว่าคนไทยให้อภัยได้ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับผู้ว่าฯ กทม. ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เชื่อว่าท่านคงจะใช้เวลาเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นอีกในช่วงนี้
"ที่ผ่านมา ได้ประชุมร่วมกับ กทม. หลายครั้ง ซึ่งได้พูดคุยเรื่องการพร่องน้ำ ระบายน้ำในคลองต่างๆ รวมถึงเรื่องของท่อระบายน้ำใน กทม. ซึ่งเคยให้นโยบายไปแล้วว่า ถ้า กทม. สามารถขยายท่อระบายน้ำให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ ก็อยากให้ดำเนินการ อย่างน้อยก็น่าจะช่วยเรื่องของการระบายน้ำได้"
***โฆษก กทม. แจงภาพปาร์ตี้ผู้บริหารหลุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ สังคมออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และผู้บริหาร กทม. กำลังเลี้ยงสังสรรค์ภายในงานในโรงแรมแห่งหนึ่ง ระบุว่าเป็นภาพผู้ว่าฯ กทม.พร้อมกับผู้อำนวยการสำนักฯ ผู้อำนวยการเขต ผู้ช่วยเขต เข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ จัดโดยกรุงเทพมหานคร ณ โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในขณะที่ประชาชนผจญกับปัญหาน้ำท่วมทั่วกรุง
น.ส.ตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ภาพที่แชร์กันในโลกออนไลน์ เป็นงานเลี้ยงซึ่งจัดในช่วงเวลา 19.00 น. ของวันที่ 24 มี.ค.จริง โดยเป็นภาพในงานเลี้ยงการประชุมผู้จัดพิมพ์นานาชาติ ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล โดย กทม. ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานตามพันธกิจการเป็นเมืองหนังสือโลก วันดังกล่าว ผู้ว่าฯ กทม.และผู้บริหาร กทม.ได้เฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการเสด็จเป็นองค์ประธานในเวลา 09.00 น. จากนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้เดินทางกลับไปปฏิบัติภารกิจที่ศาลาว่าการ กทม. และบัญชาการดูแลแก้ปัญหาน้ำท่วมตั้งแต่ 12.00 น. ต่อมาเมื่อเวลา 18.00 น. กทม.สามารถระบายน้ำถนนสายหลักได้หมด ทาง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์จึงได้เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงในเวลา 19.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลงแล้ว จึงไม่อยากให้ประชาชนเข้าใจผิด
***"อุเทน"แนะหาทางให้น้ำไป หาที่ให้น้ำอยู่
นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย และอดีตประธานคณะกรรมการผันน้ำลงทะเลทางฝั่งตะวันออก ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Utain Shartpinyo” ถึงกรณีที่มีฝนตกหนักในพื้นที่ กทม. ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง และการจราจรเป็นอัมพาตในหลายพื้นที่ว่า วิธีการแก้ไขปัญหา 1.ต้องทำการปรับขนาดช่องหรือตะแกรงระบายน้ำให้มีขนาดใหญ่ และยาวขึ้น รวมทั้งเปลี่ยนตัวเหล็กซี่จากแนวตั้งให้เป็นแนวนอน 2.กำหนดระดับน้ำสูงสุดของทุกคลองใหม่ทั้งหมด เพื่อให้คลองพร่องน้ำในระดับต่ำ เมื่อฝนตกลงมาก็สามารถรองรับน้ำที่จะไหลลงมาได้ ที่สำคัญต้องนำระบบอัตโนมัติเข้าไปควบคุม แทนปัจจุบันที่ใช้คนเป็นผู้เปิดปิดประตูระบายน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ กทม.มองข้าม แต่ทั้ง 2 วิธีเป็นสิ่งที่เคยใช้ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมื่อปี 2554 มาแล้ว และสามารถป้องกันไม่ให้น้ำท่วมพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ได้
"การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมต้องยึดหลักที่ว่า หาทางให้น้ำไป และหาที่ให้น้ำอยู่ เพียงเท่านี้ก็ควบคุมและจัดการเรื่องน้ำท่วมได้แล้ว แต่ กทม.ต้องเร่งไปทำความสะอาด และนำดินทราย หรือสิ่งที่อุดตันตามช่องระบายน้ำบนสะพานทุกสะพานออกเสียก่อน น้ำฝนที่ตกก็จะไหลลงลงท่อไป ไม่ไหลมารวมกันตรงเชิงสะพานอีก แก้ได้ทั้งปัญหาน้ำท่วมและรถติด"นายอุเทนระบุ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับมือฝนตกหนัก ให้เปรียบเหมือนเป็นฤดูฝน โดยให้มีการดูแลอุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อมใช้งาน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มในพื้นที่จุดเสี่ยงในเขตรับผิดชอบ และจัดบุคลากรเจ้าหน้าที่ประจำจุด เพื่อเฝ้าระวัง รวมทั้งให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกประชาชนขณะที่ฝนตกหนักและมีน้ำขังรอระบายในจุดต่างๆ อย่างเต็มเวลา
