ประชาชนคนไทยนั้น ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์...ต้องมาก่อน!
ชาติ -คือ ประชาชนและสรรพสิ่งในประเทศไทย ซึ่งต้องได้รับการดูแลด้วยความยุติธรรม
ศาสนา -คือ สิ่งยึดเหนี่ยวให้มนุษย์ทำในสิ่งดีงาม ทั้งทางความคิดและปฏิบัติ เพื่อให้ชีวิตเดินไปบนหนทางอันทรงไว้ซึ่งคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต รู้พอเพียง ไม่เบียดเบียน เอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน อีกทั้งเป็นผู้ให้หรือเสียสละเพื่อส่วนรวม
สรุปแบบเรียบง่ายและงดงามยิ่ง คือ ศาสนาสอนให้คนจงทำดีและละการทำชั่วนั่นเอง!
พระมหากษัตริย์ กับ คนไทย ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาแต่อดีตตราบปัจจุบัน เรียกว่า...สถาบันพระมหากษัตริย์นั้น อยู่คู่กับสังคมไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะในหลวงรัชกาลปัจจุบัน ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจโดยมิรู้เหนื่อย เพื่อช่วยให้พสกนิกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ที่สำคัญพระองค์ได้ทรงเสนอทฤษฎี “เศรษฐกิจพอเพียง” ให้เป็นแนวทางดำเนินชีวิตของคนในชาติ จนเป็นที่ยอมรับของคนไทยและชาวโลก
ดังนั้น ถ้าชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ สถาบันใดสถาบันหนึ่งอ่อนแอลงหรือเข้มแข็งขึ้น ย่อมส่งผลกระทบต่อกันและกัน ทั้งในแง่ลบหรือแง่บวกทันทีโดยอัตโนมัติ
หากชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มั่นคงแข็งแรง พวกอภิมหาโจรทั้งไทยและต่างประเทศ ที่สมคบคิดจะโกงและปล้นทรัพยากรในชาติไทย ก็จะทำชั่วได้ยากขึ้น-ทำชั่วได้น้อยลง-หรือทำชั่วไม่ได้เลย ในบางเรื่องบางกรณี
ยามนี้...กลุ่มทุนสามานย์ที่เคยยึดอำนาจรัฐไทย มองว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” นั้น เป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการกอบโกยผลประโยชน์ ของระบอบทุนนิยมสามานย์เหลี่ยมและพวกในต่างแดน
ดังนั้น กลุ่มทุนสามานย์ทั้งในและต่างชาติ จึงแอบสนับสนุนขบวนการ “ล้มเจ้า” โดยให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์สารพัดเรื่อง ด้วยมุ่งจะเปลี่ยนการปกครองชาติไทย ถึงขนาดเหลี่ยมเคยประกาศที่ต่างแดนว่า
อีกไม่นาน...ไทยจะเป็นประชาธิปไตยแบบอเมริกา นั่นคือ ระบอบประธานาธิบดีเป็นประมุข!!!
“ล้มเจ้า” ยังไม่พอ...เหลี่ยมยังสมคบกับกลุ่มเดียรถีย์ที่ใช้ผ้าเหลืองบังหน้า แจกทรัพย์สินให้พระใหญ่น้อยบางรูป เพื่อยึดอำนาจในวงการศาสนา เพราะรัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยมหวังใช้พระทั่วประเทศเป็นหัวคะแนนทางการเมือง เครือข่ายเหลี่ยมจึงให้การสนับสนุนเดียรถีย์ “นะจ๊ะ” ทั้งการจัดกิจกรรมและงบประมาณอย่างต่อเนื่อง
