ASTV ผู้จัดการรายวัน - ปิดตลาดฯวันนี้ BAY-AOT-SCC กดดัชนีฯ หลุดแนวรับ 1,500 จุดลงไปส่งผลทางจิตวิทยา นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น นักวิเคราะห์แนะจุดเก็บหุ้นลงทุนระยะสั้นที่ 1,480 จุด
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันอังคารที่ 24 มีนาคม 2558 ไปที่ 1,514.45 จุด ลดลง 5.56 จุด เปลี่ยนแปลง 0.37% มูลค่าซื้อขายรวม 46,561 ล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 468.39 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 157.40 ล้านบาท ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 236.28 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 389.51 ล้านบาท
นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เออีซี สรุปบรรยาการหุ้นไทยวานนี้ดัชนีแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยลงไปต่ำสุดที่ 1,499.88 จุด ลดลง 20.13 จุด แม้จะรีบาวด์ขึ้นมาปิดตลาดที่ 1,514.45 จุด แต่นักลงทุนความมั่นใจในการลงทุนจึงถือเงินสดรอดูทิศทางดัชนี
“การที่ดัชนีหลุด 1500 จุดลงมาฉุดสภาพคล่องการลงทุนหดหายเพราะนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจจึงเลือกที่จะถือเงินสด คาดว่าการดีดของดัชนีช่วงบ่ายน่าจะเป็นผลจาก Window Dressing แต่คาดว่ารอบนี้จะปรับตัวได้ไม่ไม่เกินแนวต้าน 1,540 จุด สำหรับแนวโน้มการปรับตัวลงต่ำกว่า 1,500 จุด สำหรับนักลงทุนระยะสั้นอาจจะเสี่ยงเข้าซื้อเพื่อเล่นเทรดดิ้งได้ เพราะมองว่าตรงจุดนี้จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา และมีการตั้ง Trigger Fund โดยให้จุดเก็บหุ้นเพื่อการลงทุนระยะสั้นที่ 1,480 จุด” นายเกรียงไกร กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(25 มี.ค.)ยังเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาตลาดฯได้ เบื้องต้นดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,480 - 1,520 จุด อย่างไรก็ดี ยังมีความคาดหวังจากการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตร
ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าบรรยากาศการลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ใน SET 50 เคลื่นอไหวในแดนลบกดดัชนีไม่ให้สามารถรีบาวด์กลับได้แรง โดยหลักทรัพย์ที่กดดัชนีมากที่สุด 5 อันดับแรก 1.BAY ปิดที่ระดับ 44.25 บาท ลดลง -1.50 บาท ราคาหุ้นที่ลดลงมีผลต่อดัชนี -1.1788 จุด 2.AOT ปิดที่ระดับ 298.00 บาท ลดลง -5.00 บาท ราคาหุ้นที่ลดลงมีผลต่อดัชนี -0.7631 จุด 3.SCC ปิดที่ระดับ 530.00 บาท ลดลง -4.00 บาท ราคาหุ้นที่ลดลงมีผลต่อดัชนี -0.5128 จุด 4.KBANK ปิดที่ระดับ 225.00 บาท ลดลง -2.00 บาท ราคาหุ้นที่ลดลงมีผลต่อดัชนี -0.5114 จุด 5..MINT ปิดที่ระดับ 34.50 บาท ลดลง -1.00 บาท ราคาหุ้นที่ลดลงมีผลต่อดัชนี -0.4276 จุด โดยหลักทรัพย์ที่ดันดัชนีมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.PTT ปิดที่ระดับ 331.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อดัชนี 1.5258 จุด2.TPIPL ปิดที่ระดับ 2.62 บาท เพิ่มขึ้น 0.34 บาท ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อดัชนี 0.7334 จุด 3.TRUE ปิดที่ระดับ 12.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อดัชนี 0.5258 จุด 4.PTTEP ปิดที่ระดับ 107.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อดัชนี 0.4241 จุด และ 5.IVL ปิดที่ระดับ 26.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อดัชนี 0.2572 จุด
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันอังคารที่ 24 มีนาคม 2558 ไปที่ 1,514.45 จุด ลดลง 5.56 จุด เปลี่ยนแปลง 0.37% มูลค่าซื้อขายรวม 46,561 ล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 468.39 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 157.40 ล้านบาท ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 236.28 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 389.51 ล้านบาท
นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เออีซี สรุปบรรยาการหุ้นไทยวานนี้ดัชนีแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยลงไปต่ำสุดที่ 1,499.88 จุด ลดลง 20.13 จุด แม้จะรีบาวด์ขึ้นมาปิดตลาดที่ 1,514.45 จุด แต่นักลงทุนความมั่นใจในการลงทุนจึงถือเงินสดรอดูทิศทางดัชนี
“การที่ดัชนีหลุด 1500 จุดลงมาฉุดสภาพคล่องการลงทุนหดหายเพราะนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจจึงเลือกที่จะถือเงินสด คาดว่าการดีดของดัชนีช่วงบ่ายน่าจะเป็นผลจาก Window Dressing แต่คาดว่ารอบนี้จะปรับตัวได้ไม่ไม่เกินแนวต้าน 1,540 จุด สำหรับแนวโน้มการปรับตัวลงต่ำกว่า 1,500 จุด สำหรับนักลงทุนระยะสั้นอาจจะเสี่ยงเข้าซื้อเพื่อเล่นเทรดดิ้งได้ เพราะมองว่าตรงจุดนี้จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา และมีการตั้ง Trigger Fund โดยให้จุดเก็บหุ้นเพื่อการลงทุนระยะสั้นที่ 1,480 จุด” นายเกรียงไกร กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(25 มี.ค.)ยังเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาตลาดฯได้ เบื้องต้นดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,480 - 1,520 จุด อย่างไรก็ดี ยังมีความคาดหวังจากการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตร
ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าบรรยากาศการลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ใน SET 50 เคลื่นอไหวในแดนลบกดดัชนีไม่ให้สามารถรีบาวด์กลับได้แรง โดยหลักทรัพย์ที่กดดัชนีมากที่สุด 5 อันดับแรก 1.BAY ปิดที่ระดับ 44.25 บาท ลดลง -1.50 บาท ราคาหุ้นที่ลดลงมีผลต่อดัชนี -1.1788 จุด 2.AOT ปิดที่ระดับ 298.00 บาท ลดลง -5.00 บาท ราคาหุ้นที่ลดลงมีผลต่อดัชนี -0.7631 จุด 3.SCC ปิดที่ระดับ 530.00 บาท ลดลง -4.00 บาท ราคาหุ้นที่ลดลงมีผลต่อดัชนี -0.5128 จุด 4.KBANK ปิดที่ระดับ 225.00 บาท ลดลง -2.00 บาท ราคาหุ้นที่ลดลงมีผลต่อดัชนี -0.5114 จุด 5..MINT ปิดที่ระดับ 34.50 บาท ลดลง -1.00 บาท ราคาหุ้นที่ลดลงมีผลต่อดัชนี -0.4276 จุด โดยหลักทรัพย์ที่ดันดัชนีมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.PTT ปิดที่ระดับ 331.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อดัชนี 1.5258 จุด2.TPIPL ปิดที่ระดับ 2.62 บาท เพิ่มขึ้น 0.34 บาท ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อดัชนี 0.7334 จุด 3.TRUE ปิดที่ระดับ 12.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อดัชนี 0.5258 จุด 4.PTTEP ปิดที่ระดับ 107.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อดัชนี 0.4241 จุด และ 5.IVL ปิดที่ระดับ 26.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อดัชนี 0.2572 จุด