ASTVผู้จัดการรายวัน - นายกฯ สั่งรัฐมนตรีคลังหยุดพูดเรื่องภาษีได้แล้ว เพราะยิ่งพูดคนยิ่งสับสน ย้ำยังไม่ใช่เวลาที่จะมาปรับขึ้นแวต คนรายได้น้อย-เศรษฐกิจยังไม่ดี ด้านฐานะการคลัง 5 เดือนแรกปีงบ 58 รัฐนำส่งรายได้ 7.9 แสนล้าน เพิ่มขึ้น 0.7% เผยขาดดุลเงินสด 3.12 แสนล้าน เงินคงคลังเหลือ 1.83 แสนล้าน สะท้อนรัฐบาลพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันว่า รัฐบาลยังคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ที่ 7% เพราะรู้ดีว่าประชาชนส่วนใหญ่มีรายได้น้อย เศรษฐกิจไม่ดี ซึ่งรัฐบาลพยายามดูแลคนจนอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นได้สั่งให้กระทรวงการคลังหยุดให้ความเห็นในเรื่องนี้ เพราะหากพูดมากไปยิ่งทำให้ประชาชนเกิดความสับสนไม่เข้าใจ แต่ยืนยันรัฐบาลจำเป็นต้องปรับโครงสร้างภาษีให้เท่าเทียมและเป็นธรรม และมองว่าหากเศรษฐกิจประเทศยังดี นั่นหมายความว่าธุรกิจสีเทายังเติบโต เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการแก้ไขหรือจัดระเบียบเรื่องนี้
"รัฐบาลกำลังพยายามแก้ไขปัญหาในภาพรวมทั้งหมด พร้อมขอร้องผู้ประกอบการธุรกิจอย่าเพิ่งออกมาโวยวายว่ารัฐบาลไม่ได้ให้การช่วยเหลือ เพราะขณะนี้รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาในภาพรวมทั้งหมดอยู่ ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจต้องเข้าใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากรากฐานความมั่นคงไม่เข้มแข็งในช่วงรัฐบาลที่ผ่านมา และต้องยอมรับว่าการแก้ปัญหาเพียง 8 เดือน ไม่สามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จในทุกเรื่อง แต่สิ่งที่รัฐบาลพยายามจะทำคือการแก้ปัญหาทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการวางรากฐานเชื่อมโยงเศรษฐกิจชายแดน และอาเซียน และวางระบบสาธารณูปโภค ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2565" นายกรัฐมนตรีกล่าว
***เผย 5 เดือนขาดดุลเพราะรัฐอัดฉีด
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เผยฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ต.ค.57-ก.พ.58) ว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 797,432 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 5,586 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.7 โดยสาเหตุมาจากกรมสรรพสามิตมีรายได้จากภาษีน้ำมันและภาษียาสูบสูงกว่าปีที่แล้ว
ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 1,210,266 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 8,380 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.7 ทำให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 412,834 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุล 961 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 411,873 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 99,259 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดหลังกู้ขาดดุลทั้งสิ้น 312,614 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 183,133 ล้านบาท
"การขาดดุลในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณสะท้อนถึงบทบาทของรัฐบาลในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่ภาคเอกชนยังระมัดระวังการใช้จ่าย" นายเอกนิติกล่าว.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันว่า รัฐบาลยังคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ที่ 7% เพราะรู้ดีว่าประชาชนส่วนใหญ่มีรายได้น้อย เศรษฐกิจไม่ดี ซึ่งรัฐบาลพยายามดูแลคนจนอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นได้สั่งให้กระทรวงการคลังหยุดให้ความเห็นในเรื่องนี้ เพราะหากพูดมากไปยิ่งทำให้ประชาชนเกิดความสับสนไม่เข้าใจ แต่ยืนยันรัฐบาลจำเป็นต้องปรับโครงสร้างภาษีให้เท่าเทียมและเป็นธรรม และมองว่าหากเศรษฐกิจประเทศยังดี นั่นหมายความว่าธุรกิจสีเทายังเติบโต เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการแก้ไขหรือจัดระเบียบเรื่องนี้
"รัฐบาลกำลังพยายามแก้ไขปัญหาในภาพรวมทั้งหมด พร้อมขอร้องผู้ประกอบการธุรกิจอย่าเพิ่งออกมาโวยวายว่ารัฐบาลไม่ได้ให้การช่วยเหลือ เพราะขณะนี้รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาในภาพรวมทั้งหมดอยู่ ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจต้องเข้าใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากรากฐานความมั่นคงไม่เข้มแข็งในช่วงรัฐบาลที่ผ่านมา และต้องยอมรับว่าการแก้ปัญหาเพียง 8 เดือน ไม่สามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จในทุกเรื่อง แต่สิ่งที่รัฐบาลพยายามจะทำคือการแก้ปัญหาทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการวางรากฐานเชื่อมโยงเศรษฐกิจชายแดน และอาเซียน และวางระบบสาธารณูปโภค ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2565" นายกรัฐมนตรีกล่าว
***เผย 5 เดือนขาดดุลเพราะรัฐอัดฉีด
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เผยฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ต.ค.57-ก.พ.58) ว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 797,432 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 5,586 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.7 โดยสาเหตุมาจากกรมสรรพสามิตมีรายได้จากภาษีน้ำมันและภาษียาสูบสูงกว่าปีที่แล้ว
ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 1,210,266 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 8,380 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.7 ทำให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 412,834 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุล 961 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 411,873 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 99,259 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดหลังกู้ขาดดุลทั้งสิ้น 312,614 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 183,133 ล้านบาท
"การขาดดุลในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณสะท้อนถึงบทบาทของรัฐบาลในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่ภาคเอกชนยังระมัดระวังการใช้จ่าย" นายเอกนิติกล่าว.