เหลี่ยมกับเดียรถีย์ “นะจ๊ะ” และพวก โดยเฉพาะพระผู้ใหญ่บางรูปที่ดูแลศาสนา ได้ปล่อยให้วงการสงฆ์เต็มไปด้วยการต้มตุ๋น-การโกหกหลอกลวง-การโกงเงินชาวบ้านและวัด ฯลฯ เผยแพร่คำสอนที่อวดอุตริมนุสธรรม ที่มิใช่พุทธศาสนาที่แท้จริงเรื่อยมา
แถมเดียรถีย์ยังได้เลื่อนตำแหน่ง ได้แต่งตัวเลียนแบบสงฆ์มาจนทุกวันนี้ ทั้งๆ ที่ลิขิตของพระสังฆราชระบุชัดว่า เดียรถีย์ที่โกงทรัพย์สินของวัดนั้น ได้อาบัติต้องปาราชิกไปนานแล้ว
ความชั่วเก่ายังไม่มีการลงโทษ ลัทธิ “นะจ๊ะสู่สวรรค์ด้วยเงิน” ก็ร่วมกับคนชั่วโกงเงินสมาชิกสหกรณ์ฯ นำไปฟอก-ไปผลาญ-กับธุรกิจกำมะลออีกนับพันนับหมื่นล้านบาท เรื่องฉาวจนทางการกำลังตามรอยฉ้อฉลนี้ เพื่อดำเนินคดีทางโลกต่อกลุ่มคนชั่ว ในขณะที่พระผู้ใหญ่ยังนิ่งเฉยทำตัวเป็น “ทองไม่รู้ร้อน” ต่อไปเหลี่ยม-เดียรถีย์-พระผู้ใหญ่บางรูป ได้ทำให้ชาวพุทธเคลือบแคลง-ระแวง-สงสัย ทำลายศรัทธาที่มีต่อพระสงฆ์ในศาสนจักรจนสั่นคลอนมิใช่น้อย
วันนี้ถ้าจะกราบไหว้พระสักรูป ต้องคิดอยู่หลายตลบว่า โล้นห่มผ้าเหลืองถือบาตรเดินมานั้น เป็นพระจริง พระดี พระปฏิบัติธรรมตามรอยพระบาทขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้ารึเปล่า?
ว่าไปแล้ว...พระธรรมคำสอนนั้น ไม่มีอะไรสลับซับซ้อนเลย เพราะพระต้องสอนให้คนทำดี และสอนให้คนละการทำชั่วใช่ไหม?
นิยามการทำดีก็ไม่สลับซับซ้อนอะไร ฆราวาสแค่ทำตามศีล 5 ถ้าจะทำมากหน่อยก็ศีล 8 ส่วนคนที่ตั้งใจบวชเป็นพระ ก็ต้องทำตามพระธรรมวินัย 227 ข้อ ถ้าไม่เห็นด้วยกับ 227 ข้อ ก็อย่าสะเออะเข้ามาบวชพระ หรือบวชแล้วปฏิบัติตามพระธรรมวินัย 227 ข้อไม่ได้ ก็อย่าหน้าด้านอยู่ให้ศาสนาต้องมัวหมอง รีบสึกออกไปเป็นคนธรรมดาโดยไวเลย...จริงไหม?
การพิจารณาดูพระจริงกับพระปลอมนั้น...ไม่ยาก...!
พระจริงขององค์พระศาสดา ทั้งวัตรปฏิบัติและคำสอนต้องชัดเจน ชี้ทางออกของทุกข์และสุขด้วยเหตุและผล เพราะทุกคำถามแห่งทุกข์สุข ล้วนมีธรรมเป็นคำตอบทั้งสิ้น เช่น
“สวรรค์อยู่ในอก-นรกอยู่ในใจ” ของเรานี่เอง สุขกายสุขใจก็ขึ้นสู่ “สวรรค์” ในอก ทุกข์กายทุกข์ใจก็ตก “นรก” ในใจ ดังนั้น ตัวของเราเองนี่แหละ เป็นผู้ทำให้ตัวเรา “ขึ้นสวรรค์” หรือ “ตกนรก” ก็ได้ เราต้องเลือกว่า...เราจะปฏิบัติตนให้อยู่ใน “สวรรค์” หรือใน “นรก”
แต่สิบแปดมงกุฎที่โกนหัวใส่ผ้าเหลืองแห่งสำนักนักบวชทุศีล ทั้ง “นะครับ-นะจ๊ะ-นะยะ” กลับใช้ “นรก-สวรรค์” มาล่อลวงให้ผู้คนที่มีความทุกข์หวังจะขึ้น “สวรรค์ชั้นฟ้า” ด้วยเงินตราเสียฉิบ
วันนี้-กลุ่มธุรกิจการเมืองสามานย์ ยังเดินหน้ายึดชาติ-ยึดศาสนจักร-โค่นล้มเจ้าอยู่ตลอดเวลา!
วันนี้เช่นกัน-ชาติไทยต้องการผู้นำที่รู้เท่าทันแผนร้ายของคนชั่ว และกล้าหาญในการขจัดคนชั่วแบบเด็ดขาด!!!
คำถาม คือ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา...ทำงานนี้ได้อ๊ะป่าว???