ส่วนกรณีที่ฝนตกหนักเมื่อคืนวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่า มีปริมาณฝนเฉลี่ย 80-120 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง แต่กทม. สามารถระบายน้ำได้เร็วกว่าในอดีต โดยฝนตกเวลา 20.30 น. ระบายน้ำในถนนสายหลักได้แห้งหมด 23.00 น. โดยเฉพาะในซอยแอนเน็ก ถ.พหลโยธินและศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ ซึ่งในอดีตเคยใช้เวลาระบายน้ำนาน 4-5 ชั่วโมง แต่ กทม. สามารถระบายน้ำให้แห้งได้ในเวลา 1-2 ชั่วโมง
นอกจากนี้ กทม. จะเชิญหน่วยงานที่ดูแลและก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคและการสร้างรถไฟฟ้า เช่น องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย รถไฟฟ้าบีทีเอส กรมทางหลวงชนบท การไฟฟ้านครหลวง มาร่วมหารือ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะพื้นที่ก่อสร้างเป็นอุปสรรคในการระบายน้ำ
"อยากให้ประชาชนวางใจ เพราะเหตุการณ์ 2 วันที่ผ่านมา ชัดเจนว่า กทม. แก้ปัญหาได้ในเวลาที่เร็วกว่าอดีต ประชาชนกังวลได้ เป็นห่วงได้ แต่อย่าคิดว่า กทม. ไม่พร้อม บางทีพูดเล่นบ้าง ทีเล่นทีจริงบ้าง แล้วยกคำพูดนั้นให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ จะทำอย่างนั้น ผมไม่ว่า แต่ขอให้เกียรติลูกน้องผม เพราะทำงานหนัก โดยการรายงานข่าวดีๆ จะด่าผมเมื่อไรก็ได้"ม.ร.ว.สุขุมพันธ์กล่าว
ทั้งนี้ การระบุดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ได้ออกมาพูดว่า "เมืองน้ำ เมืองฝน ไม่อยากได้น้ำก็ไปอยู่บนดอย" และมีการนำคำพูดไปแชร์ผ่านโลกโซเซียล
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ปัญหาภัยแล้งยังมีอยู่ การพร่องน้ำต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ต้องช่วยเหลือเกษตรกร โดยกทม. จะดูแลทั้ง 2 ด้าน ทั้งประชาชนและเกษตรกร
ส่วนกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจสอบการทำงานของกทม. เกี่ยวกับการรับมือน้ำท่วม ยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไร รัฐบาลตรวจสอบการทำงานได้ ไม่กังวล ไม่มีอะไรปิดบัง แต่หากดูในระยะ 6 ปีที่ผ่านมา กทม. ระบายน้ำได้แห้งเร็วขึ้น บางเส้นที่เคยท่วมประจำ ก็ไม่ท่วม ซึ่งได้ชี้แจงไปแล้ว รวมถึงข้อจำกัดในการทำงาน
***โพสต์กลอนให้กำลังใจสำนักระบายน้ำ
วันเดียวกันนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ "ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร" โดยมีใจความว่า "สวัสดีครับพี่น้องประชาชนที่เคารพ วันนี้ผมมีข้อความเล็กๆ จากความรู้สึกของเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ (สนน.) ที่ส่งมาให้กำลังใจผม และฝากผมให้ช่วยส่งผ่านเฟซของผมถึงพี่น้องประชาชน เราสัญญาครับว่าเราจะทำงานให้หนักยิ่งขึ้น เพื่อบรรเทาความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนให้เร็วที่สุด พร้อมกับโพสต์กลอนฝากให้กำลังใจ "คนสู้น้ำ"
***"ประวัตร"สั่ง กทม.ชี้แจงประชาชน
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประสานงานกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ว่า ผู้ว่าฯ กทม. ได้ชี้แจงแล้ว รวมถึงแนวทางการแก้ปัญหาหากเกิดน้ำท่วมขังในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก ส่วนกรณีที่ผู้ว่าฯ กทม.ระบุว่าถ้าไม่อยากน้ำท่วมให้ไปอยู่บนดอยนั้น ตนก็ไม่รู้ ต้องไปถามท่านเอง แต่ท่านก็พยายามแก้ปัญหาอยู่
"ผมก็คุยกับท่านไปแล้วว่าจะดำเนินการอะไร ต้องชี้แจงประชาชนให้รับทราบว่าหากเกิดปัญหาแบบนี้ จะแก้ปัญหาอย่างไร เมื่อประชาชนทราบ ก็ไม่ด่า แต่ถ้าเขาไม่รู้ เขาก็ด่า แต่คงไม่จำเป็นต้องบอกว่าท่านต้องเอาน้ำออกเพื่อให้น้ำแห้ง เมื่อแห้งแล้วต้องเช็ด คงไม่ใช่ คนละเรื่อง ท่านเป็นผู้บริหาร ท่านรู้หมด"พล.อ.ประวิตรกล่าว