ชาติ -คือ ประชาชนและสรรพสิ่งในประเทศไทย ซึ่งต้องได้รับการดูแลด้วยความยุติธรรม
ศาสนา -คือ สิ่งยึดเหนี่ยวให้มนุษย์ทำในสิ่งดีงาม ทั้งทางความคิดและปฏิบัติ เพื่อให้ชีวิตเดินไปบนหนทางอันทรงไว้ซึ่งคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต รู้พอเพียง ไม่เบียดเบียน เอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน อีกทั้งเป็นผู้ให้หรือเสียสละเพื่อส่วนรวม
สรุปแบบเรียบง่ายและงดงามยิ่ง คือ ศาสนาสอนให้คนจงทำดีและละการทำชั่วนั่นเอง!
พระมหากษัตริย์ กับ คนไทย ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาแต่อดีตตราบปัจจุบัน เรียกว่า...สถาบันพระมหากษัตริย์นั้น อยู่คู่กับสังคมไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะในหลวงรัชกาลปัจจุบัน ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจโดยมิรู้เหนื่อย เพื่อช่วยให้พสกนิกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ที่สำคัญพระองค์ได้ทรงเสนอทฤษฎี “เศรษฐกิจพอเพียง” ให้เป็นแนวทางดำเนินชีวิตของคนในชาติ จนเป็นที่ยอมรับของคนไทยและชาวโลก
ดังนั้น ถ้าชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ สถาบันใดสถาบันหนึ่งอ่อนแอลงหรือเข้มแข็งขึ้น ย่อมส่งผลกระทบต่อกันและกัน ทั้งในแง่ลบหรือแง่บวกทันทีโดยอัตโนมัติ
หากชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มั่นคงแข็งแรง พวกอภิมหาโจรทั้งไทยและต่างประเทศ ที่สมคบคิดจะโกงและปล้นทรัพยากรในชาติไทย ก็จะทำชั่วได้ยากขึ้น-ทำชั่วได้น้อยลง-หรือทำชั่วไม่ได้เลย ในบางเรื่องบางกรณี
ยามนี้...กลุ่มทุนสามานย์ที่เคยยึดอำนาจรัฐไทย มองว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” นั้น เป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการกอบโกยผลประโยชน์ ของระบอบทุนนิยมสามานย์เหลี่ยมและพวกในต่างแดน
ดังนั้น กลุ่มทุนสามานย์ทั้งในและต่างชาติ จึงแอบสนับสนุนขบวนการ “ล้มเจ้า” โดยให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์สารพัดเรื่อง ด้วยมุ่งจะเปลี่ยนการปกครองชาติไทย ถึงขนาดเหลี่ยมเคยประกาศที่ต่างแดนว่า
อีกไม่นาน...ไทยจะเป็นประชาธิปไตยแบบอเมริกา นั่นคือ ระบอบประธานาธิบดีเป็นประมุข!!!
“ล้มเจ้า” ยังไม่พอ...เหลี่ยมยังสมคบกับกลุ่มเดียรถีย์ที่ใช้ผ้าเหลืองบังหน้า แจกทรัพย์สินให้พระใหญ่น้อยบางรูป เพื่อยึดอำนาจในวงการศาสนา เพราะรัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยมหวังใช้พระทั่วประเทศเป็นหัวคะแนนทางการเมือง เครือข่ายเหลี่ยมจึงให้การสนับสนุนเดียรถีย์ “นะจ๊ะ” ทั้งการจัดกิจกรรมและงบประมาณอย่างต่อเนื่อง