***"บิ๊กป๊อก"แนะขอโทษไล่อยู่บนดอย
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ระบุให้ประชาชนยอมรับในชะตากรรม เพราะกรุงเทพฯ เป็นเมืองน้ำในที่ลุ่ม ถ้าไม่อยากมีน้ำท่วมต้องไปอยู่บนดอยว่า เข้าใจว่าผู้ว่าฯ กทม. คงไม่ได้หมายความตามที่พูด แต่ตนเห็นว่าท่านต้องออกมาขอโทษประชาชนต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และเร่งแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก เพียงแค่ท่านออกมาขอโทษและรีบแก้ไข เชื่อว่าคนไทยให้อภัยได้ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับผู้ว่าฯ กทม. ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เชื่อว่าท่านคงจะใช้เวลาเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นอีกในช่วงนี้
"ที่ผ่านมา ได้ประชุมร่วมกับ กทม. หลายครั้ง ซึ่งได้พูดคุยเรื่องการพร่องน้ำ ระบายน้ำในคลองต่างๆ รวมถึงเรื่องของท่อระบายน้ำใน กทม. ซึ่งเคยให้นโยบายไปแล้วว่า ถ้า กทม. สามารถขยายท่อระบายน้ำให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ ก็อยากให้ดำเนินการ อย่างน้อยก็น่าจะช่วยเรื่องของการระบายน้ำได้"
***โฆษก กทม. แจงภาพปาร์ตี้ผู้บริหารหลุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ สังคมออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และผู้บริหาร กทม. กำลังเลี้ยงสังสรรค์ภายในงานในโรงแรมแห่งหนึ่ง ระบุว่าเป็นภาพผู้ว่าฯ กทม.พร้อมกับผู้อำนวยการสำนักฯ ผู้อำนวยการเขต ผู้ช่วยเขต เข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ จัดโดยกรุงเทพมหานคร ณ โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในขณะที่ประชาชนผจญกับปัญหาน้ำท่วมทั่วกรุง
น.ส.ตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ภาพที่แชร์กันในโลกออนไลน์ เป็นงานเลี้ยงซึ่งจัดในช่วงเวลา 19.00 น. ของวันที่ 24 มี.ค.จริง โดยเป็นภาพในงานเลี้ยงการประชุมผู้จัดพิมพ์นานาชาติ ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล โดย กทม. ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานตามพันธกิจการเป็นเมืองหนังสือโลก วันดังกล่าว ผู้ว่าฯ กทม.และผู้บริหาร กทม.ได้เฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการเสด็จเป็นองค์ประธานในเวลา 09.00 น. จากนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้เดินทางกลับไปปฏิบัติภารกิจที่ศาลาว่าการ กทม. และบัญชาการดูแลแก้ปัญหาน้ำท่วมตั้งแต่ 12.00 น. ต่อมาเมื่อเวลา 18.00 น. กทม.สามารถระบายน้ำถนนสายหลักได้หมด ทาง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์จึงได้เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงในเวลา 19.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลงแล้ว จึงไม่อยากให้ประชาชนเข้าใจผิด
***"อุเทน"แนะหาทางให้น้ำไป หาที่ให้น้ำอยู่
นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย และอดีตประธานคณะกรรมการผันน้ำลงทะเลทางฝั่งตะวันออก ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Utain Shartpinyo” ถึงกรณีที่มีฝนตกหนักในพื้นที่ กทม. ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง และการจราจรเป็นอัมพาตในหลายพื้นที่ว่า วิธีการแก้ไขปัญหา 1.ต้องทำการปรับขนาดช่องหรือตะแกรงระบายน้ำให้มีขนาดใหญ่ และยาวขึ้น รวมทั้งเปลี่ยนตัวเหล็กซี่จากแนวตั้งให้เป็นแนวนอน 2.กำหนดระดับน้ำสูงสุดของทุกคลองใหม่ทั้งหมด เพื่อให้คลองพร่องน้ำในระดับต่ำ เมื่อฝนตกลงมาก็สามารถรองรับน้ำที่จะไหลลงมาได้ ที่สำคัญต้องนำระบบอัตโนมัติเข้าไปควบคุม แทนปัจจุบันที่ใช้คนเป็นผู้เปิดปิดประตูระบายน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ กทม.มองข้าม แต่ทั้ง 2 วิธีเป็นสิ่งที่เคยใช้ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมื่อปี 2554 มาแล้ว และสามารถป้องกันไม่ให้น้ำท่วมพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ได้
"การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมต้องยึดหลักที่ว่า หาทางให้น้ำไป และหาที่ให้น้ำอยู่ เพียงเท่านี้ก็ควบคุมและจัดการเรื่องน้ำท่วมได้แล้ว แต่ กทม.ต้องเร่งไปทำความสะอาด และนำดินทราย หรือสิ่งที่อุดตันตามช่องระบายน้ำบนสะพานทุกสะพานออกเสียก่อน น้ำฝนที่ตกก็จะไหลลงลงท่อไป ไม่ไหลมารวมกันตรงเชิงสะพานอีก แก้ได้ทั้งปัญหาน้ำท่วมและรถติด"นายอุเทนระบุ