เหลี่ยมกับเดียรถีย์ “นะจ๊ะ” และพวก โดยเฉพาะพระผู้ใหญ่บางรูปที่ดูแลศาสนา ได้ปล่อยให้วงการสงฆ์เต็มไปด้วยการต้มตุ๋น-การโกหกหลอกลวง-การโกงเงินชาวบ้านและวัด ฯลฯ เผยแพร่คำสอนที่อวดอุตริมนุสธรรม ที่มิใช่พุทธศาสนาที่แท้จริงเรื่อยมา
แถมเดียรถีย์ยังได้เลื่อนตำแหน่ง ได้แต่งตัวเลียนแบบสงฆ์มาจนทุกวันนี้ ทั้งๆ ที่ลิขิตของพระสังฆราชระบุชัดว่า เดียรถีย์ที่โกงทรัพย์สินของวัดนั้น ได้อาบัติต้องปาราชิกไปนานแล้ว
ความชั่วเก่ายังไม่มีการลงโทษ ลัทธิ “นะจ๊ะสู่สวรรค์ด้วยเงิน” ก็ร่วมกับคนชั่วโกงเงินสมาชิกสหกรณ์ฯ นำไปฟอก-ไปผลาญ-กับธุรกิจกำมะลออีกนับพันนับหมื่นล้านบาท เรื่องฉาวจนทางการกำลังตามรอยฉ้อฉลนี้ เพื่อดำเนินคดีทางโลกต่อกลุ่มคนชั่ว ในขณะที่พระผู้ใหญ่ยังนิ่งเฉยทำตัวเป็น “ทองไม่รู้ร้อน” ต่อไปเหลี่ยม-เดียรถีย์-พระผู้ใหญ่บางรูป ได้ทำให้ชาวพุทธเคลือบแคลง-ระแวง-สงสัย ทำลายศรัทธาที่มีต่อพระสงฆ์ในศาสนจักรจนสั่นคลอนมิใช่น้อย
วันนี้ถ้าจะกราบไหว้พระสักรูป ต้องคิดอยู่หลายตลบว่า โล้นห่มผ้าเหลืองถือบาตรเดินมานั้น เป็นพระจริง พระดี พระปฏิบัติธรรมตามรอยพระบาทขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้ารึเปล่า?
ว่าไปแล้ว...พระธรรมคำสอนนั้น ไม่มีอะไรสลับซับซ้อนเลย เพราะพระต้องสอนให้คนทำดี และสอนให้คนละการทำชั่วใช่ไหม?
นิยามการทำดีก็ไม่สลับซับซ้อนอะไร ฆราวาสแค่ทำตามศีล 5 ถ้าจะทำมากหน่อยก็ศีล 8 ส่วนคนที่ตั้งใจบวชเป็นพระ ก็ต้องทำตามพระธรรมวินัย 227 ข้อ ถ้าไม่เห็นด้วยกับ 227 ข้อ ก็อย่าสะเออะเข้ามาบวชพระ หรือบวชแล้วปฏิบัติตามพระธรรมวินัย 227 ข้อไม่ได้ ก็อย่าหน้าด้านอยู่ให้ศาสนาต้องมัวหมอง รีบสึกออกไปเป็นคนธรรมดาโดยไวเลย...จริงไหม?
การพิจารณาดูพระจริงกับพระปลอมนั้น...ไม่ยาก...!
พระจริงขององค์พระศาสดา ทั้งวัตรปฏิบัติและคำสอนต้องชัดเจน ชี้ทางออกของทุกข์และสุขด้วยเหตุและผล เพราะทุกคำถามแห่งทุกข์สุข ล้วนมีธรรมเป็นคำตอบทั้งสิ้น เช่น
“สวรรค์อยู่ในอก-นรกอยู่ในใจ” ของเรานี่เอง สุขกายสุขใจก็ขึ้นสู่ “สวรรค์” ในอก ทุกข์กายทุกข์ใจก็ตก “นรก” ในใจ ดังนั้น ตัวของเราเองนี่แหละ เป็นผู้ทำให้ตัวเรา “ขึ้นสวรรค์” หรือ “ตกนรก” ก็ได้ เราต้องเลือกว่า...เราจะปฏิบัติตนให้อยู่ใน “สวรรค์” หรือใน “นรก”
แต่สิบแปดมงกุฎที่โกนหัวใส่ผ้าเหลืองแห่งสำนักนักบวชทุศีล ทั้ง “นะครับ-นะจ๊ะ-นะยะ” กลับใช้ “นรก-สวรรค์” มาล่อลวงให้ผู้คนที่มีความทุกข์หวังจะขึ้น “สวรรค์ชั้นฟ้า” ด้วยเงินตราเสียฉิบ
วันนี้-กลุ่มธุรกิจการเมืองสามานย์ ยังเดินหน้ายึดชาติ-ยึดศาสนจักร-โค่นล้มเจ้าอยู่ตลอดเวลา!
วันนี้เช่นกัน-ชาติไทยต้องการผู้นำที่รู้เท่าทันแผนร้ายของคนชั่ว และกล้าหาญในการขจัดคนชั่วแบบเด็ดขาด!!!
คำถาม คือ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา...ทำงานนี้ได้อ๊ะป่าว???